ซีอีโอ “กรุงเทพประกันภัย” รับบริษัทสนใจใส่เงินเพิ่มทุน “สินมั่นคงประกันภัย” เหตุพอร์ตรถยนต์มีคุณภาพ-ระบบบริหารจัดการดี ชี้รอแค่ข้อสรุปหนี้สินที่แท้จริง รวมถึงให้ “แผนฟื้นฟูกิจการ” ผ่านก่อน ลั่นพร้อมใส่เงินรายเดียว-ไม่จับมือต่างชาติ ล่าสุด มี.ค. 2566 มูลค่าหลักทรัพย์ SMK เหลือแค่ 676 ล้านบาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทสนใจจะใส่เงินเพิ่มทุนให้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการพูดคุยกัน ยังไม่สามารถระบุเงื่อนไขและเม็ดเงินที่จะต้องเพิ่มทุนได้อย่างชัดเจน เพราะต้องรอข้อมูลอีกพอสมควร โดยเฉพาะข้อมูลหนี้สินที่แท้จริง จากหนี้สินไหมประกันภัยโควิดที่มีอยู่กว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งต้องรอให้ผ่านการเจรจาและโหวตแผนฟื้นฟูกิจการในที่ประชุมเจ้าหนี้ให้สำเร็จก่อน ทั้งนี้ หากจะให้สินมั่นคงฯ อยู่ต่อไปได้ หรือไม่ให้ถูกห้ามการรับประกันภัยใหม่ สิ่งสำคัญลำดับแรก (priority) คือต้องใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อให้อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ขึ้นมาอยู่ในระดับ 140% ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ก่อน ส่วนเงื่อนไขอื่นจะเป็นลำดับถัดไป ซึ่งคงต้องพูดคุยกันว่าจะเข้าไปร่วมทำอะไรกันได้ในอนาคต
“เรามีความตั้งใจอยากจะหาโอกาสช่วยเหลือเขาอยู่ เพราะถือเป็นหนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยที่มีผลประกอบการดีมาโดยตลอด มีพนักงานที่มีคุณภาพ มีระบบการบริหารจัดการและระบบเทคโนโลยีในการทำงานที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการรับประกันภัยรถยนต์ ซึ่งพอร์ตงานส่วนนี้คิดเป็นรายได้หลักกว่า 80-90% แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ยังตอบไม่ได้ เพราะกระบวนการของกรุงเทพประกันภัยมีหลายขั้นตอน ต้องพิจารณาภายใต้คณะกรรมการลงทุนก่อน และต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ด้วย”
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การตัดสินใจเลือกผู้ร่วมทุนในครั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับทางสินมั่นคงฯ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเลือกผู้เพิ่มทุนเพียงแค่รายเดียวก็ได้ แต่ถ้าหาผู้เพิ่มทุนได้รายเดียวก็จะเป็นการดี สำหรับตัวสินมั่นคงฯ เอง ซึ่งตามแผนของกรุงเทพประกันภัย หากจะเข้าไปเพิ่มทุนก็จะเข้าไปเพียงแค่รายเดียว ไม่ไปแบบร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ
“จากการติดตามพอร์ตงานในมือของสินมั่นคงฯ ลูกค้าประกันรถยนต์ส่วนใหญ่ยังคงต่ออายุกรมธรรม์อยู่ มีหายไปบ้าง แค่บางส่วน สาเหตุเพราะเบี้ยประกันภัยกับลักษณะรถยนต์ที่สินมั่นคงประกันภัยเข้าไปรับประกันไว้นั้นจะค่อนข้างมีความพิเศษ (unique) ทำให้เมื่อลูกค้าย้ายไปค่ายอื่น อาจจะไม่ได้ค่าเบี้ยเท่าเดิม จึงยังคงยึดโยงอยู่กับสินมั่นคงฯ อยู่พอสมควรสำหรับงานต่ออายุ ประกอบกับรถของลูกค้าของสินมั่นคงฯ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถที่ทำประกันมานานกว่า 6-10 ปี”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 สินมั่นคงประกันภัย ได้จัดประชุมให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และผู้เกี่ยวข้อง โดยให้ข้อมูลความคืบหน้า ณ ขณะนั้นว่า มีนักลงทุนให้ความสนใจเพิ่มทุนอยู่ทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย นักลงทุนต่างชาติ 2 ราย และนักลงทุนไทยอีก 2 รายได้แก่ กรุงเทพประกันภัย กับบริษัท พรีฟอร์มม่า จำกัด ซึ่งทั้ง 4 ราย รอการเจรจากับบริษัทหลังมีความชัดเจนในการปรับโครงสร้างหนี้สินไหมโควิด
ขณะที่งบการเงินของ SMK ปิดสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา มีผลขาดทุนสุทธิ 4,753 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 30,487 ล้านบาท ทำให้ต่อมา เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ขึ้นเครื่องหมาย NC หลักทรัพย์ของ SMK เพราะเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เนื่องจากส่วนผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์เป็นจำนวน 30,488 ล้านบาท ขณะที่ล่าสุดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) จำนวน 676 ล้านบาท (ข้อมูล 21 มี.ค. 2566) จากระดับ 7,700 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2563 https://www.prachachat.net/finance/news-1243022
“กรุงเทพประกันภัย” สนใจใส่เงินเพิ่มทุนอุ้ม “สินมั่นคง”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้