การเลือกซื้อหุ้น เหมือนกับการเลือกแฟน ส่วนตัวก็ชอบหุ้นที่ดีอยากถือยาวๆไปตลอดชีวิต
แต่ที่เจอมาและถืออยู่ เป็นหุ้นที่โครตกาก ถัวก็แบ้ว เพิ่มทุนก็แบ้ว SAPก็แล้วดูไม่มีอนาคต
เหมือนกับความรักเลย ไปรักคนผิด ชีวิตมันพังอย่างมาก ตัดใจcutก็ยาก ทุกข์ทรมานใจ😭😭
ดังนั้นการเลือกหุนที่ดีเหมือนกับการเลือกแฟนต้องมองสี่ข้อนี่นะคะ
คุณสมบัติที่มองหาอยู่ 4 อย่างคือ
1. หน้าตาดี – อันนี้เบสิค คือ กำไรต้องหล่อ ยิ่งหล่อขึ้นทุกปียิ่งดี
2. มีฐานะ – อาจจะยังไม่ต้องร่ำรวยขนาดนั้น แต่คงอยากเน้นว่าหนี้สินน้อย
เงินสดเยอะ คือหนี้สินควรจะไม่มากเกินไป ถ้าแฟนมีหนี้ท่วมหัวก็คงไม่ work ใช่มั้ยค่ะ
สรุปคือ ต้องมีฐานะที่ร่ำรวย และมั่นคง
3. ใฝ่ดี มีอนาคต - มีความทะเยอทยานอยากเป็นที่หนึ่ง มี
การวางแผนอนาคต คิดนโยบายที่นำมาสู่ความก้าวหน้า
ไม่ใช่ว่าพ่อรวย ก็เลยไม่สนใจจะพัฒนาอะไรเลย ไม่มีการวางแผน
การตลาดเชิงรุก เอาแต่นั่งนอนบนความสำเร็จของรุ่นก่อนไปวันๆ
แบบนี้ใช้ไม่ได้นะค้า วิธีการนึงที่เราจะรู้ว่าเค้าใฝ่ดีมีอนาคตแค่ไหน
ก็ลองไปฟัง Opportunity Day ของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะออกมา
เล่าถึงผลประกอบการและนโยบายที่จะเพิ่มกำไร/รับมือกับปัญหาที่
เจออย่างไรบ้าง ถ้าผู้บริหารมีแผนที่ชัดเจน เป็นไปได้ ก็น่าสนใจเนอะ =DD
4. ต้องไม่สาวติดตรึม หรือเป็นที่นิยมมากเกินไป – คือคนยังไม่ไล่ตามซื้อจนเว่อ
อย่างนึงที่นานิเชื่อก็คือว่า ในตลาดหุ้นคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ
และได้กำไรในระยะยาว ดังนั้นถ้าเราไปถือตามคนจำนวนมากๆตลอด
ก็ควรจะกลับมาคิดได้ละว่า อ่าวถ้าแบบนี้ทำไมคนเค้าไม่รวยกันทั้งตลาดแล้วหล่ะ จริงมั้ย?
การเลือกหุ้น เหมือนกับการเลือกแฟน
แต่ที่เจอมาและถืออยู่ เป็นหุ้นที่โครตกาก ถัวก็แบ้ว เพิ่มทุนก็แบ้ว SAPก็แล้วดูไม่มีอนาคต
เหมือนกับความรักเลย ไปรักคนผิด ชีวิตมันพังอย่างมาก ตัดใจcutก็ยาก ทุกข์ทรมานใจ😭😭
ดังนั้นการเลือกหุนที่ดีเหมือนกับการเลือกแฟนต้องมองสี่ข้อนี่นะคะ
คุณสมบัติที่มองหาอยู่ 4 อย่างคือ
1. หน้าตาดี – อันนี้เบสิค คือ กำไรต้องหล่อ ยิ่งหล่อขึ้นทุกปียิ่งดี
2. มีฐานะ – อาจจะยังไม่ต้องร่ำรวยขนาดนั้น แต่คงอยากเน้นว่าหนี้สินน้อย
เงินสดเยอะ คือหนี้สินควรจะไม่มากเกินไป ถ้าแฟนมีหนี้ท่วมหัวก็คงไม่ work ใช่มั้ยค่ะ
สรุปคือ ต้องมีฐานะที่ร่ำรวย และมั่นคง
3. ใฝ่ดี มีอนาคต - มีความทะเยอทยานอยากเป็นที่หนึ่ง มี
การวางแผนอนาคต คิดนโยบายที่นำมาสู่ความก้าวหน้า
ไม่ใช่ว่าพ่อรวย ก็เลยไม่สนใจจะพัฒนาอะไรเลย ไม่มีการวางแผน
การตลาดเชิงรุก เอาแต่นั่งนอนบนความสำเร็จของรุ่นก่อนไปวันๆ
แบบนี้ใช้ไม่ได้นะค้า วิธีการนึงที่เราจะรู้ว่าเค้าใฝ่ดีมีอนาคตแค่ไหน
ก็ลองไปฟัง Opportunity Day ของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะออกมา
เล่าถึงผลประกอบการและนโยบายที่จะเพิ่มกำไร/รับมือกับปัญหาที่
เจออย่างไรบ้าง ถ้าผู้บริหารมีแผนที่ชัดเจน เป็นไปได้ ก็น่าสนใจเนอะ =DD
4. ต้องไม่สาวติดตรึม หรือเป็นที่นิยมมากเกินไป – คือคนยังไม่ไล่ตามซื้อจนเว่อ
อย่างนึงที่นานิเชื่อก็คือว่า ในตลาดหุ้นคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ
และได้กำไรในระยะยาว ดังนั้นถ้าเราไปถือตามคนจำนวนมากๆตลอด
ก็ควรจะกลับมาคิดได้ละว่า อ่าวถ้าแบบนี้ทำไมคนเค้าไม่รวยกันทั้งตลาดแล้วหล่ะ จริงมั้ย?