ปกติถ้าคืนรถในสภาพดีไฟแนนซ์จะดำเนินคดีทางแพ่งเรียกค่าส่วนต่างแค่นั้นแล้วจบครับ
แต่ถ้าโดนคดีทำให้เสียทรัพย์ด้วย แปลว่ารถไม่อยู่ในสภาพที่ควรจะขายได้ในราคาท้องตลาด
เช่น ดัดแปลงสภาพรถจนไม่สามารถขายในตลาดทั่วๆไปได้  รถอยู่ในสภาพเสียหาย
ถูกถอดอะไหล่บางตัวออกไปจนมีผลกับการขายทอดตลาด

สมัยนี้มีคนโดนข้อหานี้กันเยอะขึ้น คำว่าทำให้เสียทรัพย์ หมายถึงการเอาทรัพย์ของไฟแนนซ์
ก็คือรถนั่นแหละครับ เอารถไปทำให้เสียหาย ถูกทำลายหรือเสื่อมมูลค่าลง ก็เข้าข่ายทำให้เสียทรัพย์
สมัยนี้ผู้เช่าซื้อบางคนหัวหมอ รู้ว่าจะโดนยึดรถหรือจะเอารถไปคืนก็ถอดชิ้นส่วนที่มีมูลค่าขายก่อน
อย่างเอาหน้าจอวิทยุติดรถถอดขายแล้วเอาวิทยุธรรมดาของรุ่นล่างๆถูกๆมาใส่แทน
บางคันแต่งซิ่ง แต่งจนไฟแนนซ์เอารถไปขายเลยไม่ได้ บางคันวางเครื่องใหม่ก็ไม่แจ้งลงเล่ม
มันลำบากไฟแนนซ์เขา สมัยก่อนปล่อยหยวนๆหลังๆเจอบ่อยก็ให้ทนายพิจารณาฟ้องซะเลย

บางคันชนมาไม่มีประกันซ่อม ไม่มีเงินซ่อม ไม่ผ่อนต่อเพราะรถขับไม่ได้ ก็ปล่อยยึดซะดื้อๆ
สมัยก่อนไฟแนนซ์ยึดเอากลับไปซ่อมขายหรือขายซากแล้วมาคิดค่าเสียหายรวมในค่าส่วนต่าง
เป็นแค่คดีแพ่ง แต่หลายๆคดีมันฟ้องแล้วหนี้สูญลูกหนี้ไม่มีเงิน ไม่มีอะไรให้ยึด จนหมดอายุความ
เจอบ่อยๆไฟแนนซ์เสียหายมากเข้า ช่วงหลังก็เลยต้องพลิกตำรากฎหมายฟ้องคดีอาญาด้วย
เพื่อบีบให้ลูกหนี้ต้องชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนั้น

ถ้าโดนฟ้องข้อหานี้ก็ดูก่อนว่าสภาพรถเราเป็นยังไงตอนคืน หมกอะไรไว้จริงรึเปล่า
ถ้าหมกอะไรไว้ก็ไปเจรจากับไฟแนนซ์ก่อนครับแล้วแก้ต่างตามหลักฐานในชั้นศาล
ถ้ามั่นใจว่าบริสุทธิ์รถไม่มีอะไรเสื่อมหรือเสียหายเลย ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาไปสู้ในศาลเลยไม่ต้องกลัว