หลังจากปฏิบัติมาสักพัก ก็รู้สึกว่าอะไร ๆ ก็ทำให้เราหวั่นไหวได้ยากขึ้น

เหมือนใจมันนิ่งขึ้นค่ะ

เราก็ตามรู้ตามดูใจตัวเองตลอด สมาธิไม่ค่อยพอ ก็นั่งสมาธิเพิ่มตอนเช้าทุกวันหลังตื่นนอน ระหว่างวันก็ดูใจตัวเองไป

รู้สึกระยะหลัง ๆ มานี้ พูดน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก เรืองที่เคยมีความคิดความเห็นแรง ๆ ก็ลดลงไป กลายเป็น ยังไงก็ได้ อะไรก็ได้ แบบไม่ยินดียินร้ายกับมันสักเท่าไหร่ 

อย่างเช่นแต่ก่อนเราจะหงุดหงิดเวลาเห็นคนพิมพ์คะค่ะไม่ถูก หงุดหงิดเฉย ๆ นะคะไม่ได้ไปชวนเขาทะเลาะ มาพักหลังนี้พอเห็นเขาพิมพ์ผิดใจก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แค่รู้สึกว่า เออ มันเรื่องของเขา 

แต่ที่จริงกิเลสก็ยังเยอะอยู่ ตัวโทสะไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะเกิดเป็นราคะกับโมหะซะเยอะระหว่างวัน
ีราคะมักจะเกิดตอนอยากได้นั่นได้นี่ หรืออ่านนิยาย/ดูการ์ตูนที่ตัวเองชอบ

โมหะจะเกิดตอนเรียนหนังสือกับทำงาน ซึ่งไม่ค่อยดีเลยค่ะ ต้องหาทางพัฒนาจัดการตัวเองไปเรื่อย ๆ 😅

เราเองก็ยังอีกไกลที่จะต้องปฏิบัติไป ทุกวันนี้ก็ทำอยู่เรื่อย ๆ ทุกวันก็ตามรู้จิตใจตัวเองไป หน้าที่ในชีวิตมีอะไรให้ทำก็ทำไป ปัญหาอะไรเกิดมาก็แก้ไป ส่วนเรื่องของคนอื่นเราไม่ค่อยจะอยากรู้ถ้าเจ้าตัวเขาไม่ได้อยากจะเล่าเอง

ชีวิตมันก็เรื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับมัน แต่ภาพรวมก็มีความสุขดี

ฟังพระอาจารย์กับรุ่นพี่ที่ปฏิบัติมาเขาบอกว่าโลกนี้มีแต่ทุกข์ล้วน ๆ เราเลยคิดว่าเรายังอ่อนหัดนัก เพราะเรายังเห็นโลกมีแต่ความสุขอยู่เลยค่ะ

ยังต้องฝึกอีกมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่