สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
พ่อมีลูก 3 คน (เรามีฐานะดีทุกคน) ดิฉันเคยช่วยพี่สาวดูแลพ่อที่อายุ 85 ปีเป็นอัมพาตครึ่งซีก พ่อมีเงินบำนาญเดือนละ 25,000 บาท ค่าหมอ ค่ายา ผ้าอ้อม หมดแล้วค่ะ
พี่สาวเป็นคนดูแลพ่อ พี่สาวไม่รับเงินเดือนในการดูแล ดิฉันช่วยดูแลเพียงเล็กน้อยบอกได้เลยว่าเป็นงานหนักทั้งกายและใจ สุขภาพจิตก็เสีย ไปไหนไม่ได้ ดิฉันแทบกราบพี่สาวในความเสียสละความสุขส่วนตัว
ทำไมมีเงินแล้วไม่ส่งเข้าเนิร์สซิ่งโฮมดีๆล่ะ เคยส่งแล้วค่ะ เขาโทรเรียกให้ไปเอาพ่อออก เพราะพ่อเอะอะโวยวายขี้โมโหด่ากราดหยาบคายทั้งกลางวันกลางคืน ไม่มีที่ไหนรับพ่อ ก่อนตายพ่อมีเงินก้อนเก็บสะสมไว้ เมื่อพ่อตายดิฉันและพี่อีกคนยกเงินทั้งหมดนั้นให้พี่สาวคนทึ่เลี้ยงพ่อ
จะบอกว่า การเลี้ยงคนแก่เป็นงานหนักมากทั้งกาย ใจ โดยเฉพาะหากคนที่เลี้ยงไม่มีรายได้แต่ต้องมาเลี้ยงพ่อแม่ ในขณะที่พี่น้องคนอื่นไม่ต้องรับภาระในการเลี้ยง
พี่สาวเป็นคนดูแลพ่อ พี่สาวไม่รับเงินเดือนในการดูแล ดิฉันช่วยดูแลเพียงเล็กน้อยบอกได้เลยว่าเป็นงานหนักทั้งกายและใจ สุขภาพจิตก็เสีย ไปไหนไม่ได้ ดิฉันแทบกราบพี่สาวในความเสียสละความสุขส่วนตัว
ทำไมมีเงินแล้วไม่ส่งเข้าเนิร์สซิ่งโฮมดีๆล่ะ เคยส่งแล้วค่ะ เขาโทรเรียกให้ไปเอาพ่อออก เพราะพ่อเอะอะโวยวายขี้โมโหด่ากราดหยาบคายทั้งกลางวันกลางคืน ไม่มีที่ไหนรับพ่อ ก่อนตายพ่อมีเงินก้อนเก็บสะสมไว้ เมื่อพ่อตายดิฉันและพี่อีกคนยกเงินทั้งหมดนั้นให้พี่สาวคนทึ่เลี้ยงพ่อ
จะบอกว่า การเลี้ยงคนแก่เป็นงานหนักมากทั้งกาย ใจ โดยเฉพาะหากคนที่เลี้ยงไม่มีรายได้แต่ต้องมาเลี้ยงพ่อแม่ ในขณะที่พี่น้องคนอื่นไม่ต้องรับภาระในการเลี้ยง
ความคิดเห็นที่ 23
น่าเห็นใจลูกคนที่ดูแลแม่
เราเองเคยดูแลแม่ช่วงป่วยระยะสุดท้ายจนเขาจากไป
ดูแลคนเดียวไม่พอค่ะ ต้องมีสองคนเพราะเขาจะหลับๆ ตื่นๆ ตลอด 24 ชม.
ตื่นมาก็ร้องหาคนนั้นคนนี้ จะนอนก็ต้องกล่อมให้นอน อยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเขาหลับ
เวลากินต้องป้อน ต้องเฝ้าทุกมื้อ
อึฉี่ใส้ผ้าอ้อมปุ๊ป ก็จะอึดอัดร้องให้เปลี่ยนทันที ไม่ว่าตอนใหน
ถ้าดูแลคนเดียวคือจะไม่ได้นอน ไม่ได้พักผ่อนเลย
เวลาตื่นก็ร้องหาคนคุยด้วย ไม่อยากอยู่คนเดียวอีก
ยังไม่นับที่ต้องไปหาหมอตามนัด
ยังดีที่มีแม่บ้านจ้างไว้ เขาช่วยดูแลให้ช่วงเช้ามืดถึงบ่ายๆ
เรารับช่วงต่อเย็นๆ ถึงเช้ามืด แล้วจึงไปนอนพักผ่อน
ไปโรงพยาบาลก็เรื่องใหญ่อีกมีพ่อมาช่วยรับส่ง
ถ้าพ่อไม่อยู่ก็จ้างรถ ไปกลับแพงมากรอบนึง
บางครั้งอาการหนักเรียก ambulance ก็หลายพัน
ยังไม่นับค่ายา ค่าอุปกรณ์ ค่าแพมเพอร์ ค่าอาหารคนป่วยที่แพงกว่าปกติ
เราเองเคยดูแลแม่ช่วงป่วยระยะสุดท้ายจนเขาจากไป
ดูแลคนเดียวไม่พอค่ะ ต้องมีสองคนเพราะเขาจะหลับๆ ตื่นๆ ตลอด 24 ชม.
ตื่นมาก็ร้องหาคนนั้นคนนี้ จะนอนก็ต้องกล่อมให้นอน อยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเขาหลับ
เวลากินต้องป้อน ต้องเฝ้าทุกมื้อ
อึฉี่ใส้ผ้าอ้อมปุ๊ป ก็จะอึดอัดร้องให้เปลี่ยนทันที ไม่ว่าตอนใหน
ถ้าดูแลคนเดียวคือจะไม่ได้นอน ไม่ได้พักผ่อนเลย
เวลาตื่นก็ร้องหาคนคุยด้วย ไม่อยากอยู่คนเดียวอีก
ยังไม่นับที่ต้องไปหาหมอตามนัด
ยังดีที่มีแม่บ้านจ้างไว้ เขาช่วยดูแลให้ช่วงเช้ามืดถึงบ่ายๆ
เรารับช่วงต่อเย็นๆ ถึงเช้ามืด แล้วจึงไปนอนพักผ่อน
ไปโรงพยาบาลก็เรื่องใหญ่อีกมีพ่อมาช่วยรับส่ง
ถ้าพ่อไม่อยู่ก็จ้างรถ ไปกลับแพงมากรอบนึง
บางครั้งอาการหนักเรียก ambulance ก็หลายพัน
ยังไม่นับค่ายา ค่าอุปกรณ์ ค่าแพมเพอร์ ค่าอาหารคนป่วยที่แพงกว่าปกติ
แสดงความคิดเห็น
คิดเห็นยังไงกับการที่ลูกเก็บค่าเลี้ยงดูเดือนละ 30,000 บาท จากแม่ที่อายุ 96 ปี
6 คน โหวตกันให้เอาเงินแม่ที่แม่ห่วงมากล้านกว่าบาทออกมา ให้ได้รวม 30,000 บาทต่อเดือนโดยไม่ต้องไปบอกแม่
อีก 2 คน ไม่ยอมเพราะแม่สั่งให้ดูแลเงินแม่ให้ดีด้วยเพราะแม่ห่วงมาก
เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของการดูเสียงส่วนใหญ่เพราะเป็นเงินแม่
ปัจจุบัน 8 คน
ช่วยกันออกรวมเป็นเงิน 13,000 บาท
เงินชรา 1,000 บาท
แม่ออกเอง 10,000 บาท
รวม 24,000 บาท
ตอนนี้คนที่ดูแลแม่ ต้องการเพิ่มอีกเดือนละ 6,000 บาท
รวมเป็นเดือนละ 30,000 บาท
โดยคิดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าคนดูแลอีก 2 คน
อยากถามว่าคิดว่าสมเหตุสมผลไหม
ถ้าไม่สมเหตุสมผลขอคำแนะนำหน่อยว่าจะทำอย่างไรดี
คนที่เลี้ยงดูเขาไม่ยอมปล่อยแม่ออกมาให้คนอื่นดูแลแทนด้วย
ตอนนี้เครียดเลยครับ