สวัสดีค่ะ ...
หลังจากครั้งที่แล้วได้มารีวิวทริปเก็บแลนด์มาร์ค โตเกียว-โอซาก้า ของการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเราไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่เรามีโอกาสได้แบ็คแพ็คไปกันเองกับเพื่อน เนื่องจากครั้งที่แล้วเราไปช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูร้อนเลย เจอฝน 1 วันเต็มๆ แถมยังไม่จุใจกับย่านโอซาก้า เพราะมีเวลาน้อยมากๆ เลยมีความรู้สึกว่าอยากจะกลับไปซ้ำที่นั่นอีกหลายๆรอบ ตกลงกับเพื่อน วางแผน แล้วไปตะลุยคันไซกันค่ะ !!
โอซาก้า เรารู้สึกชอบที่นี่มากกว่าโตเกียวนะ หลังจากครั้งแรกที่ได้ไปเยือนทั้งสองที่ และพอมีโอกาสได้ไปอีก ไม่ลังเลเลยว่าจะไปที่ไหนดี Osaka onlyyyyyy เมืองยอดฮิตของคนไทย 555 ไม่รู้สิ ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวของโอซาก้าเอง จริงๆเราไม่ได้มีที่ไหนอยากไปแล้วนะ อยากไปตะลอนเมืองรอบๆซะมากกว่า มีทั้ง โกเบ นารา เกียวโต วาคายาม่า แต่ครั้งนี้ขอเลือกไปที่ที่อยากไปมากที่สุดก่อน คือ นารากับเกียวโต (อันที่จริงมันก็เป็นข้อจำกัดในเรื่องของเวลามากกว่าแหละ) แต่ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของอาหาร ของเล่น แหล่งช้อปปิ้งราคาถูก คือต้องที่นี่เลยอ่ะ ชอบมากๆ เอาเป็นว่าในเมืองโอซาก้าเนี่ย อยากกิน อยากซื้อ มากกว่าอยากเที่ยว
ตั๋วเครื่องบิน
เราเดินทางไป-กลับด้วยสายการบิน Air Asia ระหว่างวันที่ 10-14 ม.ค. 63 ได้ตั๋วเครื่องบินมาในราคา 7432 บาท รวมโหลดกระเป๋าแล้ว (หลังจากคราวที่แล้วได้ตั๋วมาในราคา 94XX แต่คิดว่ายังแพงอยู่ เลยตั้งใจว่าครั้งนี้จะต้องกดให้ได้ถูกกว่าครั้งก่อน แล้วก็ ... เรียบร้อยค่ะ ได้มาในราคาที่ค่อนข้างพอใจ ^^) อ้อ !! เราจองตั๋วล่วงหน้า 3 เดือนนะ การจองตั๋วครั้งนี้บอกเราได้อย่างนึงว่า ตั๋วถูกไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนหรือข้ามปีเลยค่ะ และหลังจากที่จองแล้วก็ยังมีโปรออกมาเรื่อยๆ แถมถูกกว่านี้ด้วยซ้ำ 555 เจ็บใจๆ
ที่พัก (คอนเฟิร์มเลยว่าถูกและดี !!)
ทริปนี้เราพัก 2 ที่ค่ะ คือ โอซาก้า 3 คืน และ เกียวโต 1 คืน โดยจองผ่าน Booking เหตุผลหลักในการเลือกที่พักของเรานั้นคือ ราคาค่ะ เน้นถูกไว้ก่อน แต่ๆๆไม่ใช่ว่าจะคำนึงถึงเรื่องราคาอย่างเดียวนะ เพราะนอกจากราคาถูกแล้ว ต้องอยู่ติดสถานีรถไฟหรือใกล้ที่สุด (อันนี้สำคัญตอนต้องนั่งรถไฟไปสนามบินวันกลับ เพราะต้องออกแต่เช้า) และ...คะแนนรีวิวใน Booking ต้องเลิศค่ะ 555 ก็เลยได้ที่พักมาตามนี้
- Glamlodge (คะแนนใน Booking = 9.2) เรานอนที่นี่ 3 คืน รวมเป็นเงิน 1400 บาท/คน ตกคืนละ 466 บาท (นอนโอซาก้า คืนที่ 1 กับคืนที่ 3 และ 4) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Namba 400 เมตร ด้านหน้าและชั้นบนของที่พักจะเป็นร้านอาหาร และในส่วนที่เป็นห้องพักจะอยู่หลังร้าน ที่นี่จะไม่มีเคาท์เตอร์เช็คอินนะคะ ทางที่พักจะทำการส่งรหัสเข้าประตูชั้นนอกมาให้ทางอีเมล พอเข้าไปแล้วต้องเช็คอินผ่านแท็ปเล็ทที่เค้าวางเตรียมไว้ เสร็จแล้วจะมีรหัสเข้าห้องพักส่งมาทางอีเมลอีกครั้งนึง แต่ถ้าเรามีข้อสงสัยอะไรสามารถวีดีโอคอลผ่านแท็ปเล็ทเครื่องนั้น จะมีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ ตอนเช็คเอาท์ก็ต้องทำผ่านแท็ปเล็ตเช่นเดียวกัน ห้องพักที่นี่จะมีทั้งหมดแค่ 4 ห้อง เป็นห้องพักสำหรับ 4 คนทั้งหมด อาจจะดูลึกลับหน่อย แต่สะอาดและปลอดภัยมากๆค่ะ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
- Grids Kyoto Shijo Kawaramachi (คะแนนใน Booking = 9.0) ราคา 462 บาท/คน เป็นที่พักที่เกียวโตค่ะ (นอนคืนที่ 2) อยู่ติดกับตลาด Nishiki Market ห่างจากสถานี Kawaramachi 500 เมตร และสถานี Gion-Shijo 700 เมตร ที่นี่มีห้องพักหลากหลายแบบ มีทั้งแบบโฮสเทลและโฮเทล (เราชอบห้องน้ำที่นี่เป็นพิเศษนะ ภายในส่วนที่อาบน้ำจะกว้างกว่าทุกที่ที่เคยไปพักเลย และมีห้องน้ำเยอะด้วย) โดยรวมแล้วสะอาด เงียบ และระบบความปลอดภัยดีมาก อ้อ !! เราพักแบบโฮสเทล ห้อง 12 คน แต่มีคนพักจริง 7 คนค่ะ
การเดินทาง
3 วันแรก เราใช้บัตร
Kansai Thru Pass (KTP) แบบ 3 วัน ราคา 1127 บาท ซื้อผ่าน Traveloka (ราคานี้ซื้อตอนโปรโมชั่น 3 แถม 2) แล้วปริ้นใบจองออกมาไปแลกรับบัตรจริงที่สนามบินคันไซค่ะ // บัตรน่ารักมากจ้าาาแม่
ส่วนวันที่ 4 เราใช้บัตร
Enjoy Eco Card เป็นบัตรขึ้นรถไฟใต้ดินภายในเมือง แบบเหมารายวัน จะมี 2 ราคา คือ ถ้าเป็นวันธรรมดา ราคา 800 เยน แต่ถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดอื่นๆ ราคา 600 เยน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ค่าใช้จ่าย (เรทที่แลกไป = 0.28)
ตั๋วเครื่องบิน 7432
ค่าที่พัก 1862
ค่าเดินทาง 1976
เข้าวัด+ทำบุญ 428
อาหารการกิน 4143
ซื้อประกันการเดินทาง (ของ Sompo) 353
อื่นๆ 540
รวม 16,644 บาท
แพลนการเดินทางในครั้งนี้
Day 1 : Nara Park - Todaiji Temple - Kasuga-Taisha - Kofuku-ji Temple
Day 2 : Fushimi Inari Shrine - Kinkakuji Temple
Day 3 : Arashiyama - Bamboo Groves - Gion
Day 4 : Katsuo-ji Temple - Kuromon Market - Tsutenkaku
Day 5 : Back to BKK
เอาหล่ะค่ะ ...
เกริ่นมาเยอะแล้ว เราไปเริ่มเดินทางกันดีกว่า รอบนี้เราจะใส่รายละเอียดการเดินทางไว้ให้นะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน ทั้งนี้ เพื่อนๆสามารถเช็คตารางเวลาการเดินรถไฟ ระยะเวลาในการเดินทาง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายโดยรวมที่สรุปมาเป็นเส้นทางให้เราได้เปรียบเทียบว่าวิธีการเดินทางใดใช้เวลาน้อยหรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ได้ที่เว็บ
http://www.hyperdia.com/ไปค่ะ Let's gooooooo !!
Day 1
เช้านี้มาถึงสนามบินคันไซ เกือบๆ 9 โมง อากาศดี๊ดี ท้องฟ้าแจ่มใส หลังจากผ่านตม.และศุลกากรเรียบร้อย เราก็นำใบจองที่ปริ้นมาไปแลกรับบัตร KTP และเราก็เริ่มใช้บัตรในการขึ้นรถไฟสาย Nankai ไปยังที่พัก ที่พักเราอยู่สุดสายเลยค่ะ คือสถานี Namba ใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาที แล้วก็เดินต่อไปยังที่พักอีก 400 เมตร
หลังจากเช็คอินที่พัก กินข้าวเสร็จสรรพ ราวๆบ่าย 2 เราก็เดินทางไป Nara กันค่ะ ใช้เวลาในการเดินทางจาก Namba 40 นาที โดยใช้บัตร KTP ขึ้นรถไฟที่สถานี Namba ไปลงสุดสายที่สถานี Kintetsunara ใช้ทางออกที่ 5
หลังจากออกมาแล้วก็จะเจอป้ายรถบัสเลยค่ะ เป็นป้ายรถบัส N3 รอรถบัสสาย 70 หรือ 97 ก็ได้ นั่งไปได้สัก 5 นาที ก็ลงที่ป้าย N7 ค่ะ ค่ารถ 220 เยน ที่จริงเราตั้งใจจะนั่งไปลงสุดสายเลยที่ Kasuga-Taisha แล้วเดินย้อนมาเรื่อยๆแวะนู่นนี่จนถึงสถานีแล้วกลับ แต่ไม่รู้คิดยังไงหรือกลัวรถพาไปจนหลงไม่รู้จะลงตรงไหน เลยลงป้ายหน้าสวนกวางที่เค้าลงกันเยอะๆเลย
และจุดเช็คอินแรกของเราก็คือ ... Nara Park หรือสวนนารา ลงจากรถมาก็เจอน้องกวางเต็มไปหมดเลย สมกับเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาราจริงๆ บางคนก็ถ่ายรูปเล่นกับกวางบ้าง ให้ขนมบ้าง กวางชอบกินขนมแซมเบ้นะ หาซื้อได้แถวๆนั้นแหล่ะ
ถ่ายรูปเล่นกับน้องกวางได้สักพัก ก็เดินไปยังวัด Todaiji Temple ซึ่งอยู่ติดกัน วัดนี้สถาปัตยกรรมเค้าสวยดีนะ จะเป็นไม้ซะส่วนใหญ่ มีความใหญ่โตตั้งแต่ประตูชั้นนอก จนถึงมีวิหารไม้ด้านใน ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก เรียกว่า วิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden Hall) แต่เราไม่ได้เข้าไปในวิหารนะคะ มีเพื่อนเข้าไปนางบอกว่าพระพุทธรูปด้านในองค์ใหญ่และสวยงามมาก
ถัดมา ก็เดินไปต่อกันที่ศาลเจ้า Kasuga Taisha เดินไปหนึ่งกิโลกว่าๆ แต่ไม่ได้รีบร้อนอะไร เดินเล่นถ่ายรูปกันชิลๆ ระหว่างทางก็สวยไม่แพ้ปลายทางเลย แถมมีน้องกวางเป็นระยะๆ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ น่าจะมีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีทั้งตะเกียงแบบแขวน ตะเกียงตั้งพื้น และตะเกียงหิน ตั้งเรียงรายกันอยู่ในศาลเจ้าและตามทางเดิน (ที่นี่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างในเช่นกัน เพราะปิดแล้ว ราวๆ 4 โมงเย็น)
จากศาลเจ้าเราก็รีบจ้ำกลับไปสถานีรถไฟ เพราะเริ่มค่ำแล้ว ทั้งที่ 5 โมงเองนะ มืดไวเฟร่อออ แต่ขากลับเราวนกลับอีกทางนึงนะไม่ได้ย้อนกลับไปทางเดิม ระหว่างทางก็แอบอ้อมทางเดินนิดนึง เพื่อไปแวะวัดสุดท้ายของวันนี้ คือ Kofukuji Temple วัดนี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Kintetsunara ค่ะ แวะไปถ่ายรูปเจย์ดีห้าชั้น สักพักก็มืดแล้ว ได้เวลากลับเข้าเมือง
คืนนี้ไปฝากท้องแถวย่าน Dotonbori ย่านยอดฮิตแห่งโอซาก้า และอยู่ไม่ไกลจากที่พัก
[CR] ตะลุย Osaka - Nara - Kyoto 5 วัน 4 คืน งบน้อยแต่อยากเที่ยว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอซาก้า เรารู้สึกชอบที่นี่มากกว่าโตเกียวนะ หลังจากครั้งแรกที่ได้ไปเยือนทั้งสองที่ และพอมีโอกาสได้ไปอีก ไม่ลังเลเลยว่าจะไปที่ไหนดี Osaka onlyyyyyy เมืองยอดฮิตของคนไทย 555 ไม่รู้สิ ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวของโอซาก้าเอง จริงๆเราไม่ได้มีที่ไหนอยากไปแล้วนะ อยากไปตะลอนเมืองรอบๆซะมากกว่า มีทั้ง โกเบ นารา เกียวโต วาคายาม่า แต่ครั้งนี้ขอเลือกไปที่ที่อยากไปมากที่สุดก่อน คือ นารากับเกียวโต (อันที่จริงมันก็เป็นข้อจำกัดในเรื่องของเวลามากกว่าแหละ) แต่ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของอาหาร ของเล่น แหล่งช้อปปิ้งราคาถูก คือต้องที่นี่เลยอ่ะ ชอบมากๆ เอาเป็นว่าในเมืองโอซาก้าเนี่ย อยากกิน อยากซื้อ มากกว่าอยากเที่ยว
ตั๋วเครื่องบิน
เราเดินทางไป-กลับด้วยสายการบิน Air Asia ระหว่างวันที่ 10-14 ม.ค. 63 ได้ตั๋วเครื่องบินมาในราคา 7432 บาท รวมโหลดกระเป๋าแล้ว (หลังจากคราวที่แล้วได้ตั๋วมาในราคา 94XX แต่คิดว่ายังแพงอยู่ เลยตั้งใจว่าครั้งนี้จะต้องกดให้ได้ถูกกว่าครั้งก่อน แล้วก็ ... เรียบร้อยค่ะ ได้มาในราคาที่ค่อนข้างพอใจ ^^) อ้อ !! เราจองตั๋วล่วงหน้า 3 เดือนนะ การจองตั๋วครั้งนี้บอกเราได้อย่างนึงว่า ตั๋วถูกไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนหรือข้ามปีเลยค่ะ และหลังจากที่จองแล้วก็ยังมีโปรออกมาเรื่อยๆ แถมถูกกว่านี้ด้วยซ้ำ 555 เจ็บใจๆ
ที่พัก (คอนเฟิร์มเลยว่าถูกและดี !!)
ทริปนี้เราพัก 2 ที่ค่ะ คือ โอซาก้า 3 คืน และ เกียวโต 1 คืน โดยจองผ่าน Booking เหตุผลหลักในการเลือกที่พักของเรานั้นคือ ราคาค่ะ เน้นถูกไว้ก่อน แต่ๆๆไม่ใช่ว่าจะคำนึงถึงเรื่องราคาอย่างเดียวนะ เพราะนอกจากราคาถูกแล้ว ต้องอยู่ติดสถานีรถไฟหรือใกล้ที่สุด (อันนี้สำคัญตอนต้องนั่งรถไฟไปสนามบินวันกลับ เพราะต้องออกแต่เช้า) และ...คะแนนรีวิวใน Booking ต้องเลิศค่ะ 555 ก็เลยได้ที่พักมาตามนี้
- Glamlodge (คะแนนใน Booking = 9.2) เรานอนที่นี่ 3 คืน รวมเป็นเงิน 1400 บาท/คน ตกคืนละ 466 บาท (นอนโอซาก้า คืนที่ 1 กับคืนที่ 3 และ 4) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Namba 400 เมตร ด้านหน้าและชั้นบนของที่พักจะเป็นร้านอาหาร และในส่วนที่เป็นห้องพักจะอยู่หลังร้าน ที่นี่จะไม่มีเคาท์เตอร์เช็คอินนะคะ ทางที่พักจะทำการส่งรหัสเข้าประตูชั้นนอกมาให้ทางอีเมล พอเข้าไปแล้วต้องเช็คอินผ่านแท็ปเล็ทที่เค้าวางเตรียมไว้ เสร็จแล้วจะมีรหัสเข้าห้องพักส่งมาทางอีเมลอีกครั้งนึง แต่ถ้าเรามีข้อสงสัยอะไรสามารถวีดีโอคอลผ่านแท็ปเล็ทเครื่องนั้น จะมีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ ตอนเช็คเอาท์ก็ต้องทำผ่านแท็ปเล็ตเช่นเดียวกัน ห้องพักที่นี่จะมีทั้งหมดแค่ 4 ห้อง เป็นห้องพักสำหรับ 4 คนทั้งหมด อาจจะดูลึกลับหน่อย แต่สะอาดและปลอดภัยมากๆค่ะ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
- Grids Kyoto Shijo Kawaramachi (คะแนนใน Booking = 9.0) ราคา 462 บาท/คน เป็นที่พักที่เกียวโตค่ะ (นอนคืนที่ 2) อยู่ติดกับตลาด Nishiki Market ห่างจากสถานี Kawaramachi 500 เมตร และสถานี Gion-Shijo 700 เมตร ที่นี่มีห้องพักหลากหลายแบบ มีทั้งแบบโฮสเทลและโฮเทล (เราชอบห้องน้ำที่นี่เป็นพิเศษนะ ภายในส่วนที่อาบน้ำจะกว้างกว่าทุกที่ที่เคยไปพักเลย และมีห้องน้ำเยอะด้วย) โดยรวมแล้วสะอาด เงียบ และระบบความปลอดภัยดีมาก อ้อ !! เราพักแบบโฮสเทล ห้อง 12 คน แต่มีคนพักจริง 7 คนค่ะ
การเดินทาง
3 วันแรก เราใช้บัตร Kansai Thru Pass (KTP) แบบ 3 วัน ราคา 1127 บาท ซื้อผ่าน Traveloka (ราคานี้ซื้อตอนโปรโมชั่น 3 แถม 2) แล้วปริ้นใบจองออกมาไปแลกรับบัตรจริงที่สนามบินคันไซค่ะ // บัตรน่ารักมากจ้าาาแม่
ส่วนวันที่ 4 เราใช้บัตร Enjoy Eco Card เป็นบัตรขึ้นรถไฟใต้ดินภายในเมือง แบบเหมารายวัน จะมี 2 ราคา คือ ถ้าเป็นวันธรรมดา ราคา 800 เยน แต่ถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดอื่นๆ ราคา 600 เยน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แพลนการเดินทางในครั้งนี้
Day 1 : Nara Park - Todaiji Temple - Kasuga-Taisha - Kofuku-ji Temple
Day 2 : Fushimi Inari Shrine - Kinkakuji Temple
Day 3 : Arashiyama - Bamboo Groves - Gion
Day 4 : Katsuo-ji Temple - Kuromon Market - Tsutenkaku
Day 5 : Back to BKK
Day 1
เช้านี้มาถึงสนามบินคันไซ เกือบๆ 9 โมง อากาศดี๊ดี ท้องฟ้าแจ่มใส หลังจากผ่านตม.และศุลกากรเรียบร้อย เราก็นำใบจองที่ปริ้นมาไปแลกรับบัตร KTP และเราก็เริ่มใช้บัตรในการขึ้นรถไฟสาย Nankai ไปยังที่พัก ที่พักเราอยู่สุดสายเลยค่ะ คือสถานี Namba ใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาที แล้วก็เดินต่อไปยังที่พักอีก 400 เมตร
หลังจากเช็คอินที่พัก กินข้าวเสร็จสรรพ ราวๆบ่าย 2 เราก็เดินทางไป Nara กันค่ะ ใช้เวลาในการเดินทางจาก Namba 40 นาที โดยใช้บัตร KTP ขึ้นรถไฟที่สถานี Namba ไปลงสุดสายที่สถานี Kintetsunara ใช้ทางออกที่ 5
หลังจากออกมาแล้วก็จะเจอป้ายรถบัสเลยค่ะ เป็นป้ายรถบัส N3 รอรถบัสสาย 70 หรือ 97 ก็ได้ นั่งไปได้สัก 5 นาที ก็ลงที่ป้าย N7 ค่ะ ค่ารถ 220 เยน ที่จริงเราตั้งใจจะนั่งไปลงสุดสายเลยที่ Kasuga-Taisha แล้วเดินย้อนมาเรื่อยๆแวะนู่นนี่จนถึงสถานีแล้วกลับ แต่ไม่รู้คิดยังไงหรือกลัวรถพาไปจนหลงไม่รู้จะลงตรงไหน เลยลงป้ายหน้าสวนกวางที่เค้าลงกันเยอะๆเลย
และจุดเช็คอินแรกของเราก็คือ ... Nara Park หรือสวนนารา ลงจากรถมาก็เจอน้องกวางเต็มไปหมดเลย สมกับเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาราจริงๆ บางคนก็ถ่ายรูปเล่นกับกวางบ้าง ให้ขนมบ้าง กวางชอบกินขนมแซมเบ้นะ หาซื้อได้แถวๆนั้นแหล่ะ
ถ่ายรูปเล่นกับน้องกวางได้สักพัก ก็เดินไปยังวัด Todaiji Temple ซึ่งอยู่ติดกัน วัดนี้สถาปัตยกรรมเค้าสวยดีนะ จะเป็นไม้ซะส่วนใหญ่ มีความใหญ่โตตั้งแต่ประตูชั้นนอก จนถึงมีวิหารไม้ด้านใน ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก เรียกว่า วิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden Hall) แต่เราไม่ได้เข้าไปในวิหารนะคะ มีเพื่อนเข้าไปนางบอกว่าพระพุทธรูปด้านในองค์ใหญ่และสวยงามมาก
ถัดมา ก็เดินไปต่อกันที่ศาลเจ้า Kasuga Taisha เดินไปหนึ่งกิโลกว่าๆ แต่ไม่ได้รีบร้อนอะไร เดินเล่นถ่ายรูปกันชิลๆ ระหว่างทางก็สวยไม่แพ้ปลายทางเลย แถมมีน้องกวางเป็นระยะๆ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ น่าจะมีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีทั้งตะเกียงแบบแขวน ตะเกียงตั้งพื้น และตะเกียงหิน ตั้งเรียงรายกันอยู่ในศาลเจ้าและตามทางเดิน (ที่นี่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างในเช่นกัน เพราะปิดแล้ว ราวๆ 4 โมงเย็น)
จากศาลเจ้าเราก็รีบจ้ำกลับไปสถานีรถไฟ เพราะเริ่มค่ำแล้ว ทั้งที่ 5 โมงเองนะ มืดไวเฟร่อออ แต่ขากลับเราวนกลับอีกทางนึงนะไม่ได้ย้อนกลับไปทางเดิม ระหว่างทางก็แอบอ้อมทางเดินนิดนึง เพื่อไปแวะวัดสุดท้ายของวันนี้ คือ Kofukuji Temple วัดนี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Kintetsunara ค่ะ แวะไปถ่ายรูปเจย์ดีห้าชั้น สักพักก็มืดแล้ว ได้เวลากลับเข้าเมือง
คืนนี้ไปฝากท้องแถวย่าน Dotonbori ย่านยอดฮิตแห่งโอซาก้า และอยู่ไม่ไกลจากที่พัก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้