โทรศัพท์โบราณ ที่มีฝาพับ และมีปุ่มกด
กำลังกลับมาได้รับความนิยม
เพราะคนต้องการพักจากหน้าจอบ้าง..
ทุกวันนี้ หลายคนน่าจะลืมไปแล้วว่า
โทรศัพท์มือถือ ที่เราใช้กันอยู่
ครั้งหนึ่ง..
มันเคยมีปุ่มกดและพับเข้า-พับออกได้
แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆ
ที่กล่าวมา ซึ่งเหมือนจะตายไปแล้ว
กำลังเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง..
โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
โดยเรื่องนี้ ทางบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออย่าง HMD Global ผู้ผลิตโทรศัพท์ Nokia
ได้บอกว่า โทรศัพท์รุ่นเก่าๆ ที่มีปุ่มกด
และฝาพับ (ฟีเจอร์โฟน)
กำลังมียอดขายดีขึ้นเรื่อย ๆ ในสหรัฐอเมริกา
เพราะคน Gen Z บางส่วน
กำลังเบื่อที่จะจ้องหน้าจอจากสมาร์ตโฟน..
ซึ่งในปี 2565 HMD Global รายงานว่า
ในแต่ละเดือน บริษัทยังคงสามารถ
ขายฟีเจอร์โฟน ได้เป็นหมื่นๆ เครื่องอยู่
โดยยอดขายหลักๆ 80% ของบริษัท จะมาจากโซนตะวันออกกลาง, แอฟริกา และอินเดีย
ตามข้อมูลจาก Counterpoint Research
นอกจากนี้ บางแหล่งข้อมูลยังคาดการณ์ไว้ว่า ใน 5 ปี ข้างหน้า
ฟีเจอร์โฟน จะยังคงไม่หายไปไหน
แถมยังมีแนวโน้มเติบโตที่ราวๆ 5% อีกด้วย
สุดท้ายนี้ แม้จะดูแปลก ที่คนบางกลุ่ม กำลังกลับไปใช้ฟีเจอร์โฟน ที่สู้สมาร์ตโฟนไม่ได้
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า
การจ้องหน้าจอสมาร์ตโฟนมากเกินไป
สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ
ในระยะยาวได้จริง ๆ
โดยมีข้อมูลว่า ทุกวันนี้คน Gen Z ใช้เวลาอยู่
กับหน้าจอราวๆ 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
หรือ 2,340 ชั่วโมงต่อปี
พูดง่าย ๆ คือ หนึ่งปีมี 365 วัน ชาว Gen Z
ใช้เวลาไปกับการจ้องหน้าจอแล้วถึง 97 วัน
มันจึงไม่แปลกที่บางคน จะเลือกตัดปัญหา
โดยหันไปใช้โทรศัพท์
ที่มันไม่ต้องจ้องจอบ่อย ๆ นั่นเอง..
——————————
🤔 Gen Z ในสหรัฐอเมริกากำลังหันหลังให้ ‘สมาร์ทโฟน’ แต่ใช้ ‘ฟีเจอร์โฟนและมือถือฝาพับ’ มากขึ้น
แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆ
กำลังเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง..
โดยเรื่องนี้ ทางบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออย่าง HMD Global ผู้ผลิตโทรศัพท์ Nokia
เพราะคน Gen Z บางส่วน
ซึ่งในปี 2565 HMD Global รายงานว่า
โดยยอดขายหลักๆ 80% ของบริษัท จะมาจากโซนตะวันออกกลาง, แอฟริกา และอินเดีย
นอกจากนี้ บางแหล่งข้อมูลยังคาดการณ์ไว้ว่า ใน 5 ปี ข้างหน้า
แถมยังมีแนวโน้มเติบโตที่ราวๆ 5% อีกด้วย
สุดท้ายนี้ แม้จะดูแปลก ที่คนบางกลุ่ม กำลังกลับไปใช้ฟีเจอร์โฟน ที่สู้สมาร์ตโฟนไม่ได้
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า
โดยมีข้อมูลว่า ทุกวันนี้คน Gen Z ใช้เวลาอยู่
พูดง่าย ๆ คือ หนึ่งปีมี 365 วัน ชาว Gen Z
มันจึงไม่แปลกที่บางคน จะเลือกตัดปัญหา