----------------- ข้อความเดิม ----------------------
รบกวนปรึกษาผู้มีความรู้ทางกฏหมายค่ะ
ปู่ย่าโอนที่ดินแปลงหนึ่งให้พ่อ แล้วพ่อก็โอนให้น้องสาวเราต่อ หลังจากนั้นพ่อเราป่วยเสียชีวิต ปู่กับย่าได้มาคุยกับแม่ว่าที่ดินแปลงนั้นจริงๆตั้งใจจะยกให้อาด้วยส่วนหนึ่ง จะขอแบ่งออกมาให้อา แต่แม่เราไม่ยอม เพราะเป็นมรดกเดียวที่ได้มาจากพ่อ และรู้สึกว่าทำไมมาพูดแบบนี้หลังจากพ่อเราเสียไปแล้ว ถ้าจะแบ่งจริงๆทำไมไม่ทำให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนยกให้พ่อ หรือตั้งแต่ก่อนพ่อเสีย
ปู่ย่าเรียกแม่เราคุยเรื่องนี้หลายครั้งมาก ร้องห่มร้องไห้บ้างก็มี และมีครั้งหนึ่ง ก็เรียกแม่เราไปคุยที่บ้านปู่ย่า แต่ครั้งนี้ต่างออกไปตรงที่ปู่ย่าเรียกผู้ใหญ่บ้านมาด้วย มีการเจรจากับแม่ว่าถ้าไม่แบ่งให้ ก็ให้แม่เราโอนเงินจำนวนหนึ่งให้อา มีการเขียนหนังสือว่าหากวันใดวันหนึ่งปู่ย่าเสีย แม่เราต้องโอนเงินจำนวนนี้ให้อา
ให้แม่เราเซ็นยอมรับ มีผู้ใหญ่บ้านมาเป็นพยาน ป้า(พี่สาวพ่อ)ก็บอกว่าเซ็นต์ไปก่อนเถอะให้ปู่ย่าสบายใจ แม่เราร้องห่มร้องไห้ ทั้งอึดอัด ทั้งตั้งตัวไม่ทัน และจำยอมเซ็นไปเพราะถูกกดดัน
วันเวลาผ่านไป ปู่ย่าเสีย บ้านอาก็ท้วงเรื่องนี้ขึ้นมา บอกว่าให้โอนเงินให้ ถ้าไม่โอนเรื่องนี้จะถึงผู้ใหญ่บ้าน แม่และน้องเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ทำไมมาทำแบบนี้ในวันที่พ่อเราไม่อยู่แล้ว ทำไมกดดันแม่เราขนาดนั้น เพราะพ่อเราไม่อยู่แล้วอย่างงี้หรอ เราสงสารแม่มาก ส่วนป้าก็บอกว่าให้โอนให้อาเถอะ ไม่อยากให้ชาวบ้านนินทาว่าทะเลาะกันเรื่องเงิน ไม่อยากให้ปู่ย่ามีห่วง
เอาจริงๆสำหรับเราเงินไม่ได้เยอะมาก เราบอกแม่กับน้องด้วยซ้ำว่าเค้าไม่อยากให้ก็ไม่ต้องเอา อยากยกคืนให้เปล่าๆไปเลยด้วยซ้ำ แต่แม่กับน้องไม่เห็นด้วยกับเรา
อยากปรึกษาผู้รู้ค่ะ หากบ้านเรานิ่งเฉย ฝั่งนั้นมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรมั้ย สัญญาที่เค้าบังคับแม่เซ็นต์ในวันนั้นมีผลทางกฏหมายมั้ยคะ
------------------------------------------------------------------
**** อัพเดทและเพิ่มเติมนะคะ****
ขอบคุณสำหรับความเห็นทุกท่านค่ะ ทั้งที่ถนอมน้ำใจและที่รุนแรงนิดนึง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราคงไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก เราถามแม่กับน้องเพิ่มเติมมาแล้ว เพราะช่วงนั้นเราไม่ได้อยู่ที่บ้าน เรียนอยู่จังหวัดอื่นอยู่ อาจจะไม่ได้ไล่ตอบทุกความเห็น แต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะที่เสียสละเวลามาตอบ
ที่สอบถามแม่กับน้องมา คือ ปู่ย่าโอนให้พ่อ แล้วพ่อเสียแบบยังไม่ได้โอนต่อให้ใครค่ะ ข้อความเดิมที่เราพิมพ์ เพราะเราเข้าใจผิด ไม่เคยถามแม่แบบจริงๆจังๆ พอพ่อเสีย ปู่ย่าเลยจัดการยกต่อให้น้องสาวเราสองคนค่ะ คุ้นๆช่วงนั้นแม่เคยถามเราเราก็จำไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่าเราบอกแม่ว่าไม่ต้องแบ่งเราหรอก เพราะที่เล็กนิดเดียวเอง สร้างบ้านได้น่าจะแค่หลังเดียวหรือไม่ก็สองหลังแบบติดๆกัน
ตอนนั้นน้องคนเล็กยังเล็กมากๆ น้องคนกลางเราเล่าว่าปู่ย่ายังพูดอยู่เลยว่าแบ่งกันสองคนนะลูก ไม่เคยพูดเรื่องแบ่งให้อาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
จนกระทั่งผ่านไปหลังจากพ่อเสีย3ปีเกือบ4ปีได้ แม่เราแต่งงานใหม่ ซึ่งเราเรียกว่าลุง ลุงแกก็ประสาคนต่างจังหวัด ชอบทำไร่ทำสวน แกก็เริ่มพัฒนาที่ตรงนั้น ถมดิน ทำคอกวัวเลี้ยงวัว ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ เราไม่รู้เพราะเหตุผลนี้รึเปล่า เพราะหลังจากนั้นไม่นานตามที่แม่สังเกต ปู่ย่าก็เริ่มคุยว่าจะขอแบ่งให้อาค่ะ
ที่อยากบอกมากๆคือ บ้านเราไม่ได้โลภค่ะ ที่ตรงนั้นคือที่ในหมู่บ้านตามต่างจังหวัด เป็นเขตที่ชาวบ้านสร้างบ้านแบบติดๆกัน ไม่ได้ใหญ่เลย และช่วงนั้นปู่ย่ายังไม่ได้แบ่งที่ดินให้ลูกทั้งหมด แบ่งแค่เขตในหมู่บ้าน ซึ่งป้าและอาก็ได้ทั่วถึงกัน ได้ใจกลางหมู่บ้านที่ถนนหนทางสะดวกกว่าด้วยซ้ำ ส่วนที่ตรงนี้อยู่ในเขตนอกๆออกไป และที่มากไปกว่านั้นที่ตรงนี้เคยใช้ฝังทวดมาก่อนด้วย ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นใครอยากได้ตรงนี้ เพราะกลัวกัน
และปู่ย่าท่านเพิ่งมาแบ่งที่นาอื่นๆที่อยู่นอกเขตหมู่บ้านช่วงหลังๆตอนที่ท่านอายุมากแล้ว และแน่นอนว่าท่านไม่ได้แบ่งให้บ้านเรา ซึ่งบ้านเราก็ไม่ได้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เข้าใจดีว่าพ่อเราเสียไปนานแล้ว และบ้านเราก็ไม่ได้ลำบากอะไร ที่ทางเราเองก็พอมีอยู่หลายที่ พี่น้องเราเรียนจบหมดแล้ว มีงานการที่ดีทำ ดูแลตัวเองได้สบายมากๆ และด้วยสาขาอาชีพที่จบมา คงทำงานในกรุงเทพกันอีกนาน คงไม่ได้ไปใช้ชีวิตที่นั่น
พวกเราแค่รู้สึกสงสารพ่อ พ่อเสียไปตอนพวกเรายังเด็ก ยังไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของลูกๆเลย ที่ตรงนี้คือที่ดินเดียวที่พวกเรารู้สึกว่าคือสมบัติจากพ่อ ที่ดินไม่ได้แพงอะไรเลยค่ะ เล็กมากๆเมื่อเทียบกับที่อื่นที่พวกเรามี
และที่แม่กับน้องเรารู้สึกไม่อยากจ่ายให้คือรู้สึกไม่ยุติธรรม แค่นั้นค่ะ ตอนปู่ย่าเสีย อาสะใภ้ไล่ถามแม่เราและถามเรากะน้องทุกคนว่าทำประกันไว้มั้ย ฌาปณกิจที่พ่อทำกะสหกรณ์ไว้ได้เท่าไหร่ แระคือถามในงานศพด้วย เรารู้สึกเฟลมาก ทำไมทำตัวกันแบบนี้
แต่จะบอกทุกคนว่าสุดท้ายเราก็คุยกับแม่กับน้องแหละค่ะ ว่ายอมจ่ายเค้าไปเถอะ เงินไม่มากอะไร จะได้จบๆ แล้วเราโอนเรียบร้อยแล้วค่ะ
โดนบังคับเซ็นต์สัญญาว่าให้โอนค่าที่ดินให้ญาติ ไม่โอนได้มั้ยคะ
รบกวนปรึกษาผู้มีความรู้ทางกฏหมายค่ะ
ปู่ย่าโอนที่ดินแปลงหนึ่งให้พ่อ แล้วพ่อก็โอนให้น้องสาวเราต่อ หลังจากนั้นพ่อเราป่วยเสียชีวิต ปู่กับย่าได้มาคุยกับแม่ว่าที่ดินแปลงนั้นจริงๆตั้งใจจะยกให้อาด้วยส่วนหนึ่ง จะขอแบ่งออกมาให้อา แต่แม่เราไม่ยอม เพราะเป็นมรดกเดียวที่ได้มาจากพ่อ และรู้สึกว่าทำไมมาพูดแบบนี้หลังจากพ่อเราเสียไปแล้ว ถ้าจะแบ่งจริงๆทำไมไม่ทำให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนยกให้พ่อ หรือตั้งแต่ก่อนพ่อเสีย
ปู่ย่าเรียกแม่เราคุยเรื่องนี้หลายครั้งมาก ร้องห่มร้องไห้บ้างก็มี และมีครั้งหนึ่ง ก็เรียกแม่เราไปคุยที่บ้านปู่ย่า แต่ครั้งนี้ต่างออกไปตรงที่ปู่ย่าเรียกผู้ใหญ่บ้านมาด้วย มีการเจรจากับแม่ว่าถ้าไม่แบ่งให้ ก็ให้แม่เราโอนเงินจำนวนหนึ่งให้อา มีการเขียนหนังสือว่าหากวันใดวันหนึ่งปู่ย่าเสีย แม่เราต้องโอนเงินจำนวนนี้ให้อา
ให้แม่เราเซ็นยอมรับ มีผู้ใหญ่บ้านมาเป็นพยาน ป้า(พี่สาวพ่อ)ก็บอกว่าเซ็นต์ไปก่อนเถอะให้ปู่ย่าสบายใจ แม่เราร้องห่มร้องไห้ ทั้งอึดอัด ทั้งตั้งตัวไม่ทัน และจำยอมเซ็นไปเพราะถูกกดดัน
วันเวลาผ่านไป ปู่ย่าเสีย บ้านอาก็ท้วงเรื่องนี้ขึ้นมา บอกว่าให้โอนเงินให้ ถ้าไม่โอนเรื่องนี้จะถึงผู้ใหญ่บ้าน แม่และน้องเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ทำไมมาทำแบบนี้ในวันที่พ่อเราไม่อยู่แล้ว ทำไมกดดันแม่เราขนาดนั้น เพราะพ่อเราไม่อยู่แล้วอย่างงี้หรอ เราสงสารแม่มาก ส่วนป้าก็บอกว่าให้โอนให้อาเถอะ ไม่อยากให้ชาวบ้านนินทาว่าทะเลาะกันเรื่องเงิน ไม่อยากให้ปู่ย่ามีห่วง
เอาจริงๆสำหรับเราเงินไม่ได้เยอะมาก เราบอกแม่กับน้องด้วยซ้ำว่าเค้าไม่อยากให้ก็ไม่ต้องเอา อยากยกคืนให้เปล่าๆไปเลยด้วยซ้ำ แต่แม่กับน้องไม่เห็นด้วยกับเรา
อยากปรึกษาผู้รู้ค่ะ หากบ้านเรานิ่งเฉย ฝั่งนั้นมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรมั้ย สัญญาที่เค้าบังคับแม่เซ็นต์ในวันนั้นมีผลทางกฏหมายมั้ยคะ
------------------------------------------------------------------
**** อัพเดทและเพิ่มเติมนะคะ****
ขอบคุณสำหรับความเห็นทุกท่านค่ะ ทั้งที่ถนอมน้ำใจและที่รุนแรงนิดนึง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราคงไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก เราถามแม่กับน้องเพิ่มเติมมาแล้ว เพราะช่วงนั้นเราไม่ได้อยู่ที่บ้าน เรียนอยู่จังหวัดอื่นอยู่ อาจจะไม่ได้ไล่ตอบทุกความเห็น แต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะที่เสียสละเวลามาตอบ
ที่สอบถามแม่กับน้องมา คือ ปู่ย่าโอนให้พ่อ แล้วพ่อเสียแบบยังไม่ได้โอนต่อให้ใครค่ะ ข้อความเดิมที่เราพิมพ์ เพราะเราเข้าใจผิด ไม่เคยถามแม่แบบจริงๆจังๆ พอพ่อเสีย ปู่ย่าเลยจัดการยกต่อให้น้องสาวเราสองคนค่ะ คุ้นๆช่วงนั้นแม่เคยถามเราเราก็จำไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่าเราบอกแม่ว่าไม่ต้องแบ่งเราหรอก เพราะที่เล็กนิดเดียวเอง สร้างบ้านได้น่าจะแค่หลังเดียวหรือไม่ก็สองหลังแบบติดๆกัน
ตอนนั้นน้องคนเล็กยังเล็กมากๆ น้องคนกลางเราเล่าว่าปู่ย่ายังพูดอยู่เลยว่าแบ่งกันสองคนนะลูก ไม่เคยพูดเรื่องแบ่งให้อาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
จนกระทั่งผ่านไปหลังจากพ่อเสีย3ปีเกือบ4ปีได้ แม่เราแต่งงานใหม่ ซึ่งเราเรียกว่าลุง ลุงแกก็ประสาคนต่างจังหวัด ชอบทำไร่ทำสวน แกก็เริ่มพัฒนาที่ตรงนั้น ถมดิน ทำคอกวัวเลี้ยงวัว ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ เราไม่รู้เพราะเหตุผลนี้รึเปล่า เพราะหลังจากนั้นไม่นานตามที่แม่สังเกต ปู่ย่าก็เริ่มคุยว่าจะขอแบ่งให้อาค่ะ
ที่อยากบอกมากๆคือ บ้านเราไม่ได้โลภค่ะ ที่ตรงนั้นคือที่ในหมู่บ้านตามต่างจังหวัด เป็นเขตที่ชาวบ้านสร้างบ้านแบบติดๆกัน ไม่ได้ใหญ่เลย และช่วงนั้นปู่ย่ายังไม่ได้แบ่งที่ดินให้ลูกทั้งหมด แบ่งแค่เขตในหมู่บ้าน ซึ่งป้าและอาก็ได้ทั่วถึงกัน ได้ใจกลางหมู่บ้านที่ถนนหนทางสะดวกกว่าด้วยซ้ำ ส่วนที่ตรงนี้อยู่ในเขตนอกๆออกไป และที่มากไปกว่านั้นที่ตรงนี้เคยใช้ฝังทวดมาก่อนด้วย ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นใครอยากได้ตรงนี้ เพราะกลัวกัน
และปู่ย่าท่านเพิ่งมาแบ่งที่นาอื่นๆที่อยู่นอกเขตหมู่บ้านช่วงหลังๆตอนที่ท่านอายุมากแล้ว และแน่นอนว่าท่านไม่ได้แบ่งให้บ้านเรา ซึ่งบ้านเราก็ไม่ได้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เข้าใจดีว่าพ่อเราเสียไปนานแล้ว และบ้านเราก็ไม่ได้ลำบากอะไร ที่ทางเราเองก็พอมีอยู่หลายที่ พี่น้องเราเรียนจบหมดแล้ว มีงานการที่ดีทำ ดูแลตัวเองได้สบายมากๆ และด้วยสาขาอาชีพที่จบมา คงทำงานในกรุงเทพกันอีกนาน คงไม่ได้ไปใช้ชีวิตที่นั่น
พวกเราแค่รู้สึกสงสารพ่อ พ่อเสียไปตอนพวกเรายังเด็ก ยังไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของลูกๆเลย ที่ตรงนี้คือที่ดินเดียวที่พวกเรารู้สึกว่าคือสมบัติจากพ่อ ที่ดินไม่ได้แพงอะไรเลยค่ะ เล็กมากๆเมื่อเทียบกับที่อื่นที่พวกเรามี
และที่แม่กับน้องเรารู้สึกไม่อยากจ่ายให้คือรู้สึกไม่ยุติธรรม แค่นั้นค่ะ ตอนปู่ย่าเสีย อาสะใภ้ไล่ถามแม่เราและถามเรากะน้องทุกคนว่าทำประกันไว้มั้ย ฌาปณกิจที่พ่อทำกะสหกรณ์ไว้ได้เท่าไหร่ แระคือถามในงานศพด้วย เรารู้สึกเฟลมาก ทำไมทำตัวกันแบบนี้
แต่จะบอกทุกคนว่าสุดท้ายเราก็คุยกับแม่กับน้องแหละค่ะ ว่ายอมจ่ายเค้าไปเถอะ เงินไม่มากอะไร จะได้จบๆ แล้วเราโอนเรียบร้อยแล้วค่ะ