ซื้อรถติดไฟแนนซ์ 🥲

หลายคนอ่านหัวข้อกระทู้แล้วอาจจะพูดว่า งั้นก็รอติดคุกเลยละกั้นนน
แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ให้ผมอธิบายต้นสายปลายเหตุก่อนนะครับ
ผมเจอคนประกาศขายรถในแพลตฟอร์ม เฟสบุ๊ค โดยตั้งเป็นสาธารณะ เห็นทะเบียนชัดเจน และมีคำอธิบายสินค้าว่า "ต้องการขายขาด"
ราคาถือว่าสมเหตุสมผลนะครับ เป็นรถยี่ห้อหนึ่ง อายุ 11 ปี เคยประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่ร้ายแรงมาก เคยจอดแช่น้ำ ราคาตลาดอยู่ที่ 250,000 - 310,000++
สภาพภายในฝุ่นเขรอะ มีรอยขนแมวทั่วภายใน และประกาศขายในราคา 150,000 บาท ซึ่งผมสนใจจะเอามาดูแลต่อไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน
ผมจึงได้ติดต่อกับผู้ขายไป จากนั้นได้รู้ว่ารถคันนี้จริงๆ ติดไฟแนนซ์อยู่มากกว่าราคาขายเล็กน้อย (จำไม่ได้อน่ชัดว่ากี่บาท แต่ประมาณ 30,000 - 40,000 บาท) แต่ผู้ขายต้องการขายเพราะรับภาระหนี้สินไม่ไหว และจำเป็นต้องใช้เงิน จากนั้นผู้ขายได้ทำการส่งสัญญาซื้อขายผ่านทางแชทไลน์โดยมีพยานเซ็นรับทราบด้วย (ซึ่งภายหลังมารู้ว่าสัญญาดังกล่าวผู้ขายได้ทำการเขียนรับรองขึ้นเอง) และผู้ขายยังเน้นย้ำว่าหลังจากทำการโอนเงินให้ผู้ขายแล้ว จะนำไปปิดยอดหนี้ไฟแนนซ์ให้ และโอนเล่มทะเบียนเป็นชื่อผมในลำดับถัดไป ต่อมาผู้ขายขอความเห็นใจให้ผมช่วยออกค่าขนส่งให้ เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล และรถอยู่ต่างจังหวัด โดยผมก็เห็นใจและได้ตัดสินใจช่วยออกค่าขนส่งไปเป็นจำนวนกว่า 17,000 บาท จากนั้นผู้ขายได้ทำการส่งรถมาให้ที่คอนโดของผม ในวันถัดไปเลย จากนั้นผมก็ได้ติดตามเรื่องการโอนเล่มทะเบียนและปิดหนี้ไฟแนนซ์ตลอดกว่า 1 อาทิตย์ ซึ่งผู้ขายก็พลัดวันตลอดระยะเวลา 2 อาทิตย์ และพยายามขอยืมเงินจากผมตลอด และก็ได้อ้างว่าต้องใช้เป็นค่าเดินทาง เนื่องจากตัวเองอยู่ ตจว. แต่ต้องไปดำเนินการที่กรุงเทพฯ ซึ่งผมก็เอะใจแล้วว่าน่าจะมีอะไรแน่ๆ แต่ด้วยความที่อยากจบเรื่องนี้ให้ไวๆ และกลัวว่าถ้าใช้เวลามากกว่านี้ต้องมีปัญหาตามมาทีหลังแน่ๆ เลยให้ยืมเงินไปจำนวน 6,000 บาท และทางผู้ขายก็อ้างอีกว่า มารดาของตนนั้นป่วย เป็นมะเร็งตับและอาการทรุดหนัด จึงจำเป็นต้องกลับไปดูแลอย่างเร่งด่วน เมื่อเสร็จกิจทั้งหมดแล้วจะดำเนินไปปิดยอดหนี้ไฟแนนซ์ให้ จากนั้นไม่กี่วันผู้ขายได้อ้างว่า มารดาของตนนั้นเสียชีวิตแล้ว และกำลังจะไปดำเนินการให้โดยขอเวลาอีก 1 - 2 อาทิตย์ และอ้างว่า ต้องผ่อนงวดรถก่อน 2 งวดเนื่องจากตนขาดส่งมาแล้ว 3 งวด เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหากับทางไฟแนนซ์ระหว่างดำเนินการ จึงขอความช่วยเหลือจากผม ให้ผมผ่อนให้ก่อน 2 งวด และด้วยที่ผมไม่อยากมีปัญหาและอยากจบเรื่องนี้จริงๆ จึงได้ช่วยเหลือโดยการให้ยืมไปอีก 11,400 บาท เพื่อที่ให้ผู้ขายไปจ่ายค่างวดรถ และผมได้ขอหลักฐานการชำระเงิน ซึ่งผู้ขายก็ได้เงียบหายไป ตอนนี้ผมแน่ใจที่สุดแล้วว่าโดนหลอกแน่ๆ จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดไปที่สถานีตำรวจ ซึ่งทางตำรวจได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ และพยายามให้กลับไปไกล่เกลี่ย จากนั้นผมก็ได้พยายามติดต่อกับทางผู้ขายอีกครั้ง โดยถามถึงเรื่องการโอนเล่มทะเบียนและปิดไฟแนนซ์ ซึ่งผู้ขายได้อ้างว่า ตนมีธุระและจะไปดำเนินการให้ในภายหลัง จากนั้นผมได้พยายามขอเงินคืนและจะคืนรถที่ซื้อมาซึ่งผู้ขายก็ได้บอกเพียงว่า ไม่มีเงินคืนให้เพราะตนเอาไปใช้จ่ายหมดแล้ว ซึ่งผมได้ทำการบอกกับทางผู้ขายว่า ผมจะทำการดำเนินคดีกับผู้ขายในข้อหาฉ้อโกงนะ ซึ่งผู้ขายก็ไม่ได้แสดงท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด บอกเพียงประมาณว่า "อยากได้คืนก็ไปฟ้องเอา" ผมรู้สึกโกรธมากที่ถูกหลอกและได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางผู้ขายในวันถัดไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการรับคำร้องทุกข์ของผมไว้และบอกว่านี่อาจจะเป็นดาบสองคมสำหรับตัวผมด้วยเนื่องจากผมก็มีส่วนของการกระทำผิดในครั้งนี้คือการรับซื้อของโจร โดยที่ตัวผมก็รู้อยู่แล้วว่ามันติดไฟแนนซ์แต่ก็ยังซื้อมา ซึ่งในส่วนของเจตนาก็จำเป็นต้องให้อัยการ และศาลท่านพิจารณาอีกที เนื่องจากผมไม่ใช่ผู้เสียหายโดยชอบตามกฎหมาย ซึ่งผมก็เตรียมใจที่จะโดนทางไฟแนนซ์เค้าฟ้องกลับแล้วครับ และผมก็ได้แจ้งทางไฟแนนซ์ให้รับทราบแล้ว เมื่อเขามาตามรถ ผมก็พร้อมที่จะคืนครับ และคำถามของผมก็คือ ในมุมมองของนักกฎหมาย เจตนาของผมเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ไหมครับ หรือยังไงก็ต้องเตรียมรับโทษอย่างแน่นอนถ้าทางไฟแนนซ์เขาฟ้องมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่