[CR] JAPAN SAKURA 2023 in OSAKA เส้นทางสายซากุระในโอซาก้า แวะกินราเม็ง เที่ยวช้อปย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์


ตั้งแต่ญี่ปุ่นเปิดประเทศมาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ตื่นเต้นที่สุดเพราะว่าเป็นช่วงซากุระโค้งสุดท้ายของปีนี้เลยค่ะ ซึ่งหลายๆ คนก็คงได้มีโอกาสไปดูซากุระกันแล้ว ที่โอซาก้าก็จะบานประมาณช่วงปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึงต้นเดือน ซากุระสายพันธุ์ทั่วไปอย่างสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะพอพ้นต้นๆ เดือนเมษาก็เริ่มร่วงแล้ว วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ไปดูซากุระสายพันธุ์แปลกๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นทั่วไป และจะบานช้ากว่าสายพันธุ์ทั่วไปหน่อย เพิ่มความพิเศษในการชมซากุระไปอีกระดับ 
นอกจากจะพาไปดูซากุระแล้ว เราก็จะแวะไปปราสาทโอซาก้าซักหน่อยเพื่อทานอาหารกลางวัน
จากนั้นก็ไปช้ิปปิ้งกันซักหน่อย วันนี้อยากได้ของฝาก ของจุกจิก เลยจะแวะไปที่ย่านโอซาก้านิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์ มีคนฝากเราซื้อของด้วยพวกโมเดลกันดั้มกันพลา ว่าจะไปดูให้เขาซักหน่อย ไปดูพร้อมๆ กันเลยนะคะ

โรงกษาปณ์ญี่ปุ่น หรือ JAPAN MINT ประจำสาขาโอซาก้าถือเป็นโรงกษาปณ์สาขาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยปกติจะเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้บุคคลคนทั่วไปได้เข้าชมโรงงาน หรือการจัดแสดงต่างๆ ที่เกี่ยวกับโรงกษาปณ์ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงซากุระบาน โรงกษาปณ์แห่งนี้จะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมเส้นทางสายซากุระ หรือ “ซากุระโนะโทรินุเกะ(Sakura no Torinuke)” ได้ฟรีเป็นเวลา 1 อาทิตย์ในช่วงต้นเดือนเมษายน ไปจนถึงช่วงกลางเดือน ซึ่งจะเร็วกว่านิดหน่อย หรือพอดีกับช่วงวันหยุดยาวของไทยในช่วงวันหยุดสงกรานต์ สำหรับปีที่ผ่านมาปีพ.ศ.2566 ได้เปิดให้เที่ยวชมช่วงวันที่ 7 เมษายน ไปจนถึง 13 เมษายน เวลาตั้งแต่ 10:00 น. ถึง 19:30 น.(ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9:00-19:30 น.) ในช่วงเวลากลางคืนจะมีการฉายไฟในเส้นทางซากุระ ทำให้ทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของซากุระนานาชนิดกันอย่างล้นหลามในทุกๆ ปี โดยจะต้องลงทะเบียนวันและเวลาในการเข้าชมมาล่วงหน้าเท่านั้น เพราะก่อนเข้าจะต้องแสดง QR โค้ดลงทะเบียนเข้าชมด้วยค่ะ
https://www.mint.go.jp/category/eng

ideaสำหรับการเดินทาง
สถานีใกล้เคียง : สถานีซากุระโนะมิยะ(Sakuranomiya Station) และสถานี เท็มมะบาชิ(Temmabashi Station)

แต่ครั้งนี้เราจะเดินทางจากสถานี เท็มมะบาชิ(Temmabashi Station) ที่เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi Line และ รถไฟ Keihan Railway ค่ะ
โดยเราเดินทางมาจากสถานี Tennoji ที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินคันไซ

เมื่อเดินทางมาถึงรถไฟใค้ดินสาย Tanimachi Line มาที่สถานีเท็มมะบาชิ(Temmabashi Station) แล้วก็เดินออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติเพื่อออกจากประตูทางออกหมายเลข 1 และ 2 ค่ะ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปตามทางเรื่อยๆ 

เมื่อขึ้นบันไดมาเห็นทางเข้าไปรถไฟ Keihan Railway แล้วก็เดินออกจากตึกไปทางประตูทางออกหมายเลข 14 เลยค่ะ จากนั้นก็เดินเลี้ยวออกไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอลานกว้างแล้ว Starbucks ให้เดินตรงไปจนเจอสี่แยก จากนั้นก็เดินเลี้ยวไปทางซ้ายมือ ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ถือป้ายบอกทางอยู่ตลอดเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวหลงทางเลยค่ะ เดินตรงไปเลื่อยๆ จนสุดทางจากนั้นก็เลี้ยวขวา และเดินข้ามสะพานไปทางซ้ายมือ 

วิวสะพานสวยๆ มาก ฝั่งด้านขวามือมีซากุระบานอยู่ด้วย

เมื่อเดินไปจนสุดทางสะพานแล้วก็เดินข้ามถนนไปทางขวามือ จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเรียบแม่น้ำเลย พอเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าเส้นทางสายซากุระ หรือ “ซากุระโนะโทรินุเกะ(Sakura no Torinuke)” เลย 

เรียบทางเดินระหว่างทางก็เป็นทางสายซากุระที่สวยไปแพ้กันเลย 

ผ่านเข้าไปด้านในจะมีขั้นตอนตรวจ QR โค้ดที่ลงทะเบียนมา และมีตรวจกระเป๋าเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย
เมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็เดินดูซากุระกันได้เลย

เส้นทางสายซากุระ หรือ “ซากุระโนะโทรินุเกะ(Sakura no Torinuke)”  เป็นแหล่งรวมซากุระหลากหลายสายพันธุ์กว่า 140 ชนิด รวม 399 ต้น เป็นระยะทางประมาณ 560 เมตร โดยส่วนใหญ่จะเป็นซากุระสายพันธุ์ “ยาเอะซากุระ” ซึ่งเอกลักษณ์ของยาเอะซากุระก็คือ กลีบดอกที่มีจำนวนมาก ตั้งแต่ 10-130 กลีบ ขึ้นอยู่กับแต่ละชนิด ในบางชนิดอาจมีมากกว่า 300 กลีบต่อหนึ่งดอกเลยทีเดียว ทำให้ได้ชมซากุระที่แปลกตาออกไปจากซากุระสายพันธุ์ทั่วไปอย่าง “โซเมอิโยชิโนะ” ที่มีอยู่เพียง 5 กลีบเท่านั้น
*ข้อควรระวังในการเที่ยวชม คือ “ห้ามรับประทานหรือนำอาหารเข้า” ในบริเวณเส้นทางซากุระ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้า ห้ามสูบบุหรี่ภายในพื้นที่ และห้ามนำยานพาหนะทุกชนิดเข้าพื้นที่ และเมื่อเดินเข้าไปแล้วไม่สามารถเดินย้อนกลับทางเดิมได้ จะเป็นเส้นทางเดียวเท่านั้น ภายในพื้นที่สามารถถ่ายรูปได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถใช้ไม่เซลฟี่ หรือขาตั้งในพื้นที่

เมื่อเดินเข้ามาก็จะเข้าสู่เส้นทางสายซากุระ เป็นอุโมงค์ซากุระสวยมากๆ เลย ได้เห็นซากุระแปลกตาเยอะมากๆ 
ไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีซากุระสายพันธุ์อะไรบ้าง

กิโอจิกิโจะซากุระ : Gi ou ji gi jo za ku ra (祇王寺祇女桜)
เป็นซากุระที่มีอยู่ในวัดเกียวโตกิโอจิกิโจะ  ที่มีชื่อมาจากตำนวนเฮเกะ ดอกมีสีชมพูอ่อน มีกลีบดอกประประมาณ 15 กลีบต่อดอก ที่นี่มีจำนวน 2 ต้น

ฮิราโนะนาเดชิโกะ : Hiranonadeshiko (平野撫子)
ซากุระจากศาลเจ้าเกียวโตฮิราโนะ ซึ่งลายบริเวณตรงกลางคล้ายดอกนาเดชิโกะ หรือดอกผีเสื้อ จึงได้ชื่อนี้มา สีชมพูอ่อน มีกลีบดอกประมาณ 40 กลีบต่อหนึ่งดอก ที่นี่มีอยู่จำนวน 3 ต้น

เบนิชิงุเระ : Beni-shigure(紅時雨)
ดอกสีม่วงเข้ม กลีบซ้อนกัน ประมาณ 28-40 กลีบต่อหนึ่งดอก มีจำนวน 3 ต้น

อิจิโย : I chi yo (一葉)
สีชมพูอ่อน กลีบประมาณ 25 กลีบต่อหนึ่งดอก เมื่อบานเต็มที่จะออกสีขาว ที่นี่มีจำนวน 3 ต้น

คันซัน : Kanzan (関山)
ดอกสีชมพูเข้มที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มี 60 กลีบต่อหนึ่งดอก ที่นี่มีจำนวน 60 ต้น

จุซึคาเคะซากุระ : Juzukakezakura (数珠掛桜)
เป็นดอกที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ สีชมพูอ่อน  1 ดอกมีกลีบดอกมากถึงประมาณ 200 กลีบ ที่นี่มีจำนวน 2 ต้น

เกียวอิโค : Gyo i ko (御衣黄)
ซากุระสายพันธุ์ที่ค่อนข้างแปลกเพราะว่ามีสีเขียวอมเหลือง แต่เมื่อดอกบานไปเรื่อยๆ ก็จะมีสีชมพูแทรกอยู่บริเวณตรงกลาง มีกลีบดอกประมาณ 15 กลีบต่อหนึ่งดอก ที่นี่มีจำนวน 5 ต้น

และที่นี่จะมีกำหนดซากุระประจำปีด้วย โดยจะเลือกจากความนิยม หรือดอกซากุระที่ถูกพูดถึงในปีที่ผ่านมานั่นเอง
ซึ่งปีดอกซากุระจำปีค.ศ.2023 ก็คือ "โชเก็ตสึ : Shogetsu (松月)" นั่นเอง

"โชเก็ตสึ : Shogetsu (松月)"
ในตอนที่ดอกหุบจะเป็นสีชมพูเข้ม แต่เมื่อบานก็จะกลายเป็นดอกสีขาวไล่สีไปชมพูอ่อนน่ารักมากๆ มีกลีบประมาณ 25 กลีบต่อหนึ่งดอก และมีใบสีเขียวขึ้นพร้อมๆ กับดอกซากุระ

ระหว่างก็เจอเหรียญขนาดใหญ่สลักลายโรงกษาปณ์ล้อมไปด้วยซากุระ

โคะเดมาริ : Kodemari (小手毬)
คล้ายๆ เทมาริ แต่มีขนาดเล็กจึงถูกเรียกว่า โคะเดมาริ หรือ เทมาริขนาดเล็กนั่นเอง มีสีชมพูกลมๆ น่ารัก

ตลอดทางของซากุรแต่ละต้นจะมีชื่อสายพันธุ์และรายละเอียดของต้นซากุระด้วย แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ

เทมาริ : Temari (手毬) 
คล้ายๆ กับสายพันธุ์ข้างบนที่ได้อธิบายไป ซึ่งอันนี้ชื่อว่า เทมาริ เพราะมาจากรูปทรงที่คล้ายลูกเทมารินั่นเอง ในกลมๆ ก็จะมีดอกบานเบียดกันอยู่ แต่ละดอกมีกลีบประมาณ 10 กลีบ ที่นี่มีจำนวน 2 ต้น
เป็นสายพันธุ์โปรดของเราเลย กลมๆ น่ารักๆ เหมือนลูกเทมาริเลย

เดินไปเรื่อยๆ ก็มาถึงทางออก ส่วนทางออกด้านขวามือ จะออกไปสู่สถานีเท็มมะบาชิ(ขวา) หรือ สถานีซากุระโนะมิยะ(ซ้าย)
และทางด้านซ้ายมือจะมีร้านขายของที่ระลึกด้วย มีเหรียญพิเศษที่มีขายเฉพาะช่วงนี้เท่านั้นด้วย

เสียดายมากๆ เลยค่ะ เพราะถ้าเดินออกจากประตูทางออกด้านขวามือ ไปทางสถานีเท็มมะบาชิ บริเวณลานกว้างด้านนอกจะมีร้านยาไต หรือร้านแผงลอยมาขายอาหาร เครื่องดื่มด้านนอกบรรยากาศคึกคักมากกก เพราะเราเคยมาปีก่อนๆ ก่อนโควิด เห็นว่าปีนี้ก็จัดแต่เหมือนจะมีถึงเมื่อวานค่ะ 
แต่เพื่อนที่เราไปทันถ่ายรูปมาอวด มีอาหารทะเล กับแกล้มให้ทานกับเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวซากุระ แงงง

ที่ที่เราอยู่ตอนนี้อยู่ห่างจากปราสาทโอซาก้าเลยค่ะ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้เราจะเดินไปที่ปราสาทโอซาก้ากัน แล้วก็ทานอาหารกลางวันกันที่นั่นเลย
ให้เดินย้อนกลับมาและเดินข้ามสะพานนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงปราสาทโอซาก้าเลย จากจุดสะพานนี้มองเห็นปราสาทโอซาก้าด้วย

ระหว่างทางเดินไปก็เห็นวิวหอคอยปราสาทโอซาก้าด้วย

และที่ที่เราจะทานอาหารกลางวันกันในวันนี้ก็คือร้านอาหารที่อยู่ภายใน JO-TERRACE ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ไว้เยอะมากๆ เดะขึ้นไปที่โซนชั้น 2 ก็จะเจอโซนที่เป็นเหมือนศูนย์อาหารที่รวมร้านต่างๆ เอาไว้ สามารถนั่งพื้นที่ส่วนกลางแล้วสั่งอาหารมาจากหลายๆ ร้านได้

เราเลือกทานเป็นร้านราเม็งร้านนี้เลย ชื่อว่า SUWAKI KOURAKU วิธีสั่งอาหารก็สั่งจากเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติได้เลย จิ้มๆ เลือกเมนูในหน้าจอ แล้วก็ชำระเงินจากเครื่องได้เลย เงินสดก็มีช่องใสแบงค์กับเหรียญให้เลยสะดวกมากๆ 

สั่งอาหารแล้วก็ไปนั่งรอที่โต๊ะเลย ส่วนน้ำก็มีวางให้บนโต๊ะเทดื่มได้เองเลย ที่ร้านมีบ๊วยดองให้ทานตัดเลี่ยนด่วย

และนี่ก็คือเมนูที่เราสั่งไป น่าทานไหมคะเพื่อนๆ เราสั่งเป็นเมนู GOLD SESAME RAMEN ราเม็งงาขาวรสชาติเข้มข้นแล้วก็หอมมากๆ เสิร์ฟคู่กับผงซันโชที่จะออกเผ็ดๆ แบบขึ้นจมูกหน่อย เมนูนี้ราคา 1,090 เยน

เข้นข้นอร่อยมากๆ แต่ไม่เลี่ยน กลมกล่อมสุดๆๆๆ

หลังจากนี้เราจะมีพาไปช้อปต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   JOSHIN SUPER KIDS LAND - Nipponbashi DenDen Town
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่