คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
เงินทำหน้าที่ของมันแล้วครับ คือ ซื้อความสุขให้กับคุณ
ถ้าคุณตัดสินใจจ่ายไปแล้ว เงินไม่ย้อนกลับมาอยู่ในมือคุณแล้วครับ คุณก็ต้องใช้ความสุขที่คุณซื้อไปให้เต็มที่ครับ ไม่ต้องคิดมากอะไรแล้วครับ เพราะถ้าคุณคิดมาก เงินที่จ่ายไปมันจะไม่คุ้มครับ เพราะเงินมันทำหน้าที่ของมันไม่สมบูรณ์ คือ ซื้อความสุขแต่กลับไม่สุขเท่าที่ควรจะเป็น
สุดท้าย หากคุณคิดว่าจะใช้เงินเพื่อการนี้อีกหรือเปล่า ก็ตั้งคิดให้ดีครับ แต่ถ้าตัดสินใจแล้วก็ต้องไม่คิดมากว่าคุ้มหรือไม่คุ้มครับ ส่วน
1) รอบหน้าราคาน้องเขาจะสูงกว่านี้ไหม?
- เราใช้เงินซื้อความสุขครับ ถ้ารอบหน้าราคาน้องเขาสูงกว่านี้ เราก็อาจจะตัดสินใจซื้อความสุขกับคนอื่น หรือไม่ก็ที่ร้านอื่นครับ
2) เราไม่รู้จะไปที่แบบนี้อีกดีไหม
ิ - ช่วงนึงของชีวิตเราก็มักจะมีความหลงหรือหมกมุ่นกับการกระทำบางอย่างอยู่แล้วครับ ชีวิตมันไม่ได้จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรไปซะทุกเรื่องครับ บางการกระทำของชีวิตมันใช้อารมณ์ตัดสินใจที่จะทำครับ มันคือความสุขใจ มันคือการดับตัณหาทางใจครับ 55 มันคือความสุขทางโลกครับ
3) เรามีสิทธิ์จะเที่ยวหรือควรเที่ยวแบบนี้ไหม บ่อยได้แค่ไหน
- ก็อย่างที่ว่าครับ ความสุขของคนไม่เหมือนกัน จะเที่ยวอีกไหม คุณก็ใช้ใจตัดสินครับ
- แต่ถ้ารู้สึกว่ามันแพงไป ก็อาจจะหาน้องๆจากแหล่งอื่นที่ถูกกว่าได้ครับ
4) เป็นเกย์โสด ต้องเที่ยวแบบนี้ใช่ไหม เที่ยวแบบนี้ไปจนตายเลยหรือเปล่า ชีวิตเกย์
- ต้องอยู่ที่ว่าชีวิตคนเราต้องการอะไรแบบไหนครับ ถ้าต้องการคนเคียงข้าง ก็ต้องหาคนมาเคียงข้างครับ ถ้าเราไม่มีคนเข้าหา เราก็ต้องกล้าที่จะออกตามหาครับ ถ้ากล้าที่จะออกตามหาก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะไม่ได้ตามที่คาดหวังด้วยนะครับ แต่ก็อย่างว่าถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อข้าวกิน ก็ต้องหุงข้าวเองครับ ถ้าไม่ลงมือหุงข้าวเอง ก็มีแต่จะต้องรอให้คนอื่นเอาข้าวมาให้เราก็เท่านั้นครับ
- เกย์โสดที่ไม่มีเหงาใจ ก็ไม่จำเป็นต้องเที่ยวนะครับ 55 แสดงว่าคุณเหงาใจไงครับ ต้องหาอะไรมาเติมเต็ม ยิ่งเคยไปเที่ยวแบบนี้แล้วมีความทำอะไรต่างๆให้คุณ เติมเต็มส่วนที่คุณขาดให้คุณ มันก็จะคล้ายๆยาเสพติดนั่นแหละครับ ร่ายกายเราได้รับสารที่ทำให้กระชุ่มกระชวย ได้รับสารแห่งความสุข สุขจนล้น ที่ล้นก็เพราะไม่เคยได้รับความสุขมากขนาดนี้มาก่อน สุดท้ายพองานเลี้ยงเลิกรา สารแห่งความสุขที่เคยหลั่งล้นมันหายไป ร่างกายก็เลยตอบสนองเหมือนดั่งว่าคุณขาดความสุข คุณมีความทุกข์ สุดท้ายก็มีแววต้องกลับไปเสพอีก
เงินทำหน้าที่ของมันแล้วครับ คือ ซื้อความสุขให้กับคุณ
ถ้าคุณตัดสินใจจ่ายไปแล้ว เงินไม่ย้อนกลับมาอยู่ในมือคุณแล้วครับ คุณก็ต้องใช้ความสุขที่คุณซื้อไปให้เต็มที่ครับ ไม่ต้องคิดมากอะไรแล้วครับ เพราะถ้าคุณคิดมาก เงินที่จ่ายไปมันจะไม่คุ้มครับ เพราะเงินมันทำหน้าที่ของมันไม่สมบูรณ์ คือ ซื้อความสุขแต่กลับไม่สุขเท่าที่ควรจะเป็น
สุดท้าย หากคุณคิดว่าจะใช้เงินเพื่อการนี้อีกหรือเปล่า ก็ตั้งคิดให้ดีครับ แต่ถ้าตัดสินใจแล้วก็ต้องไม่คิดมากว่าคุ้มหรือไม่คุ้มครับ ส่วน
1) รอบหน้าราคาน้องเขาจะสูงกว่านี้ไหม?
- เราใช้เงินซื้อความสุขครับ ถ้ารอบหน้าราคาน้องเขาสูงกว่านี้ เราก็อาจจะตัดสินใจซื้อความสุขกับคนอื่น หรือไม่ก็ที่ร้านอื่นครับ
2) เราไม่รู้จะไปที่แบบนี้อีกดีไหม
ิ - ช่วงนึงของชีวิตเราก็มักจะมีความหลงหรือหมกมุ่นกับการกระทำบางอย่างอยู่แล้วครับ ชีวิตมันไม่ได้จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรไปซะทุกเรื่องครับ บางการกระทำของชีวิตมันใช้อารมณ์ตัดสินใจที่จะทำครับ มันคือความสุขใจ มันคือการดับตัณหาทางใจครับ 55 มันคือความสุขทางโลกครับ
3) เรามีสิทธิ์จะเที่ยวหรือควรเที่ยวแบบนี้ไหม บ่อยได้แค่ไหน
- ก็อย่างที่ว่าครับ ความสุขของคนไม่เหมือนกัน จะเที่ยวอีกไหม คุณก็ใช้ใจตัดสินครับ
- แต่ถ้ารู้สึกว่ามันแพงไป ก็อาจจะหาน้องๆจากแหล่งอื่นที่ถูกกว่าได้ครับ
4) เป็นเกย์โสด ต้องเที่ยวแบบนี้ใช่ไหม เที่ยวแบบนี้ไปจนตายเลยหรือเปล่า ชีวิตเกย์
- ต้องอยู่ที่ว่าชีวิตคนเราต้องการอะไรแบบไหนครับ ถ้าต้องการคนเคียงข้าง ก็ต้องหาคนมาเคียงข้างครับ ถ้าเราไม่มีคนเข้าหา เราก็ต้องกล้าที่จะออกตามหาครับ ถ้ากล้าที่จะออกตามหาก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะไม่ได้ตามที่คาดหวังด้วยนะครับ แต่ก็อย่างว่าถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อข้าวกิน ก็ต้องหุงข้าวเองครับ ถ้าไม่ลงมือหุงข้าวเอง ก็มีแต่จะต้องรอให้คนอื่นเอาข้าวมาให้เราก็เท่านั้นครับ
- เกย์โสดที่ไม่มีเหงาใจ ก็ไม่จำเป็นต้องเที่ยวนะครับ 55 แสดงว่าคุณเหงาใจไงครับ ต้องหาอะไรมาเติมเต็ม ยิ่งเคยไปเที่ยวแบบนี้แล้วมีความทำอะไรต่างๆให้คุณ เติมเต็มส่วนที่คุณขาดให้คุณ มันก็จะคล้ายๆยาเสพติดนั่นแหละครับ ร่ายกายเราได้รับสารที่ทำให้กระชุ่มกระชวย ได้รับสารแห่งความสุข สุขจนล้น ที่ล้นก็เพราะไม่เคยได้รับความสุขมากขนาดนี้มาก่อน สุดท้ายพองานเลี้ยงเลิกรา สารแห่งความสุขที่เคยหลั่งล้นมันหายไป ร่างกายก็เลยตอบสนองเหมือนดั่งว่าคุณขาดความสุข คุณมีความทุกข์ สุดท้ายก็มีแววต้องกลับไปเสพอีก
แสดงความคิดเห็น
เป็นเกย์โสด ต้องเที่ยวแบบนี้ใช่ไหม เที่ยวผู้ชายไปจนตายเลยหรือเปล่า
ตอนแรกแค่อยากไปเปิดหูเปิดตาไปบาร์เกย์
ได้ดูการแสดงคาบาเรต์ เต้นบีบอย โชว์เซ็กซี่ แต่ทีมีเพิ่มมาอีกคือมีน้องๆผู้ชาย ยืนบนเวทีให้เลือกมานั่งดริ้งค์ด้วย
อาจเพราะบรรยากาศพาไป
อาจเพราะคนบนเวทีเรามองไปแล้วสะดุดตา
หรืออาจเพราะไปคนเดียวด้วย
เลยตัดสินใจเลือกน้องผู้ชายมา2คน
เราเลือกที่จะไม่ถามชื่อน้อง เพราะเราคิดว่าคงไม่ได้มาที่นี่อีก
คนนึงหน้าคมหล่อเหลาเซ็ทผมมีสไตล์ยิ้มเจ้าเสน่ห์
อีกคนขาวตี๋ ดูขี้อาย ยิ้มทีตาสระอิไม่เห็นตา
คุยกันไปเรื่อยๆ สนุกดี ชวนเราเล่นเกม ป้อนอาหาร ป้อนผลไม้ กอดเรา กุมมือเรา มือน้องนุ่มมากกกกก เรารู้สึกตัวเล็กไปเลย อยู่ด้วยกันตั้งแต่ห้าทุ่มจนตีสอง
เราถามน้องว่าเป็นตัวทอปของร้านหรือเปล่า น้องบอกไม่ใช่ ค่าตัวน้องๆถ้าเทียบกับคนอื่นน่าจะถูกกว่า เพราะเราให้แค่ทีละ2ดื่ม (ดื่มละ300)
น้องบอกตัวทอปคือถ้าให้ดื่มน้อยเขาก็ไม่ลงนะ (แต่ตัวทอปคืออาจจะดีตามกระแสปัจจุบันไม่ใช่สเปกเรา เราก็ไม่ได้สนใจที่จะเลือก)
น้องสองคนนี้คือที่สุดแล้ว เราเหมือนตัวเล็กลงไปเลย (เราตัวสูงมาก)
น้องสองคนก็สูงนะ คนนึง180 อีกคน182
เราชอบถูกกอด ถูกลูบหัว นั่งกุมมือเรา
น้องหน้าหล่อเหมือนผู้กล้าของเรา คอยดูแลคุยป้อนอาหารเอาอกเอาใจ คอยดูแลเรา
น้องตัวนิ่มขาวจั้วะเหมือนเจ้าชายของเรา
ฟินสุดๆ กอดอุ่น อุ๋งอุ๋งน่ารักมากๆ
ความทุกข์ใจ ความเหงา ที่เราสั่งสมมา30กว่าปี ละลายเบาบางลงไปเลยภายในไม่กี่ชม.นั้น
รวมเสียเงินไปทั้งหมดทั้งค่าโต๊ะค่าเหล้าค่าอาหารค่าดื่มน้องสองคน รวมประมาณ1หมื่นบาท
พอกลับมาจากเที่ยวเราก็รู้ว่ามันคือความสุขชั่วคราวที่ไม่มีวันเป็นไปได้เลยในชีวิตจริงเราไม่มีทางได้แตะเนื้อต้องตัว ได้คุย หรือมีแฟนแบบนี้ได้เลยในชีวิตจริง
ตอนแรกเลยตัดสินใจจะไม่ไปอีกแล้ว เพราะเอาจริงเราว่าเหมือนเราเสียเงินไปเปล่าๆพอวันรุ่งขึ้นมันก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็ตัวคนเดียวอยู่ดี
พอเรากลับมาตจว. พอคิดว่าจะไม่ได้เจอีก วันทำงานเราซึมกะทือไปเลย รู้สึกไม่อยากอาหาร ไม่อยากยุ่ง กับใคร
นี่คือเราติดเที่ยวแบบนี้แล้วใช่ไหม
มันเหมือนเราหาเงินแล้วเอาเงินไปทิ้งไหม
ถ้าไปรอบหน้าอีกราคาน้องๆสูงกว่านี้อีกเราจะไหวไหม
ทำให้เราไม่รู้จะไปที่แบบนี้อีกดีไหม
รายได้เราต่อเดือนเราหาได้ประมาณ1-2แสนบาท ไม่ได้เป็นล้าน
เรามีสิทธิ์จะเที่ยวหรือควรเที่ยวแบบนี้ไหม บ่อยได้แค่ไหน
เป็นเกย์โสด ต้องเที่ยวแบบนี้ใช่ไหม เที่ยวแบบนี้ไปจนตายเลยหรือเปล่า ชีวิตเกย์