ตัวอย่างเช่น ค่าธรรมเนียมในการจำนองที่ดิน รัฐโดยสำนักงานที่ดินเป็นผู้บันทึกการจำนองในโฉนด
กฎหมายอยากได้รายได้จากค่าธรรมเนียมการจำนอง ในอุดมคติ จะเรียกจากผู้ที่ได้รายได้นั่นคือผู้ให้จำนอง หรืออย่างน้อยก็เรียกเก็บจากทั้ง 2ฝ่าย่ายละครึ่ง
แต่ในทางปฏิบัติ กลายเป็นภาระของผู้จำนอง หรือลูกหนี้ทั้งสิ้น
กู้ธนาคารก็เสียดอกเบี้ยอยู่แล้ว ยังต้องมาเสียค่าจำนองที่สนง.ที่ดินอีก
แถมยังเรียกเป็นเปอร์เซ็นต์โดยไม่มีสิ้นสุดด้วย
ซึ่งน่าจะมีแคปขั้นสูงเอาไว้ เช่นสูงสุดไม่เกิน 2,000บาทเป็นต้น ค่าธรรมเนียมธนาคารยังมีลิมิต 1,000 บาทไว้
รัฐกลับรีดเลือดจากปู คนจะกู้ซื้อบ้าน เพราะเงินที่มีไม่พอ ยังจะมาเบียดบังในส่วนนี้อีก กู้ซื้อรถยังพอฟังได้ว่าเป็นของฟุ่มเฟือย แต่บ้านเป็นปัจจัย4 เลยนะ
ไปรีไฟแนนซ์ก็ต้องมาเสียค่าธรรมเนียมอีก สุดท้ายก็เป็นลูกหนี้เป็นผู้จ่าย
กฎหมาย มีบางข้อต้องปรับปรุง พรรคการเมืองใดจะยื่นแก้บ้าง เอาไอเดียไปใช้ได้เลย
กฎหมายอยากได้รายได้จากค่าธรรมเนียมการจำนอง ในอุดมคติ จะเรียกจากผู้ที่ได้รายได้นั่นคือผู้ให้จำนอง หรืออย่างน้อยก็เรียกเก็บจากทั้ง 2ฝ่าย่ายละครึ่ง
แต่ในทางปฏิบัติ กลายเป็นภาระของผู้จำนอง หรือลูกหนี้ทั้งสิ้น
กู้ธนาคารก็เสียดอกเบี้ยอยู่แล้ว ยังต้องมาเสียค่าจำนองที่สนง.ที่ดินอีก
แถมยังเรียกเป็นเปอร์เซ็นต์โดยไม่มีสิ้นสุดด้วย
ซึ่งน่าจะมีแคปขั้นสูงเอาไว้ เช่นสูงสุดไม่เกิน 2,000บาทเป็นต้น ค่าธรรมเนียมธนาคารยังมีลิมิต 1,000 บาทไว้
รัฐกลับรีดเลือดจากปู คนจะกู้ซื้อบ้าน เพราะเงินที่มีไม่พอ ยังจะมาเบียดบังในส่วนนี้อีก กู้ซื้อรถยังพอฟังได้ว่าเป็นของฟุ่มเฟือย แต่บ้านเป็นปัจจัย4 เลยนะ
ไปรีไฟแนนซ์ก็ต้องมาเสียค่าธรรมเนียมอีก สุดท้ายก็เป็นลูกหนี้เป็นผู้จ่าย