ผมขอใช้นามแฝงว่า (จอน) John แล้วกันนะครับ
ต้องย้อนกลับไปตอนเจอแฟนคนปัจจุบันเมื่อ 4 ปี 10 เดือนที่แล้วตอนนี้ผมเป็นพนังงานบริษัทเล็กๆ ที่นึงที่อยู่บางนาอยู่ในหมู่บ้านที่เป็นอาคารพานิชย์ตรงข้าง Central บางนา ผมเจอแฟนผมเพราะเค้าเป็นนักศึกษาฝึกงาน มาขอทำการฝึกงานที่บริษัทผม ที่ผมอยู่เป็นแผนก IT Support ครับซึ่งจะต้องทำข้อมูลให้พนักงานเข้าใหม่ทุกๆคน นั่นเลยเป็นเหตุการณ์ทำให้ผมได้เจอเค้าครับ ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลยตอนนั้นเค้าเดินมาเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อมาแนะนำตัวและทำเรื่องต่างๆ กับแผนกอื่นๆ ด้วย หลังจากนั้นเธอก็ได้ถูกมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของผม (บังเอิญมากๆครับ) และมีเพื่อนสนิทเธอมาด้วยกัน ผมจึงเข้าไปจีบและขอ Contact จากเพื่อนของเค้า จากนั้นเราได้ตกลงและคบกันมาถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาทั้ง 4 ปี 10 เดือนกับอีก 12 วัน อ้อผมลืมบอกไปเราเจอกันและจีบเค้าตั้งแต่วันแรกเลยคือวันที่ 1 มิถุนา 2018 ตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงตอนนี้เราก็คบกันมาเรื่อยๆ อาจจะทะเลาะ งอนกันบ้างตามประสาแฟนและอายุยังน้อยครับ และผมได้ตัดสินใจย้ายงานเพื่อเพิ่มเงินเดือนและหาประสบการณ์ใหม่ๆหลังจากคบกับเค้าได้ 2-3 เดือนซึ่งงานที่ได้คือที่ปัจจุบันนี่แหละครับ เป็นที่ปรึกษาให้ธนาคารต่างๆ ที่สนใจ software และ application ต่างๆ ที่ป้องกันการโจรกรรมทางการเงิน ซึ่งผม ณ ปัจจุบันเป็น Senior Technical Consultant แล้วก็ยอมรับครับว่าเครียดงานและไม่มีเวลาให้แฟนบ้าง และพอว่างก็มีเล่นเกมมือถือ เติมเกมไปบ้าง และแฟนผมหลังจากจบก็เปลี่ยนงานค่อนข้างบ่อยเพราะได้เงินน้อยครับ เพราะเราค่อนข้างมีภาระเยอะด้วย ทั้งรถยนต์ทั้งผมและแฟน ทั้งคอนโดผมที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อมา บวกกับบ้านราคา 3 ล้านกว่าๆ ที่ซื้อก็เพราะทางบ้านของแฟนมีปัญหาจนญาติต้องออกมาขออยู่ที่คอยโดด้วย ซึ่งญาติเค้ามีลูกมาด้วยผมที่ต้องทำงานและประชุมทุกวันซึ่งยอมรับครับมันไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย บวกกับญาติตกงานด้วยเลยไม่ได้ไปไหน เลยเป็นเหตุให้ต้องมีบ้านหลังปัจจุบัน แต่ผมยังรักกับแฟนและสนับสนุนกันดีอยู่นะครับ จนกระทั่งเค้าย้ายงานมาที่ปัจจุบันมาทำข้อมูลหรือที่เรียกว่า Data Engineer ให้บริษัทผลิตอาหารระดับบิ๊กเลยก็ได้ (สีเขียวอ่อน) เป็นอุตสาหกรรมหรือโรงงานหลายๆแห่งนั่นเองครับ และด้วยเนื้องานเค้าต้องออกไปโรงงาน ตวจ. หลายๆที่ที่ต้องเอาข้อมูลมารวบรวมให้บริษัท นั่นจึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอนอกใจผมในครั้งนี้ครับ เธอได้ติดต่องานและร่วมงานกับผู้ชายคนนั้นและยอมรับว่าหน้าตาดีกว่าผม ทั้งขาว ตัวเล็ก ตี๋ หล่อ ผมนี่เทียบไม่ได้เลยเพราะปล่อยตัวให้อ้วนมานา 4 ปีเพราะกินและเที่ยวกับแฟน ฟิวแบบความรักดี กินอะไรก็อร่อยและมีความสุขอะคับ 5555
นั่นแหละและเค้าเริ่มเปลี่ยนไป แปลกๆ ผมก็เริ่มเอะใจและจับผิดมากขึ้น จนรู้ว่าเค้าคุยกับผู้ชายคนนั้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่าน เรามีปัญหากันทั้งหมด 4 รอบในเดือนนั้นซึ่งครั้งที่ 1, 2, และ 3 เค้าโกหกว่าจะเลิกแต่ก็แอบคุยกันมาตลอดจนมาถึงช่วงปลายเดือนมีนาคมจะเข้าต้นเดือนครั้งที่ 4 เราถึงได้เคลียร์กันจริงๆจังๆ และเค้ายอมที่จะเลิกกับผู้ชายคนนั้นเพราะต่างคนต่างเข้าหากันด้วยการโกหกว่าไม่มีแฟนทั้งคู่ พอผมไปสืบมาแล้วทักไปถามแฟนของผู้ชายคนนั้นว่าเค้ายังรักกันดี และไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แล้วผมเอาแชทให้แฟนผมดูเค้าช็อคและตกใจ จนตอนนี้พี่ๆในทีมก็ทราบเรื่องและช่วยเคลียร์กัน จนจบไปด้วยดีเค้าไม่คบและคุยกันต่อ
จากนั้นช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ผมและแฟนพยายามปรับจูนเข้าหากันเพื่อที่จะคบกันต่อผมยื้อเค้าครับยอมที่จะไม่สนใจอะไรเลย ที่มันเกิดขึ้นและพยายามที่จะทำให้เรากลับมาคืนดีกัน แฟนผมก็พยายามจนเมื่อวานเธอแปลกๆ ผมจึงตัดสินใจถามว่ามีอะไร เธอบอกกับผมว่าเธอสับสน และรู้สึกกับผมไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว รักผมน้อยลงและก็มีปากเสียงกัน จนเมื่อคืนที่มาคุยผมเลยขอเลิกกับเธอ แต่เธอบอกยังไม่พร้อมเลยและอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผม เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาผมดูแลและ take care เธอดีมากๆ มาตลอดเรียกได้ว่าทำทุกอย่างเลยก็ว่าได้
และด้วยผมที่มีปัญหาสุขภาพเพราะงานที่เครียดและหน้าที่ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ผมไม่สบายใน 2 อาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมาเลยตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวๆ รังสิตครับ แฟนผมก็ไปด้วยมีการตรวจหลายๆ อย่างมากๆ รวมทั้งเจาะเลือดและเอ็กซ์เรย์ดูตับ จากนั้นผมก็รับยากลับมาทานและรักษาที่บ้านครับ อาการก็ค่อนข้างหนักครับเพราะเครียดจากงานและที่มีปัญหากับแฟนที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผมไม่สามารถทานอาหารปกติได้เลย ทานแล้วอวกออกตลอดท้องไม่รับ ทานได้แต่น้ำและนม
*** จนเมื่อวานครับผมได้รับสายจากคุณหมอในช่วงบ่ายๆ บอกผมว่า ผมป่วยเป็นโรคตับซึ่งแย่มากๆ อาจจะอยู่ได้อีกแค่10 ปี หรือน้อยกว่านั้นถ้าสุขภาพจิตและร่างกายไม่ดี นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ผมบอกเลิกแฟนผมเมื่อวานตอนกลางคืน แต่ตอนนี้เราตกลงที่จะห่างกันซึ่งผมเป็นคนเสนอเอง เพื่อไม่ให้ได้รับรู้แต่เธอถามผมนะครับ ว่าผลเป็นยังไงบ้าง ผมก็บอกปัดๆ ว่าปัญหาตับนิดหน่อยไม่มีอะไรมาก
และเมื่อวานผมได้ไปส่งเธอไปทำงานเหมือนปกติและให้เธอกลับบ้านไปเพื่อหาครอบครัวในเทศกาลสงกรานต์ครับ และผมก็ขับรถกลับบ้านเกิดที่ต้างจังหวัด เพราะพี่สาวของยายเสียด้วย ตั้งใจออกห่างแฟนมาด้วย และมาหาครอบครัวด้วย
คำถาม: ผมเลยอยากสอบถามว่าผมทำถูกแล้วใช่ไหมครับ ที่ห่างกับแฟนของผมเพื่อให้เค้าได้ไปเจอกับคนใหม่ๆ ที่สามารถอยู่ดูแลเค้าได้นานกว่าผม หรือผมควรจะเห็นแก่ตัวและตามไปง้อและคุยกับเธอเพื่อให้กลับมารักกัน แต่ผมจะอยู่กับเธอได้ไม่นาน ผมจะทำให้เธอเสียใจอีกแน่นอนด้วยเรื่องสุขภาพของผม
ผมควรบอกความจริงเธอไปไหม และควรบอกครอบครัวผมด้วยไหม
ถามว่าผมรักเธอไหม รักมากๆ ครับ รักสุดๆ มากกว่าทุกๆสิ่งไหน มากกว่าชีวิตของผมอีก
ฝากให้กำลังใจผม และตอบกลับดีๆหน่อยนะครับ
ผมควรปล่อยเธอไปหรือผมควรทำยังไงดีครับ
ต้องย้อนกลับไปตอนเจอแฟนคนปัจจุบันเมื่อ 4 ปี 10 เดือนที่แล้วตอนนี้ผมเป็นพนังงานบริษัทเล็กๆ ที่นึงที่อยู่บางนาอยู่ในหมู่บ้านที่เป็นอาคารพานิชย์ตรงข้าง Central บางนา ผมเจอแฟนผมเพราะเค้าเป็นนักศึกษาฝึกงาน มาขอทำการฝึกงานที่บริษัทผม ที่ผมอยู่เป็นแผนก IT Support ครับซึ่งจะต้องทำข้อมูลให้พนักงานเข้าใหม่ทุกๆคน นั่นเลยเป็นเหตุการณ์ทำให้ผมได้เจอเค้าครับ ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลยตอนนั้นเค้าเดินมาเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อมาแนะนำตัวและทำเรื่องต่างๆ กับแผนกอื่นๆ ด้วย หลังจากนั้นเธอก็ได้ถูกมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของผม (บังเอิญมากๆครับ) และมีเพื่อนสนิทเธอมาด้วยกัน ผมจึงเข้าไปจีบและขอ Contact จากเพื่อนของเค้า จากนั้นเราได้ตกลงและคบกันมาถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาทั้ง 4 ปี 10 เดือนกับอีก 12 วัน อ้อผมลืมบอกไปเราเจอกันและจีบเค้าตั้งแต่วันแรกเลยคือวันที่ 1 มิถุนา 2018 ตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงตอนนี้เราก็คบกันมาเรื่อยๆ อาจจะทะเลาะ งอนกันบ้างตามประสาแฟนและอายุยังน้อยครับ และผมได้ตัดสินใจย้ายงานเพื่อเพิ่มเงินเดือนและหาประสบการณ์ใหม่ๆหลังจากคบกับเค้าได้ 2-3 เดือนซึ่งงานที่ได้คือที่ปัจจุบันนี่แหละครับ เป็นที่ปรึกษาให้ธนาคารต่างๆ ที่สนใจ software และ application ต่างๆ ที่ป้องกันการโจรกรรมทางการเงิน ซึ่งผม ณ ปัจจุบันเป็น Senior Technical Consultant แล้วก็ยอมรับครับว่าเครียดงานและไม่มีเวลาให้แฟนบ้าง และพอว่างก็มีเล่นเกมมือถือ เติมเกมไปบ้าง และแฟนผมหลังจากจบก็เปลี่ยนงานค่อนข้างบ่อยเพราะได้เงินน้อยครับ เพราะเราค่อนข้างมีภาระเยอะด้วย ทั้งรถยนต์ทั้งผมและแฟน ทั้งคอนโดผมที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อมา บวกกับบ้านราคา 3 ล้านกว่าๆ ที่ซื้อก็เพราะทางบ้านของแฟนมีปัญหาจนญาติต้องออกมาขออยู่ที่คอยโดด้วย ซึ่งญาติเค้ามีลูกมาด้วยผมที่ต้องทำงานและประชุมทุกวันซึ่งยอมรับครับมันไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย บวกกับญาติตกงานด้วยเลยไม่ได้ไปไหน เลยเป็นเหตุให้ต้องมีบ้านหลังปัจจุบัน แต่ผมยังรักกับแฟนและสนับสนุนกันดีอยู่นะครับ จนกระทั่งเค้าย้ายงานมาที่ปัจจุบันมาทำข้อมูลหรือที่เรียกว่า Data Engineer ให้บริษัทผลิตอาหารระดับบิ๊กเลยก็ได้ (สีเขียวอ่อน) เป็นอุตสาหกรรมหรือโรงงานหลายๆแห่งนั่นเองครับ และด้วยเนื้องานเค้าต้องออกไปโรงงาน ตวจ. หลายๆที่ที่ต้องเอาข้อมูลมารวบรวมให้บริษัท นั่นจึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอนอกใจผมในครั้งนี้ครับ เธอได้ติดต่องานและร่วมงานกับผู้ชายคนนั้นและยอมรับว่าหน้าตาดีกว่าผม ทั้งขาว ตัวเล็ก ตี๋ หล่อ ผมนี่เทียบไม่ได้เลยเพราะปล่อยตัวให้อ้วนมานา 4 ปีเพราะกินและเที่ยวกับแฟน ฟิวแบบความรักดี กินอะไรก็อร่อยและมีความสุขอะคับ 5555
นั่นแหละและเค้าเริ่มเปลี่ยนไป แปลกๆ ผมก็เริ่มเอะใจและจับผิดมากขึ้น จนรู้ว่าเค้าคุยกับผู้ชายคนนั้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่าน เรามีปัญหากันทั้งหมด 4 รอบในเดือนนั้นซึ่งครั้งที่ 1, 2, และ 3 เค้าโกหกว่าจะเลิกแต่ก็แอบคุยกันมาตลอดจนมาถึงช่วงปลายเดือนมีนาคมจะเข้าต้นเดือนครั้งที่ 4 เราถึงได้เคลียร์กันจริงๆจังๆ และเค้ายอมที่จะเลิกกับผู้ชายคนนั้นเพราะต่างคนต่างเข้าหากันด้วยการโกหกว่าไม่มีแฟนทั้งคู่ พอผมไปสืบมาแล้วทักไปถามแฟนของผู้ชายคนนั้นว่าเค้ายังรักกันดี และไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แล้วผมเอาแชทให้แฟนผมดูเค้าช็อคและตกใจ จนตอนนี้พี่ๆในทีมก็ทราบเรื่องและช่วยเคลียร์กัน จนจบไปด้วยดีเค้าไม่คบและคุยกันต่อ
จากนั้นช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ผมและแฟนพยายามปรับจูนเข้าหากันเพื่อที่จะคบกันต่อผมยื้อเค้าครับยอมที่จะไม่สนใจอะไรเลย ที่มันเกิดขึ้นและพยายามที่จะทำให้เรากลับมาคืนดีกัน แฟนผมก็พยายามจนเมื่อวานเธอแปลกๆ ผมจึงตัดสินใจถามว่ามีอะไร เธอบอกกับผมว่าเธอสับสน และรู้สึกกับผมไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว รักผมน้อยลงและก็มีปากเสียงกัน จนเมื่อคืนที่มาคุยผมเลยขอเลิกกับเธอ แต่เธอบอกยังไม่พร้อมเลยและอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผม เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาผมดูแลและ take care เธอดีมากๆ มาตลอดเรียกได้ว่าทำทุกอย่างเลยก็ว่าได้
และด้วยผมที่มีปัญหาสุขภาพเพราะงานที่เครียดและหน้าที่ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ผมไม่สบายใน 2 อาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมาเลยตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวๆ รังสิตครับ แฟนผมก็ไปด้วยมีการตรวจหลายๆ อย่างมากๆ รวมทั้งเจาะเลือดและเอ็กซ์เรย์ดูตับ จากนั้นผมก็รับยากลับมาทานและรักษาที่บ้านครับ อาการก็ค่อนข้างหนักครับเพราะเครียดจากงานและที่มีปัญหากับแฟนที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผมไม่สามารถทานอาหารปกติได้เลย ทานแล้วอวกออกตลอดท้องไม่รับ ทานได้แต่น้ำและนม
*** จนเมื่อวานครับผมได้รับสายจากคุณหมอในช่วงบ่ายๆ บอกผมว่า ผมป่วยเป็นโรคตับซึ่งแย่มากๆ อาจจะอยู่ได้อีกแค่10 ปี หรือน้อยกว่านั้นถ้าสุขภาพจิตและร่างกายไม่ดี นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ผมบอกเลิกแฟนผมเมื่อวานตอนกลางคืน แต่ตอนนี้เราตกลงที่จะห่างกันซึ่งผมเป็นคนเสนอเอง เพื่อไม่ให้ได้รับรู้แต่เธอถามผมนะครับ ว่าผลเป็นยังไงบ้าง ผมก็บอกปัดๆ ว่าปัญหาตับนิดหน่อยไม่มีอะไรมาก
และเมื่อวานผมได้ไปส่งเธอไปทำงานเหมือนปกติและให้เธอกลับบ้านไปเพื่อหาครอบครัวในเทศกาลสงกรานต์ครับ และผมก็ขับรถกลับบ้านเกิดที่ต้างจังหวัด เพราะพี่สาวของยายเสียด้วย ตั้งใจออกห่างแฟนมาด้วย และมาหาครอบครัวด้วย
คำถาม: ผมเลยอยากสอบถามว่าผมทำถูกแล้วใช่ไหมครับ ที่ห่างกับแฟนของผมเพื่อให้เค้าได้ไปเจอกับคนใหม่ๆ ที่สามารถอยู่ดูแลเค้าได้นานกว่าผม หรือผมควรจะเห็นแก่ตัวและตามไปง้อและคุยกับเธอเพื่อให้กลับมารักกัน แต่ผมจะอยู่กับเธอได้ไม่นาน ผมจะทำให้เธอเสียใจอีกแน่นอนด้วยเรื่องสุขภาพของผม
ผมควรบอกความจริงเธอไปไหม และควรบอกครอบครัวผมด้วยไหม
ถามว่าผมรักเธอไหม รักมากๆ ครับ รักสุดๆ มากกว่าทุกๆสิ่งไหน มากกว่าชีวิตของผมอีก
ฝากให้กำลังใจผม และตอบกลับดีๆหน่อยนะครับ