ต้นกำเนิดคิกซ์บ็อกซิ่ง ก็มาจากมวยไทย ที่ช่วงร่วมหกสิบปีที่แล้ว นายทุนJP จ้างนักมวยไทย เข้าสังกัด ให้เดินสายตระเวณ ชกมวยไทย ตามจว.ต่างๆ ในJP คือไทยต่ยไทย แค่ต่างสังกัด โดยสัญญาจ้างก็มีตั้งแต่หกเดือน ยันสามปี นักมวยหลายคน ภายหลังก็ตั้งรกร่าง ทำมาหากินยาว ไม่กลับไทยก็มีเยอะ
ยุคนั้น นักมวยไทย ไปสอนวิธีการเตะต่อย แบบมวยไทย ทั้ง วิธีฝึกกับกระสอบทราย การล่อเป้า ฯลฯ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็น kick boxing
แล้วด้วยชื่อ ที่เป็นภาษาENล้วน ไม่ใช่ภาษาท้องถิ่น แบบคำว่ามวยไทย จึงทำให้เกิดการแพร่หลาย
ได้รวดเร็ว ยิ่งตัดอาวุธ และปรับกติกาซะใหม่ แน่นอนว่า ไปได้เร็ว ยิ่งมีJP สนับสนุน
ตัดกับมาในยุคหลังๆ ที่มวยไทยในปท.ตกต่ำสุดๆ คนรุ่นใหม่ ไม่สนใจดู นอกจากปัจจัย กีฬาอย่างฟุตบอล ทั้งไทย เทศ เข้าถึงง่าย และมวยไทย ต่อยไม่สนุก ไร้ซึ่งมาตราฐานในการตัดสิน การพนันชี้นำสุดๆ ก็ขนาดรายการใหญ่แบรนด์นอก จัดมวยไทย แต่ใช้กรรมการนอกล้วนๆ มีกก.ไทย คนเดียว (ประเภทคุณขอมา เจ้าของรายการ เกรงใจ เพราะต้องใช้สนามในไทย เลยต้องรับๆ)
ทั้งที่ช่วงยุคคลาสสิค หรือยุคทองของมวยไทย ช่วง ต้นพศ.2500 ถึง 2530 กว่าๆ มวยต่อยห้ายก แต่ดูสนุก มีนักมวยชื่อดังมากมายชนิด จดจำกันได้ถึงยุคนี้ ทั้งๆ ที่ก็ เปิดล็อกให้เล่นพนัน นั้นเป็นเพราะ ทีมผู้ตัดสิน และมาตรฐาน การยอมรับมีสูงลิ่บ
ลพน. ราชดน. คือเวทีที่นักมวยไทยต่างใฝ่ฝัน อยากจะมีโอกาสขึ้นสังเวียนนี้ ยิ่ง แชมป์เข็มขัด ของ สองสนามนี้ คือสุดยอดปราถนา ของเหล่านักมวย
กลับมาเรื่อง Kick boxing ที่ตอนนี้ สมาคม ได้ รับคำว่า "แห่งปท.ไทย" นั้นแปลว่า รบ. กกท. ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมสนับสนุน ซึ่งเรื่องนี้ ไม่รู้ใครคือคนผลักดัน จะรผู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ จะรู้ดีฉลาดเกินก็ไม่ทราบได้
แล้ว ยังมีการทำลายมวยไทยครั้งใหญ่จะด้วยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว หรือบอกเป็นคนละกีฬา หรือเห็นนักมวยไทย จะคนไทย หรือต่างชาติ ขึ้นชกKick boxing แล้วนุ่งกางเกงมวยไทย เป็นใช้ได้ เห็นแล้วปลื้มใจ
ตอนนี้ การจัดชก ก็ทำแบบขายเหล้าพ่วงเบียร์ มวยไทย ผสมKB ซึ่งก็ไม่รู้จริงๆ อันไหนคือหลัก อันไหนคือของพ่วง
เจ้าของรายการต่างๆ ทั้งในไทยและเทศ อ้างกีฬามวยไทย แต่ปรับเปลี่ยนกฏกติกา กันตามสบาบชนิดไร้มาตรฐาน จะสามยก ห้ายก จะใช้เข่าศอกได้ ไม่ได้ หรือ ใข้ได้แบบไหน ก็ ตามแต่เข้าของรายการ หรือไฟล์ที่จัด รวมทั้ง วิธีการให้คะแนน ก็ไร้มาตรฐาน
นั้นคือภัยในการทำลายมวยไทย ด้วยข้ออ้าง สารพัด ส่วนเหล่านักมวย ก็ล้วน เปลี่ยนสีชกได้หมด ยิ่งชกแบบKB 3 ยก มันสบาย อาวุธก็ใช้น้อยลง แถม มวยไทยประยุกต์ หรือKB เป็นที่นิยม ได้เงินดี ค่ายมวยก็ต้องเบนเข็ม นักมวย ให้มาต่อย KB หรือ ต่อย แบบกฏ กติกา เฉพาะกิจ แล้วแต่จะตกลงยังงัย
สิ่งเหล่านี้ มันคือการกัดเซาะบ่อนทำลายมวยไทย โดยมีฉากทัศน์หลอกตาว่า มวยไทย โด่งดัง เป็นที่นิยม แต่ลองพิจารณานื้อใน แท้ๆ โดยเฉพาะ มวยไทยภายในปท. เรื่องจริงๆ เป็นยังงัย
ตอนนี้ มวยไทย ชาติไหนอยากจัดแบบใด ตัดสินยังงัย กฏ กติกา ว่างัย เขาก็ว่ากันเองหมด
สุดท้าย คนไทยจะดีใจที่คำว่ามวยไทย เป็นมรดกโลก กีฬานี้เป็นที่ชื่นชอบ แต่มวยไทยแท้ โดยคนไทย
จะมีแต่ถดถอย
คือหลายคน คงบอกทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่คนที่สะท้อนปัญหากีฬามวยไทย เป็นอย่างดี และชี้เป้าได้ตรงสุด ชนิดไม่อ้อมค้อม ก็คือ บอสชาตรี จากค่ายOne แต่ยังงัยเขาก็คือ นักธุรกิจ ที่ยังต้องใช้การตลาด นำหน้า ซึ่ง ก็ถูกต้อง ในหนทางของเขา
ถ้าเขมร เล่นเป็น ส่งเสริมแบบมวยไทยดั้งเดิม ไม่ไหลไปกับกระแส KB หรือ มวยประยุกต์ อนาคต นักมวยคนเขมรดีๆ จะก้าวขึ้น สร้างชื่อ ในระดับสากล อีกมาก
จริงๆ นักมวยเขมร ที่ฝีมือดีก็มีมาก ถ้าไม่หวังจะเคลมทางลัด ยอมใช้ชื่อมวยไทย ก็จะได้สะพาน ขึ้นชกรายการใหญ่ๆ ช่องทางที่ยิมมวยในเขมร จะมีต่างชาติ แห่เข้ามาเรียนก็มีมาก เพราะ ไม่ได้แตกต่างจากไทย แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก
กระแสเขมร้เคลมมวยไทย ดุเดือด แต่ ทีโดนคิกซ์บ็อกซิ่ง กินเงียบคาบ้าน ไม่มีใครสนใจ
ยุคนั้น นักมวยไทย ไปสอนวิธีการเตะต่อย แบบมวยไทย ทั้ง วิธีฝึกกับกระสอบทราย การล่อเป้า ฯลฯ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็น kick boxing
แล้วด้วยชื่อ ที่เป็นภาษาENล้วน ไม่ใช่ภาษาท้องถิ่น แบบคำว่ามวยไทย จึงทำให้เกิดการแพร่หลาย
ได้รวดเร็ว ยิ่งตัดอาวุธ และปรับกติกาซะใหม่ แน่นอนว่า ไปได้เร็ว ยิ่งมีJP สนับสนุน
ตัดกับมาในยุคหลังๆ ที่มวยไทยในปท.ตกต่ำสุดๆ คนรุ่นใหม่ ไม่สนใจดู นอกจากปัจจัย กีฬาอย่างฟุตบอล ทั้งไทย เทศ เข้าถึงง่าย และมวยไทย ต่อยไม่สนุก ไร้ซึ่งมาตราฐานในการตัดสิน การพนันชี้นำสุดๆ ก็ขนาดรายการใหญ่แบรนด์นอก จัดมวยไทย แต่ใช้กรรมการนอกล้วนๆ มีกก.ไทย คนเดียว (ประเภทคุณขอมา เจ้าของรายการ เกรงใจ เพราะต้องใช้สนามในไทย เลยต้องรับๆ)
ทั้งที่ช่วงยุคคลาสสิค หรือยุคทองของมวยไทย ช่วง ต้นพศ.2500 ถึง 2530 กว่าๆ มวยต่อยห้ายก แต่ดูสนุก มีนักมวยชื่อดังมากมายชนิด จดจำกันได้ถึงยุคนี้ ทั้งๆ ที่ก็ เปิดล็อกให้เล่นพนัน นั้นเป็นเพราะ ทีมผู้ตัดสิน และมาตรฐาน การยอมรับมีสูงลิ่บ
ลพน. ราชดน. คือเวทีที่นักมวยไทยต่างใฝ่ฝัน อยากจะมีโอกาสขึ้นสังเวียนนี้ ยิ่ง แชมป์เข็มขัด ของ สองสนามนี้ คือสุดยอดปราถนา ของเหล่านักมวย
กลับมาเรื่อง Kick boxing ที่ตอนนี้ สมาคม ได้ รับคำว่า "แห่งปท.ไทย" นั้นแปลว่า รบ. กกท. ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมสนับสนุน ซึ่งเรื่องนี้ ไม่รู้ใครคือคนผลักดัน จะรผู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ จะรู้ดีฉลาดเกินก็ไม่ทราบได้
แล้ว ยังมีการทำลายมวยไทยครั้งใหญ่จะด้วยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว หรือบอกเป็นคนละกีฬา หรือเห็นนักมวยไทย จะคนไทย หรือต่างชาติ ขึ้นชกKick boxing แล้วนุ่งกางเกงมวยไทย เป็นใช้ได้ เห็นแล้วปลื้มใจ
ตอนนี้ การจัดชก ก็ทำแบบขายเหล้าพ่วงเบียร์ มวยไทย ผสมKB ซึ่งก็ไม่รู้จริงๆ อันไหนคือหลัก อันไหนคือของพ่วง
เจ้าของรายการต่างๆ ทั้งในไทยและเทศ อ้างกีฬามวยไทย แต่ปรับเปลี่ยนกฏกติกา กันตามสบาบชนิดไร้มาตรฐาน จะสามยก ห้ายก จะใช้เข่าศอกได้ ไม่ได้ หรือ ใข้ได้แบบไหน ก็ ตามแต่เข้าของรายการ หรือไฟล์ที่จัด รวมทั้ง วิธีการให้คะแนน ก็ไร้มาตรฐาน
นั้นคือภัยในการทำลายมวยไทย ด้วยข้ออ้าง สารพัด ส่วนเหล่านักมวย ก็ล้วน เปลี่ยนสีชกได้หมด ยิ่งชกแบบKB 3 ยก มันสบาย อาวุธก็ใช้น้อยลง แถม มวยไทยประยุกต์ หรือKB เป็นที่นิยม ได้เงินดี ค่ายมวยก็ต้องเบนเข็ม นักมวย ให้มาต่อย KB หรือ ต่อย แบบกฏ กติกา เฉพาะกิจ แล้วแต่จะตกลงยังงัย
สิ่งเหล่านี้ มันคือการกัดเซาะบ่อนทำลายมวยไทย โดยมีฉากทัศน์หลอกตาว่า มวยไทย โด่งดัง เป็นที่นิยม แต่ลองพิจารณานื้อใน แท้ๆ โดยเฉพาะ มวยไทยภายในปท. เรื่องจริงๆ เป็นยังงัย
ตอนนี้ มวยไทย ชาติไหนอยากจัดแบบใด ตัดสินยังงัย กฏ กติกา ว่างัย เขาก็ว่ากันเองหมด
สุดท้าย คนไทยจะดีใจที่คำว่ามวยไทย เป็นมรดกโลก กีฬานี้เป็นที่ชื่นชอบ แต่มวยไทยแท้ โดยคนไทย
จะมีแต่ถดถอย
คือหลายคน คงบอกทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่คนที่สะท้อนปัญหากีฬามวยไทย เป็นอย่างดี และชี้เป้าได้ตรงสุด ชนิดไม่อ้อมค้อม ก็คือ บอสชาตรี จากค่ายOne แต่ยังงัยเขาก็คือ นักธุรกิจ ที่ยังต้องใช้การตลาด นำหน้า ซึ่ง ก็ถูกต้อง ในหนทางของเขา
ถ้าเขมร เล่นเป็น ส่งเสริมแบบมวยไทยดั้งเดิม ไม่ไหลไปกับกระแส KB หรือ มวยประยุกต์ อนาคต นักมวยคนเขมรดีๆ จะก้าวขึ้น สร้างชื่อ ในระดับสากล อีกมาก
จริงๆ นักมวยเขมร ที่ฝีมือดีก็มีมาก ถ้าไม่หวังจะเคลมทางลัด ยอมใช้ชื่อมวยไทย ก็จะได้สะพาน ขึ้นชกรายการใหญ่ๆ ช่องทางที่ยิมมวยในเขมร จะมีต่างชาติ แห่เข้ามาเรียนก็มีมาก เพราะ ไม่ได้แตกต่างจากไทย แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก