สวัสดีเพื่อนๆชาว พันทิป ทุกคนค่า รีวิวน้ำหอม และ เมคอัพ มาก็หลายโพสต์แล้ว
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ การใช้ เรตินอล และ วิตามิน C
เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าของสาว(เหลือน้อย) อย่างอิชั้นน
ส่วนตัวอายุ 43 แล้ว ปัญหากับผิวที่กังวล ก็หนีไม่พ้นเรื่องริ้วรอยแห่งวัย
ความหยาบกร้านของผิวก็มากขึ้น ผิวแห้งขาดน้ำ
หย่อนคล้อยไม่กระชับ รูขุมขนกว้าง ปัญหาจุดด่างดำ
และ กระสี ที่เดิมทีเป็นมาจากกรรมพันธ์ุก็มาไม่หยุด
(ตอนสมัยยังสาวเคยลงรีวิวการไปทำเลเซอร์จี้กระสีมาให้ทุกคนได้อ่านกันแล้วนะคะ แต่ๆๆ มันกลับมาค่ะมันไม่หายไป
มันกลับมารังควานอิชั้นอีกแล้วว )
แล้วตอนนี้ ยังต้องมาเจอแดดแผดเผารุนแรงกับสภาพอากาศบ้านเรา
ผิวถูกทำลายรอบด้านมาก สีผิวก็ยิ่งไม่สม่ำเสมอขึ้นไปอีก
ทำเอาเป็นเครียด !!
ที่ผ่านมาทดลองใช้ ลองผิดลองถูกมาหลายผลิตภัณฑ์
ใช้แล้วเห็นผลก็เอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่าน
อันไหนใช้แล้วไม่เห็นผล ก็ไม่ไปต่อ
ช่วงระยะที่ผ่านมานี้มีคนป้ายยาให้ลองใช้ skincare 2 items ควบคู่กัน
เพื่อผลลัพธ์ที่ครอบคลุมปัญหาที่มี
ทดลองใช้มาแล้ว กว่า 10 วัน ผลลัพธ์ที่ได้ ค่อนข้างพอใจเลย
อยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกัน ไปค่ะ
Kiehl’s Retinol Skin-Renewing Daily Micro-Dose Serum
+
Kiehl’s Clearly CorrectiveTM Dark Spot Solution Dark Spot Solution
วิธีการใช้ ในช่วงทดลองใช้ประมาณ 10 กว่าวัน ดังนี้ค่ะ
สูตรในการใช้งาน Dark spot ใช้ เช้า-เย็น
ส่วน retinol ใช้เฉพาะช่วงเย็นวันละครั้ง
อิชั้นจะลง DARK SPOT ก่อน เป็นลำดับแรก หลังจากขั้นตอนการทำความสะอาด
แล้วค่อยตามด้วย Retinol Skin-Renewing Daily Micro-Dose ุหลังจากนั้นก็จะตามด้วยกันแดด
เป็นอันเสร็จพิธีสกินแคร์
ตอนเย็น ลงแค่ Dark spot แล้วตามด้วย moisture ที่มี หรือถ้าวันไหนขี้เกียจ
ก็จะลงแค่เรตินอล แล้วนอนเลย
เกริ่นถึงผลิตภัณฑ์ เค้าสักนิ๊ดด
Kiehl ’s Clearly CorrectiveTM Dark Spot Solution
เชื่อว่าหลายคนคงพอเคยได้ยินชื่อคุณเค้ามาบ้างแล้ว เรียกได้ว่า
ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมาในวงการสกินแคร์ตลอดช่วงสักพักใหญ่ๆที่ผ่านมา
เป็นเซรั่มที่จัดการปัญหาจุดด่างดำ ทางแบรนด์เค้าเคลมว่า
ด้วยเซรั่มประสิทธิภาพเยี่ยมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาผิวไม่กระจ่างใส
ร่วมกับปัญหาจุดด่างดำ ปัญหากระสี และผิวหมองคล้ำแบบอิชั้น
ก็เลยอดที่จะลองใช้ไม่ได้
เนื้อเซรั่ม มีลักษณะเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
ด้วยความที่คุณเค้าเหลวไม่หนืด (หนืดกว่าน้ำนิดเดียว)
ส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกชอบนะ ทำให้เกลี่ยง่ายและซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
นอกจากเรื่องริ้วรอย สีผิวไม่สม่ำเสมอ จุดด่างดำแล้ว
ความหยาบกร้านของผิว และ ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวหยาบ ไม่นุ่มชุ่มชื้น
และรูขุมขนกว้าง ก็ต้องการการเยียวยาเช่นเดียวกัน
Kiehl’s Retinol Micro-Dose Serum
ต้องบอกเลยว่า เป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรก
ในการใช้ “เรตินอล” เลยทีเดียว
ได้ยินสรรพคุณมาก็เยอะ ได้ยินเรื่องผลข้างเคียงก็มีไม่น้อย
เดิมทีเคยใช้แค่ Dark spot อย่างเดียว แต่หลายเสียงแนะนำให้ Retinol Skin ของเค้าร่วมด้วย
จะให้ผลลัพธ์ ที่ปังยิ่งขึ้น เพราะเค้ามีเทคโนโลยี ที่ช่วยเรื่องผิวชุ่มชื่น ลดปัญหาผิวแห้งขาดน้ำจากการใช้เรตินอลได้
เข้าสูตรที่ว่า C+A = beauty & healthy skin
มาขนาดนี้แล้ว ก็ลองให้รู้กันไป
RETINOL SERUM ที่ทางคีลส์เคลมว่า
เป็นชิ้นแรกของคีลส์ ที่สามารถใช้ได้ทุกวัน !
เค้ามี MICRO-DOSE โมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยลดปัญหาผิวรู้สึกแห้งขาดความชุ่มชื้นจากการใช้เรตินอล
ช่วยให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดดูลดเลือนลงฉีกกฏสู่รูปแบบใหม่ !!
ที่เราสามารถใช้เรตินอลเป็นประจำได้ทุกวัน
ด้วยความที่ ไม่ค่อยได้มีความเชี่ยวชาญด้านส่วนผสมและเทคโนโลยีของสกินแคร์เท่าไหร่
พอมาเจอคำว่า เทคโนโลยี ไมโครโดสซิ่ง ยิ่งงงเป็นไก่ตาแตกเลย และคิดว่า ก็คงมีคนไม่รู้เหมือนเราแหละ เลยไปหาข้อมูลมา
“ไมโครโดสซิ่ง คืออะไรน๊า ”
(micro-dosing) หรือการใช้ส่วนผสมทรงประสิทธิภาพในขนาดต่ำและแม่นยำ
เทคโนโลยีเซรั่มใหม่ล่าสุดประกอบด้วย เรตินอลในปริมาณที่ผ่านการปรับเทียบ
เพื่อกำหนดขนาดใช้ให้ได้มาตรฐานอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ซึ่งทำงานเพื่อส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกสุดด้วยการทำงานของ
เรตินอลแต่ละโดสที่มีความเข้มข้น เหมาะสำหรับใช้เป็นประจำทุกวัน
เพื่อผิวแลดูสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นอกจากนี้เค้าก็ยังมี ส่วนผสมหลักทรงประสิทธิภาพอย่าง เซราไมด์ (ceramides)
และเพปไทด์ (peptide) ผสานสู่สูตรเฉพาะของคีลส์ ช่วยให้ผิวรู้สึกเยียวยาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้อีกด้วยหล่ะจ้าาาา
พูดได้ว่า พอไปศึกษาหาอ่านมาแล้วก็รู้สึกว่า
เป็นเทคโนโลยีที่จึ้งอยู่เหมือนกันนะ
เนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นครีมสีเหลืองอ่อน
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
(ถ้าไม่ตั้งใจสูดกลิ่นจะไม่ได้กลิ่น)
เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมซาบสู่ผิวเร็ว
และไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
วิธีใช้
อิชั้นใช้ ลงวันละ 1 ปั๊ม เย็น ให้ทั่วใบหน้า (หลังจากลง Dark spot)
ส่วนตัวคิดเอาเองว่าหลังจากผิวโดนทำลายมาทั้งวัน ทั้งแดด ความร้อนและมลพิษ
ให้น้องเค้าช่วยฮีลผิวในช่วงเวลาที่เราหลับจะดีกว่า
มาถึง ผลลัพธ์กันบ้างค่ะ
ความรู้สึกส่วนตัวหลังใช้คู่กันแล้ว
จากการใช้งานจริงจังด้วยตัวเอง มาประมาณ 10 กว่าวัน ส่วนตัว
พอใจมากกก สำหรับผลลัพธ์ที่ได้
เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ทั้งสอง คือ เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว
และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะไว้บนผิวหน้า
และอันนี้ไม่รู้ว่ารู้สึกคนเดียวหรือเปล่า
คือเวลาแต่งหน้าแล้วรู้สึกเครื่องสำอางติดทนมากกว่าเดิมอีก
ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงของผิว เห็นได้ชัดเลยว่า ผิวกระจ่างใสขึ้น
สีของกระบริเวณแก้มและจมูกจางลง
เวลาใช้มือสัมผัสแล้วส่วนตัวรู้สึกผิวนุ่มละเอียดขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น
ที่สำคัญ ริ้วรอยเส้นเล็กๆบริเวณหัวตาและหางตาตื้นขึ้น
ก็สารภาพตรงๆว่า ก็แอบเกินคาดจากที่คิดไว้
** ในเรื่องของอาการไม่พึงประสงค์ แสบคัน แพ้ ผื่นแดงอะไร
ไม่มีค่ะ ใช้ได้ปกติ ไม่มีอาการระคายเคืองใดๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็
เคยใช้ ผลิตภัณฑ์จำพวก vit C ผลคือใช้ติดต่อกันทุกวันไม่ได้
เพราะผิวจะแสบคันๆยิบๆๆ
แต่กับคู่หูคู่จี๊ดคู่นี้ ไม่เกิดอาการนั้นเลย !! คืออ่อนโยนต่อผิวขั้นสุด
*** ใดใดคือ ผลลัพธ์ล้วนแล้วแต่ผิวของแต่ละคนนะค๊า
ทางอิชั้น ทำได้แค่ทดลองใช้จากผิวตัวเอง แล้วเอามาเล่าให้ฟัง
สาวๆท่านอื่นๆที่แพ้ง่ายแบบมากๆ แพ้ทุกอย่างหาชนะไม่ค่อยมี
แนะนำให้ทดสอบการระคายเคืองก่อนการใช้งานยาวๆแบบจุกๆนะคะ
สุดท้ายนี้ก็หวังว่า โพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
เจอกันใหม่โพสต์หน้า
สวัสดีค่า
[CR] แชร์ประสบการณ์ กู้ผิววัย 43 แก้ปัญหาผิวหน้าไม่ใส & ผิวไม่เนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่กระชับ และริ้วรอย
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ การใช้ เรตินอล และ วิตามิน C
เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าของสาว(เหลือน้อย) อย่างอิชั้นน
ส่วนตัวอายุ 43 แล้ว ปัญหากับผิวที่กังวล ก็หนีไม่พ้นเรื่องริ้วรอยแห่งวัย
ความหยาบกร้านของผิวก็มากขึ้น ผิวแห้งขาดน้ำ
หย่อนคล้อยไม่กระชับ รูขุมขนกว้าง ปัญหาจุดด่างดำ
และ กระสี ที่เดิมทีเป็นมาจากกรรมพันธ์ุก็มาไม่หยุด
มันกลับมารังควานอิชั้นอีกแล้วว )
แล้วตอนนี้ ยังต้องมาเจอแดดแผดเผารุนแรงกับสภาพอากาศบ้านเรา
ผิวถูกทำลายรอบด้านมาก สีผิวก็ยิ่งไม่สม่ำเสมอขึ้นไปอีก
ทำเอาเป็นเครียด !!
ที่ผ่านมาทดลองใช้ ลองผิดลองถูกมาหลายผลิตภัณฑ์
ใช้แล้วเห็นผลก็เอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่าน
อันไหนใช้แล้วไม่เห็นผล ก็ไม่ไปต่อ
เพื่อผลลัพธ์ที่ครอบคลุมปัญหาที่มี
ทดลองใช้มาแล้ว กว่า 10 วัน ผลลัพธ์ที่ได้ ค่อนข้างพอใจเลย
อยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกัน ไปค่ะ
Kiehl’s Clearly CorrectiveTM Dark Spot Solution Dark Spot Solution
เชื่อว่าหลายคนคงพอเคยได้ยินชื่อคุณเค้ามาบ้างแล้ว เรียกได้ว่า
ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมาในวงการสกินแคร์ตลอดช่วงสักพักใหญ่ๆที่ผ่านมา
เป็นเซรั่มที่จัดการปัญหาจุดด่างดำ ทางแบรนด์เค้าเคลมว่า
ด้วยเซรั่มประสิทธิภาพเยี่ยมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาผิวไม่กระจ่างใส
ร่วมกับปัญหาจุดด่างดำ ปัญหากระสี และผิวหมองคล้ำแบบอิชั้น
ก็เลยอดที่จะลองใช้ไม่ได้
เนื้อเซรั่ม มีลักษณะเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
ด้วยความที่คุณเค้าเหลวไม่หนืด (หนืดกว่าน้ำนิดเดียว)
ส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกชอบนะ ทำให้เกลี่ยง่ายและซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
และรูขุมขนกว้าง ก็ต้องการการเยียวยาเช่นเดียวกัน
ต้องบอกเลยว่า เป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรก
เป็นชิ้นแรกของคีลส์ ที่สามารถใช้ได้ทุกวัน !
ช่วยให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดดูลดเลือนลงฉีกกฏสู่รูปแบบใหม่ !!
ที่เราสามารถใช้เรตินอลเป็นประจำได้ทุกวัน
(micro-dosing) หรือการใช้ส่วนผสมทรงประสิทธิภาพในขนาดต่ำและแม่นยำ
เทคโนโลยีเซรั่มใหม่ล่าสุดประกอบด้วย เรตินอลในปริมาณที่ผ่านการปรับเทียบ
เพื่อกำหนดขนาดใช้ให้ได้มาตรฐานอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ซึ่งทำงานเพื่อส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกสุดด้วยการทำงานของ
เรตินอลแต่ละโดสที่มีความเข้มข้น เหมาะสำหรับใช้เป็นประจำทุกวัน
เพื่อผิวแลดูสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นอกจากนี้เค้าก็ยังมี ส่วนผสมหลักทรงประสิทธิภาพอย่าง เซราไมด์ (ceramides)
เป็นเทคโนโลยีที่จึ้งอยู่เหมือนกันนะ
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
(ถ้าไม่ตั้งใจสูดกลิ่นจะไม่ได้กลิ่น)
เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมซาบสู่ผิวเร็ว
และไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
อิชั้นใช้ ลงวันละ 1 ปั๊ม เย็น ให้ทั่วใบหน้า (หลังจากลง Dark spot)
ส่วนตัวคิดเอาเองว่าหลังจากผิวโดนทำลายมาทั้งวัน ทั้งแดด ความร้อนและมลพิษ
ให้น้องเค้าช่วยฮีลผิวในช่วงเวลาที่เราหลับจะดีกว่า
จากการใช้งานจริงจังด้วยตัวเอง มาประมาณ 10 กว่าวัน ส่วนตัว
พอใจมากกก สำหรับผลลัพธ์ที่ได้
เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ทั้งสอง คือ เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว
และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะไว้บนผิวหน้า
และอันนี้ไม่รู้ว่ารู้สึกคนเดียวหรือเปล่า
คือเวลาแต่งหน้าแล้วรู้สึกเครื่องสำอางติดทนมากกว่าเดิมอีก
ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงของผิว เห็นได้ชัดเลยว่า ผิวกระจ่างใสขึ้น
สีของกระบริเวณแก้มและจมูกจางลง
เวลาใช้มือสัมผัสแล้วส่วนตัวรู้สึกผิวนุ่มละเอียดขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น
ก็สารภาพตรงๆว่า ก็แอบเกินคาดจากที่คิดไว้
ไม่มีค่ะ ใช้ได้ปกติ ไม่มีอาการระคายเคืองใดๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็
เคยใช้ ผลิตภัณฑ์จำพวก vit C ผลคือใช้ติดต่อกันทุกวันไม่ได้
แต่กับคู่หูคู่จี๊ดคู่นี้ ไม่เกิดอาการนั้นเลย !! คืออ่อนโยนต่อผิวขั้นสุด
แนะนำให้ทดสอบการระคายเคืองก่อนการใช้งานยาวๆแบบจุกๆนะคะ
เจอกันใหม่โพสต์หน้า
สวัสดีค่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้