ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อนว่าตอนทำประกันชีวิตและสุขภาพ ผมแถลงโรคAไป ส่วนประวัติซึมเศร้าไม่ได้แถลงเพราะหมอพูดคลุมเครือหน่อยๆ บางครั้งบอกว่าที่เราเป็นมันแค่โรควิตกกังวลไม่ใช่โรคซึมเศร้า ผมเลยเลือกที่จะไม่ระบุตอนสมัครประกัน
แต่ด้วยประวัติการรักษาปกติเราจะบอกหมอหมดว่าเราเป็นอะไร รักษาอะไรอยู่ เนื่องจากผมแถลงโรคAไป ประกันจึงขอประวัติการรักษา เขาจึงเห็นประวัติที่ผมแจ้งหมอไปว่า มีรักษาโรคเครียด/โรควิตกกังวลอยู่ ผมไม่แน่ใจว่าบอกหมอที่รักษาโรคAไปว่าโรคอะไรแน่ เพราะตัวแทนมารับและส่งประวัติให้หมดเลย ผมเลยไม่เห็นข้อความข้างใน
ผลคือบริษัทรับทำประกันสุขภาพแบบมีเงื่อนไขยกเว้นโรคA โรคทางจิตเวช และอาการสืบเนื่อง โดยที่บริษัทประกันไม่ได้ขอประวัติเกี่ยวกับโรคเครียดเพิ่มเติม
ผ่านมา7เดือนมาผมมีความสนใจอยากทำประกันOPD เนื่องด้วยผมเป็นคนขี้เหนียว เวลาเจ็บป่วยอะไรชอบรอให้หายเองมากกว่าที่จะไปหาหมอ เพราะไม่อยากเสียเงินเยอะ แต่ถ้าทำประกันOPDไว้ผมน่าจะกล้าไปหาหมอมากขึ้น เวลาเป็นโรคอะไรจะได้เจอแต่เนิ่นๆ
ครั้งนี้บริษัทประกันเลยขอประวัติการรักษาโรคเครียด โดยระบุว่าบริษัทยังได้รับเอกสารไม่ครบถ้วน ซึ่งในประวัติการรักษาผมไปขอเองและนำส่งเอง ผมจึงเห็นข้อความด้านใน ข้อความหน้าแรกเป็นเรื่องการย้ายเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลนี้ ส่วนมากเป็นคำพูดของผมที่บอกหมอว่าอาการเป็นอย่างไร เคยรักษาอะไรมา และผมบอกหมอไปว่าเป็นซึมเศร้า หมอเลยลงประวัติไปทั้งอย่างนั้น (แต่จริงๆแล้วหมอแจ้งว่าที่เราเป็นมันคือโรควิตกกังวล ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แต่หมอไม่ได้ลงในประวัติการรักษาเอาไว้)
และผลการพิจารณาขอเพิ่มกรมธรรม์OPDของผมก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากประวัติสุขภาพไม่อยู่ในเกณฑ์
ตัวกรมธรรม์สุขภาพเดิมที่มีผลบังคับใช้มาแล้ว7เดือน ผมเข้าใจว่าทางบริษัทก็อาจจะอยากยกเลิก เพราะเท่าที่เข้าใจซึมเศร้าเป็นโรคความเสี่ยงสูงสำหรับบริษัทประกัน แต่น่าจะยกเลิกไม่ได้ เนื่องจากในกรมธรรม์ตามมาตรฐานใหม่ระบุไว้ว่าถ้าเห็นข้อมูลแล้วแต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์โต้แย้งภายใน1เดือน บริษัทจะโต้แย้งไม่ได้
แต่คำถามหลักที่ผมสงสัยอยู่ในตอนนี้คือเรื่องการต่ออายุสัญญาประกันสุขภาพในปีถัดไป
เนื่องจากจากข้อมูลตามภาพ ระบุเรื่องการไม่แถลงข้อมูลตามจริงในใบขอเอาประกันภัยเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สามารถใช้ในการบอกปัดการต่อสัญญาได้
ถึงแม้บริษัทจะรับทราบข้อมูลสุขภาพนี้แล้วจากประวัติการรักษาเกิน1เดือนและมีการยกเว้นความคุ้มครองโรคทางจิตเวชและอาการสืบเนื่องไปแล้ว แต่ผมไม่ได้แถลงโรคซึมเศร้าไปในใบคำขอเอาประกัน บริษัทสามารถใช้เหตุผลนี้ในการไม่ต่อสัญญาในปีถัดไปได้ไหมครับ
ประกันมาตรฐานใหม่ บริษัทประกันสามารถไม่ต่ออายุกรมธรรม์ได้ไหม
แต่ด้วยประวัติการรักษาปกติเราจะบอกหมอหมดว่าเราเป็นอะไร รักษาอะไรอยู่ เนื่องจากผมแถลงโรคAไป ประกันจึงขอประวัติการรักษา เขาจึงเห็นประวัติที่ผมแจ้งหมอไปว่า มีรักษาโรคเครียด/โรควิตกกังวลอยู่ ผมไม่แน่ใจว่าบอกหมอที่รักษาโรคAไปว่าโรคอะไรแน่ เพราะตัวแทนมารับและส่งประวัติให้หมดเลย ผมเลยไม่เห็นข้อความข้างใน
ผลคือบริษัทรับทำประกันสุขภาพแบบมีเงื่อนไขยกเว้นโรคA โรคทางจิตเวช และอาการสืบเนื่อง โดยที่บริษัทประกันไม่ได้ขอประวัติเกี่ยวกับโรคเครียดเพิ่มเติม
ผ่านมา7เดือนมาผมมีความสนใจอยากทำประกันOPD เนื่องด้วยผมเป็นคนขี้เหนียว เวลาเจ็บป่วยอะไรชอบรอให้หายเองมากกว่าที่จะไปหาหมอ เพราะไม่อยากเสียเงินเยอะ แต่ถ้าทำประกันOPDไว้ผมน่าจะกล้าไปหาหมอมากขึ้น เวลาเป็นโรคอะไรจะได้เจอแต่เนิ่นๆ
ครั้งนี้บริษัทประกันเลยขอประวัติการรักษาโรคเครียด โดยระบุว่าบริษัทยังได้รับเอกสารไม่ครบถ้วน ซึ่งในประวัติการรักษาผมไปขอเองและนำส่งเอง ผมจึงเห็นข้อความด้านใน ข้อความหน้าแรกเป็นเรื่องการย้ายเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลนี้ ส่วนมากเป็นคำพูดของผมที่บอกหมอว่าอาการเป็นอย่างไร เคยรักษาอะไรมา และผมบอกหมอไปว่าเป็นซึมเศร้า หมอเลยลงประวัติไปทั้งอย่างนั้น (แต่จริงๆแล้วหมอแจ้งว่าที่เราเป็นมันคือโรควิตกกังวล ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แต่หมอไม่ได้ลงในประวัติการรักษาเอาไว้)
และผลการพิจารณาขอเพิ่มกรมธรรม์OPDของผมก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากประวัติสุขภาพไม่อยู่ในเกณฑ์
ตัวกรมธรรม์สุขภาพเดิมที่มีผลบังคับใช้มาแล้ว7เดือน ผมเข้าใจว่าทางบริษัทก็อาจจะอยากยกเลิก เพราะเท่าที่เข้าใจซึมเศร้าเป็นโรคความเสี่ยงสูงสำหรับบริษัทประกัน แต่น่าจะยกเลิกไม่ได้ เนื่องจากในกรมธรรม์ตามมาตรฐานใหม่ระบุไว้ว่าถ้าเห็นข้อมูลแล้วแต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์โต้แย้งภายใน1เดือน บริษัทจะโต้แย้งไม่ได้
แต่คำถามหลักที่ผมสงสัยอยู่ในตอนนี้คือเรื่องการต่ออายุสัญญาประกันสุขภาพในปีถัดไป
เนื่องจากจากข้อมูลตามภาพ ระบุเรื่องการไม่แถลงข้อมูลตามจริงในใบขอเอาประกันภัยเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สามารถใช้ในการบอกปัดการต่อสัญญาได้
ถึงแม้บริษัทจะรับทราบข้อมูลสุขภาพนี้แล้วจากประวัติการรักษาเกิน1เดือนและมีการยกเว้นความคุ้มครองโรคทางจิตเวชและอาการสืบเนื่องไปแล้ว แต่ผมไม่ได้แถลงโรคซึมเศร้าไปในใบคำขอเอาประกัน บริษัทสามารถใช้เหตุผลนี้ในการไม่ต่อสัญญาในปีถัดไปได้ไหมครับ