ควรต้องผ่าหรือไหมในกรณีตรวจพบรอบแรกอยากถามในกระบวนรักษาของโรงพยาบาท

กระทู้สนทนา
ใส่ข้อความ
เมื่อวันที่10/1/2566รอบแรกไปหาหมอพ่อคุณพ่อมีอาการปากเบี้ยวพูดไม่ชัดตรวจพบว่าเลือดออกในสมองเป็นอัมพาตแขนขาชาครึ่งนึงเดินไม่ได้พูดไม่ได้ สแกนสมองหมอบอกว่าไม่จำเป็นต้องผ่าเพราะเลือดออกไม่เยอะนอนโรงพยาบาลได้ 3-4วัน
 วันหมอให้กลับบ้านเพราะไม่มีอาการซึมเพราะพ่อรู้สึกตัวดีหมอให้กลับบ้าน
กลับบ้านได้ประมาณ 2
 วันพ่ออ้วกอาการหนักเพราะคิดว่าพ่อเป็นกรดไหลย้อนเพราะกินแล้วก็นอนเพราะพ่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงพาไปหาหมอรอบ 2ตอนดึก
หมอเวรแผนกฉุกเฉินแผนกฉุกเฉินวัดความดันเลือดอาการความดันปกติเลือดปกติทุกอย่างวินิจฉัยว่าอาจเป็นกรดไหลย้อนเพราะเกิดจากการกินแล้วก็นอนจึง
ได้นอนโรงพยาบาทหมอเดินมาดูตอนเช้าแนะนำให้พ่อกินข้าวทางสายยางเพื่อที่จะให้ย่อยง่ายเพราะพ่อเดินไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย พอตอน 7 โมงเช้าปลุกพ่อกินข้าวพ่อก็สะลึมสะลือแต่กินได้ปกติ พอตอนสายๆ 8 โมงกว่าหมอมาตรวจวัดความดันตรวจเลือดก็บอกว่าปกติจึงแนะนำให้คนไข้กินข้าวทางสายยางเพื่อที่จะไม่ให้เทียวไปเทียวมาโรงพยาบาล
หลังจากตรวจเสร็จพ่อก็หลับปลุกเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกตัวจึงได้เรียกหมอมาตรวจหมอคาดเดาว่าเลือดออกในสมองเพิ่มจึงไปสแกนสมอง พอไปสแกนสมองปรากฏว่าเลือดออกในสมองเยอะ
จึงเนะนำให้ผ่าด่วน จนเวลาล่วงเลย ไปบ่ายโมงกว่า ทางโรงบาล  เเจ้งกับ มาว่า โรงพยาบาลใหญ่ ไม่สามารถผ่าได้แล้ว เพราะเลือดออกเยอะเกิน จึงะได้เนะนำ ให้ญาติคนไข้และลูกๆทำใจ เพราะเป็นความโชคร้ายของคนไข้ โรงพยาลพูดให้คำตอบกับพวกหนูแบบนี่แค่นี่เองหรอ
พ่อไปนอนใช้เครื่องช่วยหายใจโคม่าไม่รู้สึกเหมือนนอนรอความตายอย่างเดี่ยว  นอนโคม่าได้3วัน แล้วพ่อก็เสียชีวิต
ทางเราได้สงสัย ตรวจพบรอบแรก เลือดออกในสมอง ทำไมไม่ผ่าเลย
 ไม่ดูอาการให้นานกว่านี้ จะได้ผ่าตัดเพื่อฉกเฉิน
แล้วมันควรจะมีวิธีรักษาให้ดีกว่านี่ ไม่น่าให้กับบ้าน
คำว่าเลือดออกในสมองมันก็ขึ้นว่าอันตรายแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่