สวัสดีค่ะ เรามีนามสมมุติว่า ใบมิ้นท์
ในช่วงเดือนตุลาคม ปี2565 เราได้ไปเข้าค่ายลูกเสือที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นค่ายที่ค่อนข้างไกลจากจังหวัดเรามากๆ ต้องนั่งรถไป4ชั่วโมง เราเเละเพื่อนๆต่างเตรียมของเพื่อไปเข้าค่าย ซึ่งเราเเละเพื่อนไม่ได้ศึกษาว่าที่ค่ายนี้มีเรื่องผีหรือไม่
เราเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยยุ่งหรือพูดลบหลู่ท้าทายสิ่งลี้ลับ เเต่เราก็เชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ เพราะมีเซ้นมาตั้งเเต่เกิด เพื่อนเราได้พูดหยอกล้อกันว่า ถ้ากูเจอผีจริงนะ กูจะยอมเลี้ยงหนมพวกเลย หลายๆคนในกลุ่มก็ขำเเละไม่ได้คิดอะไรกัน เเละวันที่ได้ไปจริงๆ เราก็ไปนั่งที่เบาะหลังสุดกับกลุ่มเพื่อนๆ เเละก็นั่งกินขนมเเละร้องเพลงกันในรถพัดลม
เเละเมื่อถึงค่าย ทุกคนก็ได้ไปรวมตัวกันที่จุดรวมตัว เมื่อได้ถูกปล่อยตัวให้ไปเก็บของเเละเข้ามาจัดของในห้องพัก
เเต่ละห้องพักจะมีชื่อเรียก บ้านพักของเนตรนารีจะเรียกว่า บ้านเเก้ว
ส่วนบ้านพักของลูกเสือ จะเรียกว่า บ้านเรือนขวัญ
ทุกบ้านจะมีอยู่9ห้อง ซึ่งเราอยู่บ้านเเก้ว9
เเละเมื่อได้ไปทำกิจกรรมกันต่างๆมากมาย เราก็กลับมานอนพักที่บ้านเเก้ว9
ในคืนเเรกที่นอน เราอยู่ในช่วงที่สะลึมสะลือ ตอนนั้นเราเพลียมากๆ เราเห็นผู้หญิงผมยาว หน้าตาขาวๆ นั่งจ้องเราที่นอนอยู่ ซึ่งเด็กที่นอนข้างๆเรานั้น เขาได้ย้ายไปนอนกับเพื่อนๆของเขาเเล้ว เเต่ผู้หญิงคนนั้นจ้องเราไม่หยุด เราตกใจมากๆ เเต่ก็ทำได้เเค่ข่มตาหลับ
เเละเมื่อตอนเช้าหลังจากคืนเเรก ทุกคนได้เข้ามาถามเรา เรื่องที่เราเจอเหตุการณ์เเปลกๆรึเปล่า เพราะมีคนเห็นผู้หญิงผมยาวๆ หน้าขาวๆ ยืนอยู่บนหัวเรา
เพื่อนๆในบ้านเเก้ว9 เป็นห่วงเรา
ซึ่งหลายคนยืนยันว่า เห็นจริงๆ เพราะมีหลายคนมากๆ ที่เห็นคนยืนอยู่บนหัวเรา
เเต่เราไม่ได้ใส่ใจอะไร
เเละเมื่อถึงคืนที่สอง เราได้ตื่นไปเข้าห้องน้ำ ในช่วงเวลา5ทุ่ม เพราะเราได้เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู เราเดินไปด้วยความง่วงๆ ห้องน้ำกับห้องพักนั้นจะอยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างที่เราเดิน เราเห็นผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดสีขาว หน้าตาเธอสวยมาก เราเห็นลางๆ เธอคนนั้นจ้องเรา
เราตกใจสุดขีด เเต่ทำอะไรไม่ได้นอกใจสงบใจ เรารีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง คลุมโปรงนอนไปเลย
เราไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย เก็บเงียบมาตลอด
ซึ่งไม่นานที่เราได้เจอผี เราก็ไม่สบายหนัก ทั้งเป็นไข้หนัก ปวดเนื้อปวดตัว
ค่ายลูกเสือจังหวัดราชบุรี
ในช่วงเดือนตุลาคม ปี2565 เราได้ไปเข้าค่ายลูกเสือที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นค่ายที่ค่อนข้างไกลจากจังหวัดเรามากๆ ต้องนั่งรถไป4ชั่วโมง เราเเละเพื่อนๆต่างเตรียมของเพื่อไปเข้าค่าย ซึ่งเราเเละเพื่อนไม่ได้ศึกษาว่าที่ค่ายนี้มีเรื่องผีหรือไม่
เราเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยยุ่งหรือพูดลบหลู่ท้าทายสิ่งลี้ลับ เเต่เราก็เชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ เพราะมีเซ้นมาตั้งเเต่เกิด เพื่อนเราได้พูดหยอกล้อกันว่า ถ้ากูเจอผีจริงนะ กูจะยอมเลี้ยงหนมพวกเลย หลายๆคนในกลุ่มก็ขำเเละไม่ได้คิดอะไรกัน เเละวันที่ได้ไปจริงๆ เราก็ไปนั่งที่เบาะหลังสุดกับกลุ่มเพื่อนๆ เเละก็นั่งกินขนมเเละร้องเพลงกันในรถพัดลม
เเละเมื่อถึงค่าย ทุกคนก็ได้ไปรวมตัวกันที่จุดรวมตัว เมื่อได้ถูกปล่อยตัวให้ไปเก็บของเเละเข้ามาจัดของในห้องพัก
เเต่ละห้องพักจะมีชื่อเรียก บ้านพักของเนตรนารีจะเรียกว่า บ้านเเก้ว
ส่วนบ้านพักของลูกเสือ จะเรียกว่า บ้านเรือนขวัญ
ทุกบ้านจะมีอยู่9ห้อง ซึ่งเราอยู่บ้านเเก้ว9
เเละเมื่อได้ไปทำกิจกรรมกันต่างๆมากมาย เราก็กลับมานอนพักที่บ้านเเก้ว9
ในคืนเเรกที่นอน เราอยู่ในช่วงที่สะลึมสะลือ ตอนนั้นเราเพลียมากๆ เราเห็นผู้หญิงผมยาว หน้าตาขาวๆ นั่งจ้องเราที่นอนอยู่ ซึ่งเด็กที่นอนข้างๆเรานั้น เขาได้ย้ายไปนอนกับเพื่อนๆของเขาเเล้ว เเต่ผู้หญิงคนนั้นจ้องเราไม่หยุด เราตกใจมากๆ เเต่ก็ทำได้เเค่ข่มตาหลับ
เเละเมื่อตอนเช้าหลังจากคืนเเรก ทุกคนได้เข้ามาถามเรา เรื่องที่เราเจอเหตุการณ์เเปลกๆรึเปล่า เพราะมีคนเห็นผู้หญิงผมยาวๆ หน้าขาวๆ ยืนอยู่บนหัวเรา
เพื่อนๆในบ้านเเก้ว9 เป็นห่วงเรา
ซึ่งหลายคนยืนยันว่า เห็นจริงๆ เพราะมีหลายคนมากๆ ที่เห็นคนยืนอยู่บนหัวเรา
เเต่เราไม่ได้ใส่ใจอะไร
เเละเมื่อถึงคืนที่สอง เราได้ตื่นไปเข้าห้องน้ำ ในช่วงเวลา5ทุ่ม เพราะเราได้เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู เราเดินไปด้วยความง่วงๆ ห้องน้ำกับห้องพักนั้นจะอยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างที่เราเดิน เราเห็นผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดสีขาว หน้าตาเธอสวยมาก เราเห็นลางๆ เธอคนนั้นจ้องเรา
เราตกใจสุดขีด เเต่ทำอะไรไม่ได้นอกใจสงบใจ เรารีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง คลุมโปรงนอนไปเลย
เราไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย เก็บเงียบมาตลอด
ซึ่งไม่นานที่เราได้เจอผี เราก็ไม่สบายหนัก ทั้งเป็นไข้หนัก ปวดเนื้อปวดตัว