กระทู้ก็ขึ้นเลยนะว่าแค่อยากระบาย ชีวิตของคนๆนึงกับอีกคนนึงที่เวลาไม่ได้เหมาะสม อุปสรรคที่ก้าวผ่านไม่พ้นและไม่สามารถสู้ต่อไปได้ หรือต่อให้สู้มันก็ยังไม่มีทางผ่านให้สำหรับเราเลย
เริ่มต้นความรักด้วยโซเซี่ยลจนรักจริงๆ โทรคุย ถ่ายรูปส่งให้ทุกวัน คุยกันด้วยเหตผลที่โตและยอมรับความจริงว่าอันนี้ไม่ได้นะ อันไหนได้บ้าง เป็นความรักที่อิสระ มีการโกหกกันบ้าง บ้างเรื่อง แต่ก็คุยหาสาเหตุการโกหก( ถึงการโกหกเป็นสิ่งที่ไม่น่าอภัยไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ) แต่ฏ้เข้าใจยอมรับเหตุผลตรงนั้น แต่ระหว่างทางนั้นอีกฝ่ายได้มีปัญหาระดับครอบครัวกับการทำงานที่ทุกอย่างลงมาทีเดียวและเวลาเดียวกัน ในอายุ 25 ปี ( บางคนอาจจะเชื่อว่าเป็นเบญจเพศ แต่สำหรับความคิดเรานั้น คิดว่าการเตรียมพร้อมที่ไม่ได้พร้อมเจอเรื่องพวกนี้ ) เราก็ค่อยแก้ปัญหาให้อีกฝ่ายตลอดมา แต่ทุกคนรู้ความเป็นจริงว่า ทุกปัญหาแก้ด้วยเงินทั้งหมด ต่อให้เจรจาแล้วก็ตาม ชีวิตคู่รักของอีกคนที่กำลังพังทลายลงมา เริ่มจากงานโดนฟ้องค่าเสียหาย พักเงินเดือน 2 เดือน ลูกน้องขอเบิกก่อน เบิกก็ขอลาออก จนทำให้ต้องออกจากงาน เรื่องต่อไป หลังจากนั้น รถโดนชนค่าซ่อมรถยุโรปบวกกับประกันแล้ว ต้องจ่ายจำนวนนึง ทางฝ่ายครอบครัวนั้นพ่อเสียตั้งแต่มหาลัย หัวใจล้มเหลวเฉียบเพราะภาวะเครียดกับสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคง ส่วนทางแม่มีสามีใหม่พร้อมลูกติด ( เท่าที่ฟังมา และสัมผัสมานั้น เหมือนแมงดา ซะส่วนใหญ่ ) ตอนนั้นเริ่มจากรถชนเรียกประกันช่วยจ่ายได้แล้ว เหลืออีกครึ่งนึง แแต่ทางพ่อใหม่ไม่ช่วยแถมจะเอาเงินไปจ่ายเทอมลูกตัวเองจากคนรักของเรา เพราะแม่กับพ่อใหม่เอาเงินไปดาวน์คอนโดกับซื้อให้แล้ว ( แต่จริงคือเงินแม่ของคนรักออกแต่เพียงผู้เดียว ) หลังจากเรื่องผ่านไปสักพัก หลังจากลาออกจากงานจะกลับไปอยู่บ้าน เจอเหตุการณ์ ณ เวลาพวกเรานัดเจอกัน แต่เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นฝั่งแม่คนรักโทรมาลูกตัวเองไม่หยุด ต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง ก็คือโดนทำร้ายร่างกาย โดยทุนเดิมคนรัก ไม่ชอบพ่อใหม่คนนี้อยู่เพราะเขามาช่วงที่พ่อแท้ยังมีชีวิต พ่อแท้ก็รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ยันพ่อแท้เสียชีวิตว่าแม่มีคนอื่น ทำให้เริ่มไม่ชอบทั้งตัวแม่และพ่อใหม่ ( แม่ก็คือแม่เขาก็ยังอยากดูแลเสมอ ต่อให้ทำอะไรผิดพลาดก็ตาม ) ก็พากันย้ายไปเชียงใหม่ห้องอพาทเมนท์ที่ห้องซื้อเอาไว้ให้ ( สินทรัพท์ของคนรักมีเยอะมากๆ พอที่จะดำเนินชีวิตใหม้ได้เลย และมีมากกว่าเรา 4 - 5 เท่า ) หลังจากนั้นระหว่างอยู่เชียงใหม่เริ่มทำการฟ้องจนเรื่องเงินกลับมาอีกครั้ง ต้องใช้ในการต่อรอง สุดท้ายแต่ไม่สามารถหาเงินได้ และสภาพจิตใจของคนรักนั้นแย่มากถึงขั้น รมควันตัวเองอยู่ในรถแต่รอดมาได้ พยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งซึ่งเราห้ามทุกครั้ง พยายามพูดทุกครั้งให้เปลี่ยนใจ จนคนรักไม่ทำแล้ว จนเรื่องฟ้องระหว่างนั้นแม่ได้เสียชีวิตโรคเดียวกับพ่อแท้ หัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียใจมากๆ เพราะตอนนั้นคนรักกำลังลงมากรุงเทพมาเจอกับเรา สุดท้ายพอจัดการเรื่องศพเสร็จก็มาต่อเรื่องฟ้องร้องการทำร้ายร่างกาย เรื่องทรัพท์สมบัติทั้งหมด ที่เป็นตลกร้ายก็คือ ชื่อเกือบทั้งหมดที่เป็นของแม่ถูกโอนย้ายเป็นของพ่อใหม่ ( แมงดา และก่อนหน้าได้เงินจากพ่อแท้ที่ทิ้งเอาไว้ให้ มาพอกับบ้านเดียวพร้อมแต่งพร้อมเครื่องไฟฟ้าครบครัน ได้ทำการผลาญเงินในเวลา 2 ปี หมดแถมมาขอเงินคนรักให้ไปจ่ายค่าเทอมลูกตัวเอง แต่ทว่าเขาก็ได้เงินจากค่าเช่าตึกสีลมเป็นเวลา 2 ปีประมาณนี้ ค่าเช่าตึกมันเท่ากับคณะวิศวกรรม ม.เอกชน เรียนป.ตรี 3 รอบครึ่ง ) โดยอันที่จริงคนที่ควรได้ก็คือคนรักของเราควรได้ ( อันนี้พวกคุณน่าจะและสงสัยทำไม นะ ทำไม Why why why ) แต่นั้นแหละเป็นสิ่งพวกเขาตกลงกันและยอมรับกัน และต้องยอมรับผลที่ตามมาก็ต้องปล่อยไป ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเราเป็นคนนอกได้เพียงแต่บอกหมดสัญญาเมื่อไหร่เปลี่ยนมาเป็นของเราแค่นั้น ระหว่างที่ฟ้องร้องก็โดนกลั่นแกล้งกรีดรถ กรีดยาง พอจบเรื่องนี้ แต่ก่อนจะจบก็เสียหายจำนวนมาก ตลกร้ายอีกก็โดนเรื่องโรคหัวตีบของตัวเองที่ต้องรักษา และกินยา แต่ไม่มีเงิน แต่ก็ขายขนมทุกวัน แต่เงินนั้นมันพอแค่ค่ากิน ค่าที่อยู่ไม่พอรักษา บวกกับพอหมดสัญญาตึกเราก็ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงอีก ทำให้ทุกอย่างกำลังพังอีกรอบ แต่ก่อนมาทั้งหมดนี้ โดนแฟนเก่าขโมยเงิน โดนป้าเพื่อนแม่เอาเงินไปใช้ก่อนแต่ไม่คืน โดนเพื่อนซื้อกระเป๋าไม่จ่ายเงิน โดนบริษัทไม่จ่ายเงินอีก รวมก็มากพอที่จัดการชีวิตได้ ชีวิตคู่พวกเราก็มีการทะเลาะกันบ้างมีเลิกกันบ้าง เพราะเรื่องพวกนี้บางครั้งมันเกินต้านที่จะอดทนไว้ จนคนรักมีความคิดที่จะขายที่ดินบางส่วนออกไปแต่ด้วยพินัยกรรม แจ้งว่าของทุกอย่างจะแบ่งกันครึ่งๆ ถ้ามีการทำการขายสินทรัพท์ออกไป ก็ทำให้หนักใจเข้าไปอีก ทั้งอคติและไม่ชอบถึงขั้นเกียจเลยก็ว่าได้ ทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ และทำการลงทุนพวกของที่ขายทั้งหมด บ้านเช่าหลังนึง กับที่ดินไปพอประมาณ และก็เวลาผ่านจนเกือบจะปัจุจบัน พึ่งจะรู้ว่าถ้าจะบ้านเช่าต้องมีในครอบครัวนามสกุลเดียวมาเซ็น จึงเรียกลุงมาจากตปท. ตลกร้ายอีกครั้ง ลุงไม่มีเงินกลับมา ต้องหาเงินอีก พอมาแล้วมาเซ็นแต่รอคนซื้ออีก ลุงก็เอาแต่เที่ยว มั่วผู้หญิง แถมไม่จ่ายเงินค่าตั๋วบินด้วย และจะเอาส่วนแบ่งขายบ้านอีก จนสุดท้ายคนรักเราโดนกระทำหนักที่สุดคือ ข่มขืนและทำร้ายร่างกายโดยลุงตัวเอง หลังจากนั้นก็ขับรถชนโดยรถนั้น ชื่อของคนรักของเรา ตอนนี้ต้องมารับผิดชอบแทนเพราะว่าลุงหนีไปแล้ว กลับประเทศที่ โอโตซัง10 ( ในใจแบบ what the มีเงินทำไมมมมม ไม่จ่ายค่าตั๋วเรา ) สุดท้ายก็แบบคนไม่อยากโดนคดีก็ต้องมีกระบวนการ แต่ตอนนี้ปัจุจบันรับโทษเรียบร้อยทุกอย่างจบแต่สิ่งที่แลกมา คนรักของเราได้ทำการยืมคนมา 2 คนที่รู้จักกันมากที่สุด จริงก็มีแค่ 2 คนแหละทั้งชีวิตนี้ มีเรากับน้อง ซึ่งน้องไม่ใช่น้องแท้แต่เป็นน้องที่เคยยืมคนรักของเราบ่อย ตอนระหว่างฝึกงานและเมาท์มอยมาตลอด และตอนนี้กับกันมาช่วยกัน ที่ยืมเงินจำนวนเงินจะเท่ากับรถมอไซด์ราคาเวสป้า แต่ของเรานั้นจำนวนเงินที่รถcivc rs 1 คันจำนวนมากพอ แต่เราไม่ได้รีบใช้เงิน ถึงเวลาที่ไม่คาดคิดน้องคนนั้นที่จริงก็คือเพื่อนเราตั้งแต่สมัย 6-7 ปีที่แล้ว ก็กลับได้รู้จักกันอีกครั้ง ทางน้องมีการย้ายถิ่นฐานต้องใช้เงินก็เลยขอเงินคืน แต่พวกคุณคิดว่าจะมีเงินให้ไหม ไม่มีหรอก เพราะพึ่งจะเคลียร์เรื่องนั้นไป ก็ทำการกู้เสี่ยคนนึงที่เชียงใหม่ เราไม่นึกไม่ฝันว่าผลที่ตามมานั้น เสียขนาดไหน มันเสียหนักมาก เสี่ยคนนั้นจิตใจอำมหิตสุดๆ ทำร้ายร่างกาย ทุกอย่างเจ้าอารมณ์และได้เสนออย่างนึงมาใช้หนี้ทุกคน เพราะรู้ว่า คนรักของเราไม่มีญาติพี่น้องที่ดูแลสิ่งที่ผิดกฎหมายสุดๆ คนรักของเราก็ยอมนะ เพราะเรื่องราวมันผ่านมานานที่จะให้เราช่วยอีก เขาเห็นว่าเขาต้องชดใช้ในสิ่งที่ผ่านมมาทั้งหมดบ้างแล้วจะปล่อยให้เราได้ใช้ชีวิตที่ควรเป็นไม่ใช่เอาทุกอย่างมาลงที่เขา เขาอยากรับผิดชอบทุกอย่าง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ทำ เพราะอีกฝั่งยังไม่พร้อมที่จะเข้าทำ เพราะเห็ยคนรักเราร้องไห้ เลยแกล้งบอกพ่อตัวเองหรือเสี่ยว่าไม่พร้อม กลัว ( เรา ขอบคุณเขามากๆ ) แต่สุดท้ายไปโรงบาลตรวจเจอมะเร็ง แต่เราพึ่งจะเคลียร์หนี้สินที่ยืมเสี่ยมาให้ ก็มากพอที่จะช่วยคนรักตอนนี้ไม่ได้แล้ว จนสุดท้าย เสี่ยยืนข้อเสนอนั้นอีกรอบเพื่อจะได้รักษาและคืนหนี้ทั้งหมด ตอนนี้เลยทำให้เรา 2 คนกลับมาแย่อีกรอบ ความรู้สึกเราทั้งหมดนี้ เราคอยช่วยเหลือเขามาตลอด และอยุ่กับมาตลอด ถึงเขาจะเคยโกหกเรา แม้จะทำตัวไม่ดี เราก็ยอมรับเขาในตัวเขาที่เป็น และรู้สึกขอบคุณเขามากทำให้เราพยายามทำอะไรมากกว่านี้เพื่อคนนึง หาเงินเก่งขึ้น แต่ตอนนี้เราไม่สามารถช่วยเขาได้เลย หมดหนทางจริงๆ มันเหมือนที่เราพยายามมาทั้งหมดเกือบจะสูญเปล่าทั้งหมดเลย จนตอนนี้ เขารอลูกน้องเสี่ยมารับ มาแลกข้อเสนอเมื่อทำการรักษาเสร็จจะทำลงมาขายรทั้งหมดแบ่งฝั่งนั้น 40 เปอร์เซ็นต์ ตามที่คุยเอาไว้ และส่วนที่เหลือให้เรา และทำการซื้อขายอย่างผิดกฏหมาย ส่วนที่เหลือให้เรา ส่วนที่เหลือหักหนี้สินที่ยืมมารักษา เราพยายามห้ามเขา แต่ในใจก็นึกว่าคนป่วยมะเร็งนะ จะรออะไรได้อีก จะต้องทำยังไง ยิ่งเป็นห่วง เราก็ยิ่งใส่อารมณ์มากขึ้นไป จนลืมเลยว่าคนป่วยเป็นมะเร็งต้องการกำลังใจมากที่สุด เราขู่สารพัดเรื่องเงินโดยไม่นึกถึงจิตใจเขาเลย จนวันสุดท้ายจริงตอนนี้ที่รอลูกน้องเสี่ยมารับ เราใจเย็นลง คุยกันเหตุผล ให้กำลังใจ และต้องยอมรับการตัดสินใจของเนาอีกครั้ง และยอมรับผลที่ตามมา ตอนนี้เรารู้สึกแย่มาก ไม่ใช่เพราะเงินเพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ยิ่งทำให้เราต้องรววยกว่านี้ ต้องมีเงินมากกว่านี้ ต้องรักษาเขาให้ได้ ต้องมีกำลังให้เขามากกว่านี้ ต้องเข้าใจมากกว่านี้ ต้องยิ้มให้กับเขามากกว่านี้ สุดท้ายแล้วนี้ยังไม่เจอผลสรุปของชีวิตคนรักของเรา ยังต้องดำเนินชีวิตที่เรียกว่า โลกอันแสนโหดร้ายที่ไม่รู้วันจบ เราก็คอยดูแลเขาไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม แต่สิ่งสุดท้ายที่เรารู้สึกได้ คือ เขาอยากมีชีวิตเพื่อมองเห็นเราในวันที่ดียิ่งกว่าเดิม
เราขออวยพรขอให้โลกอันแสนเลวร้ายนี้จบลงสักที ไม่ว่าเขาจะกลับมาแบบไหน ผ่านอะไรมา เราจะยอมรับเขาทุกสถานะ เพราะเขาคือสำคัญของเราจริงๆ และจะคอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ แต่ขอโทษที่ทำให้เขาต้องทรมานเรื่องพวกนี้ ขอโทษทุกอย่าง สร้างให้เขาต้องเจอเรื่องพวกนี้ ขอโทษที่มาส่งในสถานะคู่รัก แต่มันยังไม่จบ ในสถานะอื่นเราพร้อมที่จำทุกอย่างเหมือนเดิมเพื่อคุณคนเดียว
(ระบาย) เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ประสบการร์ที่จำไม่เคยลืม ความทรงจำไม่เคยจางหาย และการยอมรับผลที่ตามมา
เริ่มต้นความรักด้วยโซเซี่ยลจนรักจริงๆ โทรคุย ถ่ายรูปส่งให้ทุกวัน คุยกันด้วยเหตผลที่โตและยอมรับความจริงว่าอันนี้ไม่ได้นะ อันไหนได้บ้าง เป็นความรักที่อิสระ มีการโกหกกันบ้าง บ้างเรื่อง แต่ก็คุยหาสาเหตุการโกหก( ถึงการโกหกเป็นสิ่งที่ไม่น่าอภัยไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ) แต่ฏ้เข้าใจยอมรับเหตุผลตรงนั้น แต่ระหว่างทางนั้นอีกฝ่ายได้มีปัญหาระดับครอบครัวกับการทำงานที่ทุกอย่างลงมาทีเดียวและเวลาเดียวกัน ในอายุ 25 ปี ( บางคนอาจจะเชื่อว่าเป็นเบญจเพศ แต่สำหรับความคิดเรานั้น คิดว่าการเตรียมพร้อมที่ไม่ได้พร้อมเจอเรื่องพวกนี้ ) เราก็ค่อยแก้ปัญหาให้อีกฝ่ายตลอดมา แต่ทุกคนรู้ความเป็นจริงว่า ทุกปัญหาแก้ด้วยเงินทั้งหมด ต่อให้เจรจาแล้วก็ตาม ชีวิตคู่รักของอีกคนที่กำลังพังทลายลงมา เริ่มจากงานโดนฟ้องค่าเสียหาย พักเงินเดือน 2 เดือน ลูกน้องขอเบิกก่อน เบิกก็ขอลาออก จนทำให้ต้องออกจากงาน เรื่องต่อไป หลังจากนั้น รถโดนชนค่าซ่อมรถยุโรปบวกกับประกันแล้ว ต้องจ่ายจำนวนนึง ทางฝ่ายครอบครัวนั้นพ่อเสียตั้งแต่มหาลัย หัวใจล้มเหลวเฉียบเพราะภาวะเครียดกับสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคง ส่วนทางแม่มีสามีใหม่พร้อมลูกติด ( เท่าที่ฟังมา และสัมผัสมานั้น เหมือนแมงดา ซะส่วนใหญ่ ) ตอนนั้นเริ่มจากรถชนเรียกประกันช่วยจ่ายได้แล้ว เหลืออีกครึ่งนึง แแต่ทางพ่อใหม่ไม่ช่วยแถมจะเอาเงินไปจ่ายเทอมลูกตัวเองจากคนรักของเรา เพราะแม่กับพ่อใหม่เอาเงินไปดาวน์คอนโดกับซื้อให้แล้ว ( แต่จริงคือเงินแม่ของคนรักออกแต่เพียงผู้เดียว ) หลังจากเรื่องผ่านไปสักพัก หลังจากลาออกจากงานจะกลับไปอยู่บ้าน เจอเหตุการณ์ ณ เวลาพวกเรานัดเจอกัน แต่เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นฝั่งแม่คนรักโทรมาลูกตัวเองไม่หยุด ต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง ก็คือโดนทำร้ายร่างกาย โดยทุนเดิมคนรัก ไม่ชอบพ่อใหม่คนนี้อยู่เพราะเขามาช่วงที่พ่อแท้ยังมีชีวิต พ่อแท้ก็รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ยันพ่อแท้เสียชีวิตว่าแม่มีคนอื่น ทำให้เริ่มไม่ชอบทั้งตัวแม่และพ่อใหม่ ( แม่ก็คือแม่เขาก็ยังอยากดูแลเสมอ ต่อให้ทำอะไรผิดพลาดก็ตาม ) ก็พากันย้ายไปเชียงใหม่ห้องอพาทเมนท์ที่ห้องซื้อเอาไว้ให้ ( สินทรัพท์ของคนรักมีเยอะมากๆ พอที่จะดำเนินชีวิตใหม้ได้เลย และมีมากกว่าเรา 4 - 5 เท่า ) หลังจากนั้นระหว่างอยู่เชียงใหม่เริ่มทำการฟ้องจนเรื่องเงินกลับมาอีกครั้ง ต้องใช้ในการต่อรอง สุดท้ายแต่ไม่สามารถหาเงินได้ และสภาพจิตใจของคนรักนั้นแย่มากถึงขั้น รมควันตัวเองอยู่ในรถแต่รอดมาได้ พยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งซึ่งเราห้ามทุกครั้ง พยายามพูดทุกครั้งให้เปลี่ยนใจ จนคนรักไม่ทำแล้ว จนเรื่องฟ้องระหว่างนั้นแม่ได้เสียชีวิตโรคเดียวกับพ่อแท้ หัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียใจมากๆ เพราะตอนนั้นคนรักกำลังลงมากรุงเทพมาเจอกับเรา สุดท้ายพอจัดการเรื่องศพเสร็จก็มาต่อเรื่องฟ้องร้องการทำร้ายร่างกาย เรื่องทรัพท์สมบัติทั้งหมด ที่เป็นตลกร้ายก็คือ ชื่อเกือบทั้งหมดที่เป็นของแม่ถูกโอนย้ายเป็นของพ่อใหม่ ( แมงดา และก่อนหน้าได้เงินจากพ่อแท้ที่ทิ้งเอาไว้ให้ มาพอกับบ้านเดียวพร้อมแต่งพร้อมเครื่องไฟฟ้าครบครัน ได้ทำการผลาญเงินในเวลา 2 ปี หมดแถมมาขอเงินคนรักให้ไปจ่ายค่าเทอมลูกตัวเอง แต่ทว่าเขาก็ได้เงินจากค่าเช่าตึกสีลมเป็นเวลา 2 ปีประมาณนี้ ค่าเช่าตึกมันเท่ากับคณะวิศวกรรม ม.เอกชน เรียนป.ตรี 3 รอบครึ่ง ) โดยอันที่จริงคนที่ควรได้ก็คือคนรักของเราควรได้ ( อันนี้พวกคุณน่าจะและสงสัยทำไม นะ ทำไม Why why why ) แต่นั้นแหละเป็นสิ่งพวกเขาตกลงกันและยอมรับกัน และต้องยอมรับผลที่ตามมาก็ต้องปล่อยไป ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเราเป็นคนนอกได้เพียงแต่บอกหมดสัญญาเมื่อไหร่เปลี่ยนมาเป็นของเราแค่นั้น ระหว่างที่ฟ้องร้องก็โดนกลั่นแกล้งกรีดรถ กรีดยาง พอจบเรื่องนี้ แต่ก่อนจะจบก็เสียหายจำนวนมาก ตลกร้ายอีกก็โดนเรื่องโรคหัวตีบของตัวเองที่ต้องรักษา และกินยา แต่ไม่มีเงิน แต่ก็ขายขนมทุกวัน แต่เงินนั้นมันพอแค่ค่ากิน ค่าที่อยู่ไม่พอรักษา บวกกับพอหมดสัญญาตึกเราก็ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงอีก ทำให้ทุกอย่างกำลังพังอีกรอบ แต่ก่อนมาทั้งหมดนี้ โดนแฟนเก่าขโมยเงิน โดนป้าเพื่อนแม่เอาเงินไปใช้ก่อนแต่ไม่คืน โดนเพื่อนซื้อกระเป๋าไม่จ่ายเงิน โดนบริษัทไม่จ่ายเงินอีก รวมก็มากพอที่จัดการชีวิตได้ ชีวิตคู่พวกเราก็มีการทะเลาะกันบ้างมีเลิกกันบ้าง เพราะเรื่องพวกนี้บางครั้งมันเกินต้านที่จะอดทนไว้ จนคนรักมีความคิดที่จะขายที่ดินบางส่วนออกไปแต่ด้วยพินัยกรรม แจ้งว่าของทุกอย่างจะแบ่งกันครึ่งๆ ถ้ามีการทำการขายสินทรัพท์ออกไป ก็ทำให้หนักใจเข้าไปอีก ทั้งอคติและไม่ชอบถึงขั้นเกียจเลยก็ว่าได้ ทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ และทำการลงทุนพวกของที่ขายทั้งหมด บ้านเช่าหลังนึง กับที่ดินไปพอประมาณ และก็เวลาผ่านจนเกือบจะปัจุจบัน พึ่งจะรู้ว่าถ้าจะบ้านเช่าต้องมีในครอบครัวนามสกุลเดียวมาเซ็น จึงเรียกลุงมาจากตปท. ตลกร้ายอีกครั้ง ลุงไม่มีเงินกลับมา ต้องหาเงินอีก พอมาแล้วมาเซ็นแต่รอคนซื้ออีก ลุงก็เอาแต่เที่ยว มั่วผู้หญิง แถมไม่จ่ายเงินค่าตั๋วบินด้วย และจะเอาส่วนแบ่งขายบ้านอีก จนสุดท้ายคนรักเราโดนกระทำหนักที่สุดคือ ข่มขืนและทำร้ายร่างกายโดยลุงตัวเอง หลังจากนั้นก็ขับรถชนโดยรถนั้น ชื่อของคนรักของเรา ตอนนี้ต้องมารับผิดชอบแทนเพราะว่าลุงหนีไปแล้ว กลับประเทศที่ โอโตซัง10 ( ในใจแบบ what the มีเงินทำไมมมมม ไม่จ่ายค่าตั๋วเรา ) สุดท้ายก็แบบคนไม่อยากโดนคดีก็ต้องมีกระบวนการ แต่ตอนนี้ปัจุจบันรับโทษเรียบร้อยทุกอย่างจบแต่สิ่งที่แลกมา คนรักของเราได้ทำการยืมคนมา 2 คนที่รู้จักกันมากที่สุด จริงก็มีแค่ 2 คนแหละทั้งชีวิตนี้ มีเรากับน้อง ซึ่งน้องไม่ใช่น้องแท้แต่เป็นน้องที่เคยยืมคนรักของเราบ่อย ตอนระหว่างฝึกงานและเมาท์มอยมาตลอด และตอนนี้กับกันมาช่วยกัน ที่ยืมเงินจำนวนเงินจะเท่ากับรถมอไซด์ราคาเวสป้า แต่ของเรานั้นจำนวนเงินที่รถcivc rs 1 คันจำนวนมากพอ แต่เราไม่ได้รีบใช้เงิน ถึงเวลาที่ไม่คาดคิดน้องคนนั้นที่จริงก็คือเพื่อนเราตั้งแต่สมัย 6-7 ปีที่แล้ว ก็กลับได้รู้จักกันอีกครั้ง ทางน้องมีการย้ายถิ่นฐานต้องใช้เงินก็เลยขอเงินคืน แต่พวกคุณคิดว่าจะมีเงินให้ไหม ไม่มีหรอก เพราะพึ่งจะเคลียร์เรื่องนั้นไป ก็ทำการกู้เสี่ยคนนึงที่เชียงใหม่ เราไม่นึกไม่ฝันว่าผลที่ตามมานั้น เสียขนาดไหน มันเสียหนักมาก เสี่ยคนนั้นจิตใจอำมหิตสุดๆ ทำร้ายร่างกาย ทุกอย่างเจ้าอารมณ์และได้เสนออย่างนึงมาใช้หนี้ทุกคน เพราะรู้ว่า คนรักของเราไม่มีญาติพี่น้องที่ดูแลสิ่งที่ผิดกฎหมายสุดๆ คนรักของเราก็ยอมนะ เพราะเรื่องราวมันผ่านมานานที่จะให้เราช่วยอีก เขาเห็นว่าเขาต้องชดใช้ในสิ่งที่ผ่านมมาทั้งหมดบ้างแล้วจะปล่อยให้เราได้ใช้ชีวิตที่ควรเป็นไม่ใช่เอาทุกอย่างมาลงที่เขา เขาอยากรับผิดชอบทุกอย่าง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ทำ เพราะอีกฝั่งยังไม่พร้อมที่จะเข้าทำ เพราะเห็ยคนรักเราร้องไห้ เลยแกล้งบอกพ่อตัวเองหรือเสี่ยว่าไม่พร้อม กลัว ( เรา ขอบคุณเขามากๆ ) แต่สุดท้ายไปโรงบาลตรวจเจอมะเร็ง แต่เราพึ่งจะเคลียร์หนี้สินที่ยืมเสี่ยมาให้ ก็มากพอที่จะช่วยคนรักตอนนี้ไม่ได้แล้ว จนสุดท้าย เสี่ยยืนข้อเสนอนั้นอีกรอบเพื่อจะได้รักษาและคืนหนี้ทั้งหมด ตอนนี้เลยทำให้เรา 2 คนกลับมาแย่อีกรอบ ความรู้สึกเราทั้งหมดนี้ เราคอยช่วยเหลือเขามาตลอด และอยุ่กับมาตลอด ถึงเขาจะเคยโกหกเรา แม้จะทำตัวไม่ดี เราก็ยอมรับเขาในตัวเขาที่เป็น และรู้สึกขอบคุณเขามากทำให้เราพยายามทำอะไรมากกว่านี้เพื่อคนนึง หาเงินเก่งขึ้น แต่ตอนนี้เราไม่สามารถช่วยเขาได้เลย หมดหนทางจริงๆ มันเหมือนที่เราพยายามมาทั้งหมดเกือบจะสูญเปล่าทั้งหมดเลย จนตอนนี้ เขารอลูกน้องเสี่ยมารับ มาแลกข้อเสนอเมื่อทำการรักษาเสร็จจะทำลงมาขายรทั้งหมดแบ่งฝั่งนั้น 40 เปอร์เซ็นต์ ตามที่คุยเอาไว้ และส่วนที่เหลือให้เรา และทำการซื้อขายอย่างผิดกฏหมาย ส่วนที่เหลือให้เรา ส่วนที่เหลือหักหนี้สินที่ยืมมารักษา เราพยายามห้ามเขา แต่ในใจก็นึกว่าคนป่วยมะเร็งนะ จะรออะไรได้อีก จะต้องทำยังไง ยิ่งเป็นห่วง เราก็ยิ่งใส่อารมณ์มากขึ้นไป จนลืมเลยว่าคนป่วยเป็นมะเร็งต้องการกำลังใจมากที่สุด เราขู่สารพัดเรื่องเงินโดยไม่นึกถึงจิตใจเขาเลย จนวันสุดท้ายจริงตอนนี้ที่รอลูกน้องเสี่ยมารับ เราใจเย็นลง คุยกันเหตุผล ให้กำลังใจ และต้องยอมรับการตัดสินใจของเนาอีกครั้ง และยอมรับผลที่ตามมา ตอนนี้เรารู้สึกแย่มาก ไม่ใช่เพราะเงินเพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ยิ่งทำให้เราต้องรววยกว่านี้ ต้องมีเงินมากกว่านี้ ต้องรักษาเขาให้ได้ ต้องมีกำลังให้เขามากกว่านี้ ต้องเข้าใจมากกว่านี้ ต้องยิ้มให้กับเขามากกว่านี้ สุดท้ายแล้วนี้ยังไม่เจอผลสรุปของชีวิตคนรักของเรา ยังต้องดำเนินชีวิตที่เรียกว่า โลกอันแสนโหดร้ายที่ไม่รู้วันจบ เราก็คอยดูแลเขาไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม แต่สิ่งสุดท้ายที่เรารู้สึกได้ คือ เขาอยากมีชีวิตเพื่อมองเห็นเราในวันที่ดียิ่งกว่าเดิม
เราขออวยพรขอให้โลกอันแสนเลวร้ายนี้จบลงสักที ไม่ว่าเขาจะกลับมาแบบไหน ผ่านอะไรมา เราจะยอมรับเขาทุกสถานะ เพราะเขาคือสำคัญของเราจริงๆ และจะคอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ แต่ขอโทษที่ทำให้เขาต้องทรมานเรื่องพวกนี้ ขอโทษทุกอย่าง สร้างให้เขาต้องเจอเรื่องพวกนี้ ขอโทษที่มาส่งในสถานะคู่รัก แต่มันยังไม่จบ ในสถานะอื่นเราพร้อมที่จำทุกอย่างเหมือนเดิมเพื่อคุณคนเดียว