คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
การเรียนสูตรโดยที่ยังไม่อ่านอรรถกถาจะรู้เรื่องหรือไม่??
มีอธิบายดังต่อไปนี้
- ในบทนี้พระตถาคตทรงพูดถึง ภูเขา1ลูก เป็นหลัก ชื่อปัจจุบันของภูเขาลูกนี้ เวปุลละ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง ราชคฤห์ และ มนุษย์ในยุคนี้มีชื่อเรียกว่า มคธ
เมื่อครั้งมนุษย์ มีอายุ4หมื่นปีโดยเฉลี่ย พระตถาคตพระนามว่า กกุสันธ
อุบัติขึ้นบนโลกนี้ ภูเขาที่ชื่อเวปุละลูกนี้มีชื่อปาจีนวังสะ แล้วหมู่มนุษย์มีชื่อเรียกว่า ติวรา
ใครสังเกตุอะไรได้ไหม
"ภูเขาลูกนี้ มันอยู่ตั้งแต่ยุคที่มนุษย์มีอายุ4หมื่นปี"
คือในภัทรกัปปัจจุบัน นั้นคือ ยังไม่ถึงช่วงที่ เตโชธาตุ จะทำลายภูเขาลูกนี้หายไป
พร้อมทั้งโลก ทั้ง พรหมโลก
ก็มีพระตถาคตอุบัติ ด้วยกัน4ช่วง เรียกว่า ภัทรกัป
1)มนุษย์อายุ40000ปี
2)มนุษย์อายุ30000ปี
3)มนุษย์อายุ20000ปี
4)มนุษย์อายุ100ปี
คำถามทำไมพระตถาคต ถึงไม่อุบัติหลักหมื่นปี หลายคนที่เจอข้อความนี้อาจสงสัย
เพราะการอุบัติในยุคที่มีอายุน้อยที่สุด เป็นการยืนยันชัดเจน ในยุคที่อกุศลธรรม10ได้รุ่งเรืองจนถึงขีดสุดนี้ จะมีตถาคตอุบัติมาองค์สุดท้ายแล้วนะ
เป็นการยืนยัน ว่ายุคอกุศลธรรม ไม่มีอุบัติแล้ว
และต้องรอ จวบจนอายุมนุษย์8หมื่นปีอีกครั้ง พระตถาคตนามว่าพระศรีอริยะอุบัติ
ซึ่งพระสูตรนี้ ต้องการให้รู้ความยาวนานที่สัตว์ท่องเที่ยวไป แม้ในภัทรกัปปัจุบัน ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติถึง4พระองค์
(กัปที่ภูเขาลูกเดิมยังคงอยู่ )
ทีนี้ มาโฟกัส ที่ภูเขาลูกนี้ เปลี่ยนแค่ชื่อเท่านั้น แต่ ความสูง ความกว้าง เราจะรู้ ได้ไหม ผมหาไม่เจอนะซึ่งถ้าตถาคตไม่ได้บัญญัติ เราก็ต้องรู้ตามนี้น อย่าไปบัญญัติเพิ่ม
(ตรงนี้ ถ้าเป็นอรรถกถา คงรู้ถึงสัดส่วนคงสูง100โยชน์ อะไรทำนองนั้น ใช่ไหม
แต่อรรถกถาท่านไม่ได้เห็นภูเขาลูกนี้ ท่านไม่เห็นเอง แล้วท่านจะรู้ได้ไหม??)
นี่และที่บอกว่าจะมี นัยยะคลาดเคลื่อน
แต่ พระตถาคตผู้เห็นภูเขาลูกนี้อยู่
ท่านเทียบเคียงตามระยะเวลาการ เดินขึ้นเขา และลงเขา
มนุษย์อายุยุคนี้ อายุ100ปี
เดินขึ้นครู่เดียว เดินลงครู่เดียว=2ชม.
ภูเขาลูกนี้แร่ะ
เมื่อคนอายุขัย40000ปี
เดินขึ้น 4วัน เดินลง4วัน=8วัน
เห็นอะไรไหม?ตัวเลขทางคณิตศาสตร์
สมมุติ ถ้าพูดถึงคนอายุ1หมื่นปี ก็ต้องเดินขึ้น1วัน ลง1วัน =2วัน ใช่ไหม
ทำไมภูเขาลูกเดียวกันถึงใช้เวลาต่างกัน?????
อยากลองฟังคำตอบ ......
มีอธิบายดังต่อไปนี้
- ในบทนี้พระตถาคตทรงพูดถึง ภูเขา1ลูก เป็นหลัก ชื่อปัจจุบันของภูเขาลูกนี้ เวปุลละ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง ราชคฤห์ และ มนุษย์ในยุคนี้มีชื่อเรียกว่า มคธ
เมื่อครั้งมนุษย์ มีอายุ4หมื่นปีโดยเฉลี่ย พระตถาคตพระนามว่า กกุสันธ
อุบัติขึ้นบนโลกนี้ ภูเขาที่ชื่อเวปุละลูกนี้มีชื่อปาจีนวังสะ แล้วหมู่มนุษย์มีชื่อเรียกว่า ติวรา
ใครสังเกตุอะไรได้ไหม
"ภูเขาลูกนี้ มันอยู่ตั้งแต่ยุคที่มนุษย์มีอายุ4หมื่นปี"
คือในภัทรกัปปัจจุบัน นั้นคือ ยังไม่ถึงช่วงที่ เตโชธาตุ จะทำลายภูเขาลูกนี้หายไป
พร้อมทั้งโลก ทั้ง พรหมโลก
ก็มีพระตถาคตอุบัติ ด้วยกัน4ช่วง เรียกว่า ภัทรกัป
1)มนุษย์อายุ40000ปี
2)มนุษย์อายุ30000ปี
3)มนุษย์อายุ20000ปี
4)มนุษย์อายุ100ปี
คำถามทำไมพระตถาคต ถึงไม่อุบัติหลักหมื่นปี หลายคนที่เจอข้อความนี้อาจสงสัย
เพราะการอุบัติในยุคที่มีอายุน้อยที่สุด เป็นการยืนยันชัดเจน ในยุคที่อกุศลธรรม10ได้รุ่งเรืองจนถึงขีดสุดนี้ จะมีตถาคตอุบัติมาองค์สุดท้ายแล้วนะ
เป็นการยืนยัน ว่ายุคอกุศลธรรม ไม่มีอุบัติแล้ว
และต้องรอ จวบจนอายุมนุษย์8หมื่นปีอีกครั้ง พระตถาคตนามว่าพระศรีอริยะอุบัติ
ซึ่งพระสูตรนี้ ต้องการให้รู้ความยาวนานที่สัตว์ท่องเที่ยวไป แม้ในภัทรกัปปัจุบัน ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติถึง4พระองค์
(กัปที่ภูเขาลูกเดิมยังคงอยู่ )
ทีนี้ มาโฟกัส ที่ภูเขาลูกนี้ เปลี่ยนแค่ชื่อเท่านั้น แต่ ความสูง ความกว้าง เราจะรู้ ได้ไหม ผมหาไม่เจอนะซึ่งถ้าตถาคตไม่ได้บัญญัติ เราก็ต้องรู้ตามนี้น อย่าไปบัญญัติเพิ่ม
(ตรงนี้ ถ้าเป็นอรรถกถา คงรู้ถึงสัดส่วนคงสูง100โยชน์ อะไรทำนองนั้น ใช่ไหม
แต่อรรถกถาท่านไม่ได้เห็นภูเขาลูกนี้ ท่านไม่เห็นเอง แล้วท่านจะรู้ได้ไหม??)
นี่และที่บอกว่าจะมี นัยยะคลาดเคลื่อน
แต่ พระตถาคตผู้เห็นภูเขาลูกนี้อยู่
ท่านเทียบเคียงตามระยะเวลาการ เดินขึ้นเขา และลงเขา
มนุษย์อายุยุคนี้ อายุ100ปี
เดินขึ้นครู่เดียว เดินลงครู่เดียว=2ชม.
ภูเขาลูกนี้แร่ะ
เมื่อคนอายุขัย40000ปี
เดินขึ้น 4วัน เดินลง4วัน=8วัน
เห็นอะไรไหม?ตัวเลขทางคณิตศาสตร์
สมมุติ ถ้าพูดถึงคนอายุ1หมื่นปี ก็ต้องเดินขึ้น1วัน ลง1วัน =2วัน ใช่ไหม
ทำไมภูเขาลูกเดียวกันถึงใช้เวลาต่างกัน?????
อยากลองฟังคำตอบ ......
แสดงความคิดเห็น
รู้อรรถกถา เรียนสูตรอย่างไร(อธิบายสูตร)
๑๐. เวปุลลปัพพตสูตร
[๔๕๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ เขต
พระนครราชคฤห์ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร-
*ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ดังนี้ ฯ
[๔๕๗] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้
กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มี
ตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว เวปุลลบรรพตนี้ได้ชื่อว่า ปาจีนวังสะ
สมัยนั้นแล หมู่มนุษย์ได้ชื่อว่า ติวรา หมู่มนุษย์ชื่อติวรา มีอายุประมาณสี่หมื่นปี
หมู่มนุษย์ชื่อติวราขึ้นปาจีนวังสบรรพตเป็นเวลา ๔ วัน ลงก็เป็นเวลา ๔ วัน สมัย
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธ เสด็จอุบัติขึ้น
ในโลก พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธ มีพระสาวก
คู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อว่าวิธูระ และสัญชีวะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอจงดูเถิด ชื่อแห่งภูเขานี้นั้นแล อันตรธานไปแล้ว มนุษย์เหล่านั้นกระทำ
กาละไปแล้ว และพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นก็ปรินิพพานแล้ว สังขารทั้งหลาย
ไม่เที่ยงอย่างนี้ ไม่ยั่งยืนอย่างนี้ ไม่น่าชื่นใจอย่างนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุ
เพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด
พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
[๔๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ภูเขาเวปุลละนี้มีชื่อว่า
วงกฏ สมัยนั้นแล หมู่มนุษย์มีชื่อว่า โรหิตัสสะ มีอายุประมาณสามหมื่นปี
มนุษย์ชื่อว่าโรหิตัสสะขึ้นวงกฏบรรพตเป็นเวลา ๓ วัน ลงก็เป็นเวลา ๓ วัน
สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าโกนาคมนะ
เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โกนา-
*คมนะ มีพระสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อว่าภิยโยสและอุตตระ ดูกร-
*ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงดูเถิด ชื่อแห่งภูเขานี้นั้นแลอันตรธานไปแล้ว มนุษย์
เหล่านั้นทำกาละไปแล้ว และพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นก็ปรินิพพานแล้ว สังขาร
ทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
[๔๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว เวปุลลบรรพตนี้มีชื่อว่า
สุปัสสะ สมัยนั้นแล หมู่มนุษย์มีชื่อว่าสุปปิยา หมู่มนุษย์ชื่อสุปปิยามีอายุประมาณ
สองหมื่นปี หมู่มนุษย์ที่ชื่อว่าสุปปิยาขึ้นสุปัสสบรรพต เป็นเวลา ๒ วัน ลงก็เป็น
เวลา ๒ วัน สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า
กัสสป เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม
ว่ากัสสป ได้มีพระสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อว่าติสสและภารทวาชะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงดูเถิด ชื่อแห่งภูเขานี้นั้นแลอันตรธานไปแล้ว
มนุษย์เหล่านั้นกระทำกาละไปแล้ว และพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นก็ปรินิพพาน
แล้ว สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
[๔๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บัดนี้แล ภูเขาเวปุลละนี้มีชื่อเวปุลละทีเดียว
ก็บัดนี้หมู่มนุษย์เหล่านี้มีชื่อว่ามาคธ หมู่มนุษย์ที่ชื่อมาคธมีอายุน้อย นิดหน่อย ผู้ใด
มีชีวิตอยู่นาน ผู้นั้นมีอายุเพียงร้อยปี น้อยกว่าก็มี เกินกว่าก็มี หมู่มนุษย์ชื่อมาคธ
ขึ้นเวปุลลบรรพตเพียงครู่เดียว ลงก็เพียงครู่เดียว และบัดนี้ พระอรหันตสัมมา-
*สัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ เสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก ก็เราแลมีสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่
เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อสารีบุตรและโมคคัลลานะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้นก็
จักมี และชื่อแห่งบรรพตนี้จักอันตรธาน หมู่มนุษย์เหล่านี้จักทำกาละ และเราก็
จักปรินิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ไม่ยั่งยืนอย่างนี้
ไม่น่าชื่นใจอย่างนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อ
หน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
[๔๖๑] พระผู้มีพระภาค ผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้
จบลงแล้ว จึงตรัสพระคาถาประพันธ์ต่อไปว่า
ปาจีนวังสบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อติวระ วงกฏบรรพตของหมู่
มนุษย์ชื่อโรหิตัสสะ สุปัสสบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อสุปปิยา
และเวปุลลบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อมาคธ สังขารทั้งหลาย
ไม่เที่ยงหนอ มีอันเกิดขึ้นแลเสื่อมไปเป็นธรรมดา ครั้นเกิด
ขึ้นแล้วย่อมดับไป ความที่สังขารเหล่านั้นสงบระงับไป
เป็นสุข ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๑๐
_______________________________________