ปกติกระทู้ที่อ่านมาจะเป็นกระทู้สนทนา อันนี้ผมจะตั้งได้แต่กระทู้คำถามเพราะไม่อยากยืนยันโดยเปิดเผยหน้าบัตรประชาชนหมดที่มันเสี่ยงๆน่ะครับผม
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ
(มีเรื่องที่จะเล่าสองช่วงนะครับ)
(ช่วงแรก) ของผมย้อนไปเมื่อปี 2560 ปีแรกที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งครอบครัว ผมก็เอาโทรศัพท์กับกระเป๋าสะพาย (มีแบตสำรอง สายชาร์จแบตสำรองกับโทรศัพท์ กระเป๋าตัง พาสปอร์ต หวีบาลิซอง)ใส่ตะกร้าแรก ส่วนตะกร้าที่สองใส่เข็ดขัดกับเสื้อกันหนาว
ตอนแรกก็ดูปกติดียืนรอชิวๆ แต่ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ก็พูดมาว่า "ขอดูรองเท้าหน่อยค่ะ" ผมก็จับปลายขากางเกงให้ดู เจ้าหน้าที่ก็ให้ถอดออกมาเพื่อนำเข้าเครื่องตรวจน่ะ ช่วงที่รออยู่ น้องก็พูดออกมาว่า "น่าจะให้กางเกงยีนส์เข้าเครื่องตรวจด้วยนะ 555" พ่อแม่น้องกับผู้โดยสารสองท่านที่ต่อแถวอยู่และเจ้าหน้าที่ก็หัวเราะกัน 5555 เจ้าหน้าที่อีกคนก็พูดว่า 'ไม่ต้องก็ได้ค่ะ 555" ผมก็พูดว่า "พอดีล่ะโล่งเย็นนนตอนขึ้นเครื่อง 555" เจ้าหน้าที่ก็หัวเราะอีกด้วยเหมือนกัน เสร็จก็ผ่านหมดและแต่งตัวใส่รองเท้ากับเข็มขัดและเสื้อกันหนาวไปรอขึ้นเครื่องต่อ
(ช่วงที่สอง) หลังจากที่กลับมาจากญี่ปุ่น ก็ต่อเครื่องจากดอนเมืองกลับสกลนคร เข้าด่านเดิม ก็ทำตามช่วงแรกน่ะ
แล้วผมก็ยืนดูจอที่เห็นของภายในกระเป๋าน่ะ ผมก็ดูไปแล้วเห็นกล่องที่เห็นตัวโมเดลรถ 1959 Ford Galaxie ขนาด 1/43 ผมก็พูดว่า "โอ้โห เห็นยันไส้ในรถอเมริกัน" หลังจากที่ตรวจสัมภาระเสร็จ
เจ้าหน้าที่ชายก็ขอนุญาตให้ผมเปิดกระเป๋าสะพายแล้วเอากล่องโมเดลรถอเมริกันขึ้นมาน่ะ ผมก็เอาขึ้นมาให้ดูน่ะ เจ้าหน้าที่อีกคนก็ขออนุญาตจับกล่องโมเดลรถดูและบอกว่า "รถทรงคลาสสิคและงานปราณีตเนียนและสวยดีนะ ลูกชายพี่ก็ชอบโมเดลรถเหมือนกันน่ะ" และแล้วผมกับเจ้าหน้าที่ก็พูดคุยกันเกี่ยวกับโมเดลรถซักพักน่ะ เสร็จคุยกันจบก็ไปรอเกตที่จะขึ้นเครื่องน่ะ (ยังดีที่คิวผมกับพ่อและแม่เป็นคิวสุดท้ายน่ะ)
ใครเคยมีประสบการณ์ฮากับการบริการดีเจ้าหน้าที่ตอนตรวจสัมภาระช่วงไปเที่ยวหรือไปทำธุระขึ้นเครื่องบ้างมาแชร์กันหน่อย
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ
(มีเรื่องที่จะเล่าสองช่วงนะครับ)
(ช่วงแรก) ของผมย้อนไปเมื่อปี 2560 ปีแรกที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งครอบครัว ผมก็เอาโทรศัพท์กับกระเป๋าสะพาย (มีแบตสำรอง สายชาร์จแบตสำรองกับโทรศัพท์ กระเป๋าตัง พาสปอร์ต หวีบาลิซอง)ใส่ตะกร้าแรก ส่วนตะกร้าที่สองใส่เข็ดขัดกับเสื้อกันหนาว
ตอนแรกก็ดูปกติดียืนรอชิวๆ แต่ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ก็พูดมาว่า "ขอดูรองเท้าหน่อยค่ะ" ผมก็จับปลายขากางเกงให้ดู เจ้าหน้าที่ก็ให้ถอดออกมาเพื่อนำเข้าเครื่องตรวจน่ะ ช่วงที่รออยู่ น้องก็พูดออกมาว่า "น่าจะให้กางเกงยีนส์เข้าเครื่องตรวจด้วยนะ 555" พ่อแม่น้องกับผู้โดยสารสองท่านที่ต่อแถวอยู่และเจ้าหน้าที่ก็หัวเราะกัน 5555 เจ้าหน้าที่อีกคนก็พูดว่า 'ไม่ต้องก็ได้ค่ะ 555" ผมก็พูดว่า "พอดีล่ะโล่งเย็นนนตอนขึ้นเครื่อง 555" เจ้าหน้าที่ก็หัวเราะอีกด้วยเหมือนกัน เสร็จก็ผ่านหมดและแต่งตัวใส่รองเท้ากับเข็มขัดและเสื้อกันหนาวไปรอขึ้นเครื่องต่อ
(ช่วงที่สอง) หลังจากที่กลับมาจากญี่ปุ่น ก็ต่อเครื่องจากดอนเมืองกลับสกลนคร เข้าด่านเดิม ก็ทำตามช่วงแรกน่ะ
แล้วผมก็ยืนดูจอที่เห็นของภายในกระเป๋าน่ะ ผมก็ดูไปแล้วเห็นกล่องที่เห็นตัวโมเดลรถ 1959 Ford Galaxie ขนาด 1/43 ผมก็พูดว่า "โอ้โห เห็นยันไส้ในรถอเมริกัน" หลังจากที่ตรวจสัมภาระเสร็จ
เจ้าหน้าที่ชายก็ขอนุญาตให้ผมเปิดกระเป๋าสะพายแล้วเอากล่องโมเดลรถอเมริกันขึ้นมาน่ะ ผมก็เอาขึ้นมาให้ดูน่ะ เจ้าหน้าที่อีกคนก็ขออนุญาตจับกล่องโมเดลรถดูและบอกว่า "รถทรงคลาสสิคและงานปราณีตเนียนและสวยดีนะ ลูกชายพี่ก็ชอบโมเดลรถเหมือนกันน่ะ" และแล้วผมกับเจ้าหน้าที่ก็พูดคุยกันเกี่ยวกับโมเดลรถซักพักน่ะ เสร็จคุยกันจบก็ไปรอเกตที่จะขึ้นเครื่องน่ะ (ยังดีที่คิวผมกับพ่อและแม่เป็นคิวสุดท้ายน่ะ)