ดูคลิปของคุณกรุณา บัวคำศรี กับอาจารย์สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ก็ได้เล่าว่าตอนปี 2008 รัฐบาลของจอร์เจียกับยูเครนตอนนั้นเป็นรัฐบาลโปรตะวันตก ตรงกับสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ก็อยากเข้านาโต้ประธานาธิบดีสหรัฐก็เห็นด้วย แต่นั้นเป็นความเห็นแค่ประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ทางเยอรมัน-ฝรั่งเศส คัดค้านหัวชนฝาตอนสงครามยูเครนเริ่มช่วงแรกๆประธานาธิบดีเซเลนสกี้ยังออกมาว่าแมร์เคิลที่ขัดขวางการเข้านาโต้ของยูเครน แล้วแมร์เคิลก็ออกมาตอบโต้ว่าตอนนั้นเธอทำถูกแล้วตามความเห็นของเธอ ในความเห็นของผมคิดว่าการที่ยูเครนจะเข้านาโต้นี้แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะยูเครนก็มีปัญหาการเมือง การคอรัปชั่น กองทัพก็ไม่ได้มาตรฐานของนาโต้ เยอรมันกับฝรั่งเศสก่อนการผนวกไครเมียก็ดูสนิทสนมกับรัสเซียดี สหรัฐพยายามห้ามไม่ให้ไปซื้อพลังงานจากรัสเซียเยอรมันก็ไม่สนใจแถมสร้างท่อเพิ่มอีกต่างหาก เยอรมันรัฐบาลใหม่ก่อนเกิดสงครามก็ซื้อพลังงานรัสเซียเหมือนเดิมและไม่อยากมีปัญหากับรัสเซียส่งแค่หมวกทหารไปให้ยูเครน พอรัสเซียตรึงกำลังทหารเตรียมท่าจะบุกตอนนั้นเซเลนสกี้ก็บอกว่าจะไม่เข้านาโต้แล้วหรือตอนบุกแล้วรัสเซียยื่นข้อเสนอให้ยูเครนเป็นกลางไม่เข้านาโต้ ยูเครนก็ยอมได้แต่ข้ออื่นๆนั้นรับไม่ได้
การประท้วงใหญ่ยูเครนก็เป็นการประท้วงเพราะประธานาธิบดี วิคเตอร์ ยานูโควิส ไปยกเลิกข้อตกลงทางการค้ากับ EU เป็นแค่ข้อตกลงทางการค้าไม่ได้สมัครเข้า EU เพราะเศรษฐกิจ การเมือง การคอรัปชั่น ยังไงยูเครนก็ไม่มีคุณสมบัติเข้า EU ได้เเน่นอน แต่ประธานาธิบดีในตอนนั้นกลับยกเลิกไปซะอย่างงั้นแล้วแล้วจะไปเข้ากับรัสเซียด้วยเลยเกิดการประท้วง
ส่วนเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุคลิปที่มีการสัมภาษณ์ท่านทูตเยอรมันท่านก็เล่าให้ฟังว่ายุโรปส่งหน่วยงานไปตรวจสอบแล้วไม่พบการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุแต่อย่างไร
ส่วนเรื่องการขายพลังงาน ขายให้ยุโรปตามราคาตลาดยุโรปก็จ่ายเต็มจำนวนและซื้อในปริมาณมหาศาลทำให้รัสเซียมีอำนาจต่อรองกับทางยุโรป แต่พอยุโรปไม่ซื้อก็จำเป็นต้องขายให้จีนกับอินเดีย ซึ่งขายได้น้อยกว่าแล้วราคาถูกด้วย จะต่อรองอะไรกับ 2 ประเทศนี้ก็ไม่ได้อีก
ปัญหาของยูเครนกับรัสเซียสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยที่รัสเซียได้เปรียบ แต่สุดท้ายรัสเซียกลับเลืกแนวทางที่เลวร้ายที่สุดในการแก้ปัญหา จากที่สามารถต่อรองให้ตัวเองได้เปรียบ กลับพาตัวเองมาในจุดที่ไม่เหลืออะไรให้ต่อรองยกเว้นนิวเคลียร์และต้องไปพึ่งพาจีน-อินเดีย โดยที่ตัวเองต่อรองอะไรไม่ได้ซึ่งแตกต่างจากยุโรปที่รัสเซียสามารถต่อรองได้
ก่อนปี 2014 รัสเซียมีอำนาจต่อรองมากมายกับยูเครนเรื่องไม่เข้านาโต้แต่กลับเลือกวิธีที่แย่ที่สุดในการแก้ปัญหา
การประท้วงใหญ่ยูเครนก็เป็นการประท้วงเพราะประธานาธิบดี วิคเตอร์ ยานูโควิส ไปยกเลิกข้อตกลงทางการค้ากับ EU เป็นแค่ข้อตกลงทางการค้าไม่ได้สมัครเข้า EU เพราะเศรษฐกิจ การเมือง การคอรัปชั่น ยังไงยูเครนก็ไม่มีคุณสมบัติเข้า EU ได้เเน่นอน แต่ประธานาธิบดีในตอนนั้นกลับยกเลิกไปซะอย่างงั้นแล้วแล้วจะไปเข้ากับรัสเซียด้วยเลยเกิดการประท้วง
ส่วนเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุคลิปที่มีการสัมภาษณ์ท่านทูตเยอรมันท่านก็เล่าให้ฟังว่ายุโรปส่งหน่วยงานไปตรวจสอบแล้วไม่พบการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุแต่อย่างไร
ส่วนเรื่องการขายพลังงาน ขายให้ยุโรปตามราคาตลาดยุโรปก็จ่ายเต็มจำนวนและซื้อในปริมาณมหาศาลทำให้รัสเซียมีอำนาจต่อรองกับทางยุโรป แต่พอยุโรปไม่ซื้อก็จำเป็นต้องขายให้จีนกับอินเดีย ซึ่งขายได้น้อยกว่าแล้วราคาถูกด้วย จะต่อรองอะไรกับ 2 ประเทศนี้ก็ไม่ได้อีก
ปัญหาของยูเครนกับรัสเซียสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยที่รัสเซียได้เปรียบ แต่สุดท้ายรัสเซียกลับเลืกแนวทางที่เลวร้ายที่สุดในการแก้ปัญหา จากที่สามารถต่อรองให้ตัวเองได้เปรียบ กลับพาตัวเองมาในจุดที่ไม่เหลืออะไรให้ต่อรองยกเว้นนิวเคลียร์และต้องไปพึ่งพาจีน-อินเดีย โดยที่ตัวเองต่อรองอะไรไม่ได้ซึ่งแตกต่างจากยุโรปที่รัสเซียสามารถต่อรองได้