พอดีเจอรูปนี้ CREDIT Wongnai Cooking
แล้วก็ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาครับ ว่าเอออย่างตอนไปฮาวาย มันมีกะทิกล่องขายนะ
แต่ที่เจอคือมีแต่ยี่ห้อชาวเกาะ
ชาวเกาะคือ 70-80% ของที่เห็นวางขายไปแล้ว (Ref. Honolulu 2014)
กะทิ อาจจะเป็น exotic product หรือ ผลิตภัณฑ์แปลกหน้าแปลกตา เกินเบอร์ไปหน่อย
งั้นลองอย่างน้ำเปล่า
อย่างในไทยคือเรามีมากกว่า 15 ยี่ห้อทางการที่หาซื้อได้ทั่วไปตามเซเว่นหรือร้านขายของบ้านๆ (commercial brands in local stores) ด้วยซ้ำ
แต่ที่เวียดนามคือเจอมันอยู่แค่ยี่ห้อเดียวนะคือ อควาฟีน่า ขวด 600 มล. ราคาประมาณ 15 บาทไทย (Ref. Da Lat 2019)
ซึ่งถือว่าค่อนข้างโหดร้ายมาก 7.6% ของค่าแรงขั้นต่ำทำงาน 8 ชั่วโมง (Ref ค่าแรงดาลัทปี 2022 ที่เดือนละ 4,160,000 เวียดนามด่อง)
ในขณะที่ไทยเราราคาน้ำคือแค่ 2.4% ของค่าแรงขั้นต่ำทำงาน 8 ชั่วโมง (Ref น้ำขวดละ 8 บาท กับค่าแรง 328 บาทต่อวัน)
จะซื้อน้ำทีคือมีแต่ Aquafina เจอแบรนด์นี้แบบ 100%
อยากทราบว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เค้าเลือกที่จะผูกขาดกับไม่กี่ยี่ห้อไปซะแบบนั้นหรอครับ
ทำไมตลาดต่างประเทศถึงมักผูกขาดกับสินค้าไม่กี่ยี่ห้อ ความหลากหลายคือต่ำจัด หรอครับ
แล้วก็ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาครับ ว่าเอออย่างตอนไปฮาวาย มันมีกะทิกล่องขายนะ
แต่ที่เจอคือมีแต่ยี่ห้อชาวเกาะ
ชาวเกาะคือ 70-80% ของที่เห็นวางขายไปแล้ว (Ref. Honolulu 2014)
กะทิ อาจจะเป็น exotic product หรือ ผลิตภัณฑ์แปลกหน้าแปลกตา เกินเบอร์ไปหน่อย
งั้นลองอย่างน้ำเปล่า
อย่างในไทยคือเรามีมากกว่า 15 ยี่ห้อทางการที่หาซื้อได้ทั่วไปตามเซเว่นหรือร้านขายของบ้านๆ (commercial brands in local stores) ด้วยซ้ำ
แต่ที่เวียดนามคือเจอมันอยู่แค่ยี่ห้อเดียวนะคือ อควาฟีน่า ขวด 600 มล. ราคาประมาณ 15 บาทไทย (Ref. Da Lat 2019)
ซึ่งถือว่าค่อนข้างโหดร้ายมาก 7.6% ของค่าแรงขั้นต่ำทำงาน 8 ชั่วโมง (Ref ค่าแรงดาลัทปี 2022 ที่เดือนละ 4,160,000 เวียดนามด่อง)
ในขณะที่ไทยเราราคาน้ำคือแค่ 2.4% ของค่าแรงขั้นต่ำทำงาน 8 ชั่วโมง (Ref น้ำขวดละ 8 บาท กับค่าแรง 328 บาทต่อวัน)
จะซื้อน้ำทีคือมีแต่ Aquafina เจอแบรนด์นี้แบบ 100%
อยากทราบว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เค้าเลือกที่จะผูกขาดกับไม่กี่ยี่ห้อไปซะแบบนั้นหรอครับ