เราทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้านายมาจากการรับช่วงต่อในครอบครัว แต่รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เจ้านายทำงานด้วยยากที่สุด แล้วจากที่คุยกับคนในบริษัทที่เคยทำอยู่ก่อนหน้าก็ได้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะทำงานด้วย ยกตัวอย่างวีรกรรมอย่างเช่น
- เวลาที่พนักงานจะเข้าไปถามเรื่องงานในออฟฟิส จะต้องดูว่าเขาคุยสายกับลูกค้าอยู่หรือเปล่า แต่ประเด็นคือเขาใส่สมอลทอร์คไว้ที่หูข้างที่คนนอกห้องไม่มีทางมองเห็น แล้วมันจะมีจังหวะที่เขาหยุดพูดนานๆ พนักงานก็จะนึกว่าไม่ได้คุยสาย และขออนุญาตก่อนเข้าแล้ว เขาก็มองมาเหมือนอนุญาต พอเข้าไปก็ถูกด่าว่า 'ไม่มารยาท ก่อนเข้าให้ดูด้วยว่าติดสายหรือเปล่า' ทั้งที่ก็ขอแล้ว จะให้ยืนหัวโด่หน้าห้องไม่เรียกเลยเขาก็ไม่ชำเลืองตามามองอีก
- ระยะเวลาในการรอถามงานที่จะนานเป็นพิเศษ ถึงจะด่วนแค่ไหนก็ต้องรออยู่ที่หน้าห้องจนกว่าเขาจะอนุญาตให้เข้า แล้วถ้าไม่รอเดินหนีไปทำงานอื่นจะถูกตำหนิว่าทำไมไม่รอ ทั้งที่พนักงานก็มีงานอื่นต้องไปทำ
- ในบางครั้งที่เขาอารมณ์ไม่ดีมาที่ทำงานทุกครั้งจะมาลงที่พนักงานทั้งที่สิ่งนั้นอาจจะเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย และมีบางครั้งก็ตะโกนด่า เสียงดังไปทั้งบริษัทเหมือนประจานให้ทุกคนรู้ ไม่ว่าคนนั้นจะแก่หรือเด็กกว่าก็ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
- และตัวอย่างข้อสุดท้าย การขึ้นเงินเดือนจะขึ้นอยู่กับว่าไปให้เขาเห็นหน้ามากแค่ไหน ถึงจะทำผลงานได้ดี ไม่มีข้อผิดพลาดยังไง ถ้าไม่ได้อยู่ในสายตาเขาระหว่างทำงาน ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ดูอย่างทั่วถึง จำนวนเงินเดือนที่เพิ่มก็เพิ่มแค่นิดหน่อย จนมีหลายครั้งที่มีพนักงานไปร้องเรียนเรื่องที่ตัวเองก็ทำงานหนักมาก แต่ได้เงินเพิ่มน้อยกว่าคนที่แทบไม่ได้ทำงาน มาสายตลอด แค่ทำงานขึ้นตรงกับเขาเท่านั้น แต่จะโดนถามกลับมาว่า'คุณมีผลงานอะไรถึงมาขอเพิ่ม'
จนตอนนี้บริษัทก็ต้องหาคนใหม่มาแทนคนเก่าตลอด เพราะไม่มีใครทนได้กับนิสัยของเขาคนเดียวได้ และเขาก็ไม่รู้ตัวด้วยเพราะไม่มีใครที่เตือนเขาได้ เราเองก็ทนมานานเหมือนกัน จนตอนนี้ก็คิดว่าจะหางานใหม่ไว้ด้วย
จากที่เล่ามาทั้งหมดมีใครเคยเจอเจ้านายที่เป็นประมาณนี้บ้าง แล้วรับมือกับเขายังไงกันคะ หรือคิดเห็นยังไงมาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
เจ้านายที่น่าอึดอัด ทำงานด้วยยาก
- เวลาที่พนักงานจะเข้าไปถามเรื่องงานในออฟฟิส จะต้องดูว่าเขาคุยสายกับลูกค้าอยู่หรือเปล่า แต่ประเด็นคือเขาใส่สมอลทอร์คไว้ที่หูข้างที่คนนอกห้องไม่มีทางมองเห็น แล้วมันจะมีจังหวะที่เขาหยุดพูดนานๆ พนักงานก็จะนึกว่าไม่ได้คุยสาย และขออนุญาตก่อนเข้าแล้ว เขาก็มองมาเหมือนอนุญาต พอเข้าไปก็ถูกด่าว่า 'ไม่มารยาท ก่อนเข้าให้ดูด้วยว่าติดสายหรือเปล่า' ทั้งที่ก็ขอแล้ว จะให้ยืนหัวโด่หน้าห้องไม่เรียกเลยเขาก็ไม่ชำเลืองตามามองอีก
- ระยะเวลาในการรอถามงานที่จะนานเป็นพิเศษ ถึงจะด่วนแค่ไหนก็ต้องรออยู่ที่หน้าห้องจนกว่าเขาจะอนุญาตให้เข้า แล้วถ้าไม่รอเดินหนีไปทำงานอื่นจะถูกตำหนิว่าทำไมไม่รอ ทั้งที่พนักงานก็มีงานอื่นต้องไปทำ
- ในบางครั้งที่เขาอารมณ์ไม่ดีมาที่ทำงานทุกครั้งจะมาลงที่พนักงานทั้งที่สิ่งนั้นอาจจะเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย และมีบางครั้งก็ตะโกนด่า เสียงดังไปทั้งบริษัทเหมือนประจานให้ทุกคนรู้ ไม่ว่าคนนั้นจะแก่หรือเด็กกว่าก็ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
- และตัวอย่างข้อสุดท้าย การขึ้นเงินเดือนจะขึ้นอยู่กับว่าไปให้เขาเห็นหน้ามากแค่ไหน ถึงจะทำผลงานได้ดี ไม่มีข้อผิดพลาดยังไง ถ้าไม่ได้อยู่ในสายตาเขาระหว่างทำงาน ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ดูอย่างทั่วถึง จำนวนเงินเดือนที่เพิ่มก็เพิ่มแค่นิดหน่อย จนมีหลายครั้งที่มีพนักงานไปร้องเรียนเรื่องที่ตัวเองก็ทำงานหนักมาก แต่ได้เงินเพิ่มน้อยกว่าคนที่แทบไม่ได้ทำงาน มาสายตลอด แค่ทำงานขึ้นตรงกับเขาเท่านั้น แต่จะโดนถามกลับมาว่า'คุณมีผลงานอะไรถึงมาขอเพิ่ม'
จนตอนนี้บริษัทก็ต้องหาคนใหม่มาแทนคนเก่าตลอด เพราะไม่มีใครทนได้กับนิสัยของเขาคนเดียวได้ และเขาก็ไม่รู้ตัวด้วยเพราะไม่มีใครที่เตือนเขาได้ เราเองก็ทนมานานเหมือนกัน จนตอนนี้ก็คิดว่าจะหางานใหม่ไว้ด้วย
จากที่เล่ามาทั้งหมดมีใครเคยเจอเจ้านายที่เป็นประมาณนี้บ้าง แล้วรับมือกับเขายังไงกันคะ หรือคิดเห็นยังไงมาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ