ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภพระสูตรว่าด้วยโอวาทของนกที่ไม่ควรเที่ยวหากินไกลถิ่นที่อยู่ของตน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นนกมูลไถอาศัยหากินอยู่ตามก้อนดินมูลไถ วันหนึ่ง มันบินไปหากินต่างถิ่นถูกเหยี่ยวนกเขาจับได้ จึงพูดขึ้นว่า "วันนี้เราเคราะห์ร้าย เพราะมาหากินต่างถิ่น ถ้าอยู่ในถิ่นของเราแล้ว ท่านไม่มีโอกาสจับเราได้หรอก"
เหยี่ยวนกเขาได้ฟังเช่นนั้นจึงปล่อยมันไปพร้อมกับพูดว่า "เจ้านกน้อย ในที่ไหน ๆ เจ้าก็ไม่รอดพ้นกรงเล็บของเราไปได้ดอก เราจะให้โอกาสเจ้าแก้ตัว"
นกมูลไถพอถูกปล่อยเป็นอิสระก็บินกลับไปถึงที่อยู่ของตน ขึ้นไปจับบนก้อนดินใหญ่แล้วร้องท้าทายเหยี่ยวนกเขาว่า "มาเลยเจ้าเหยี่ยวโง่ แน่จริงมาจับข้าอีกทีสิ"
เหยี่ยนกเขาเห็นมันร้องท้าเช่นนี้นจึงโถมกำลังปีกโฉบเข้าหามันทันที นกมูลไถรู้ว่าเหยี่ยวนกเขาใกล้จะถึงตัวแล้วก็บินกลับเข้าไปในระหว่างก้อนดินมูลไถ เหยี่ยวมาด้วยความเร็วด้วยหวังจะขย้ำนกมูลไถให้แหลกคากรงเล็บ จึงกระแทกอกเข้ากับก้อนดินอย่างแรง ลูกตาถลนออกตายคาที่ ณ ตรงที่นั้นเอง
เมื่อเหยี่ยวตายแล้ว นกมูลไถจึงขึ้นมายืนบนอกของเหยี่ยวด้วยมั่นใจว่าชนะข้าศึกได้แล้ว กล่าวเป็นคาถาว่า
"เรานั้นเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยอุบาย ยินดีแล้วในที่หากินอันเป็นเขตแห่งบิดา เห็นประโยชน์ของตนอยู่ เป็นผู้หลีกพ้นจากศัตรู ย่อมเบิกบานใจ"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
ถิ่นใครถิ่นมัน อย่าคิดทำในสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดและไม่มีความชำนาญ เพราะจะนำความsิบหายมาให้มากกว่าสิ่งดี
( ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt49.php )
🌷🤍🌷 นิทานชาดก ๐๔๙ (สกุณัคฆีชาดก) : เหยี่ยวนกเขา 🌷🤍🌷
เหยี่ยวนกเขาได้ฟังเช่นนั้นจึงปล่อยมันไปพร้อมกับพูดว่า "เจ้านกน้อย ในที่ไหน ๆ เจ้าก็ไม่รอดพ้นกรงเล็บของเราไปได้ดอก เราจะให้โอกาสเจ้าแก้ตัว"
"เรานั้นเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยอุบาย ยินดีแล้วในที่หากินอันเป็นเขตแห่งบิดา เห็นประโยชน์ของตนอยู่ เป็นผู้หลีกพ้นจากศัตรู ย่อมเบิกบานใจ"