กระทู้รีวิวกระทู้แรกของเราขอมารีวิวการยื่นกู้สร้างบ้านในที่ดินตัวเอง เพื่ออาจจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนที่อยากจะสร้างบ้านนะคะ
(ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ แชร์เผื่อเป็นประโยชน์กับทุกคน)
เริ่มต้นเลยที่ดินนั้นจะต้องเป็นชื่อของเราก่อน(ต้องเป็นของผู้กู้เท่านั้นนะคะ) ของเราค่อนข้างวุ่นวายกับตรงนี้และเสียเงินไปมากกับกรมที่ดิน เนื่องจากว่าที่ดินที่เราจะสร้างบ้านไม่เพียงพอ เราจึงต้องรวมและแบ่งที่ดินใหม่ เพื่อขยายเพิ่มตามรูปนะคะ
ในส่วนตรงนี้ทำเราปวดหัวมาก เราถามกรมที่ดินว่าเราแบ่งเลยได้ไหม โดยที่ไม่ต้องรวมเพราะมันเสียเงินหลายต่อ แต่กรมที่ดินแจ้งว่ายังไงก็ต้องรวมก่อนเพราะชื่อในโฉนดมีหลายคน นั่นแหละค่ะ ดีนะเรามีที่ดินน้อยเดียว แต่ก็หมดไปหลายหมื่นอยู่ ไม่อยากจะคิดถึงคนที่มีที่ดินมากๆเลยเนอะ จะทำเรื่องแต่ละทีใช้เงินไม่ใช่น้อยๆ (**ทุกอย่างเราต้องขยันตาม ขยันถามนะคะ อาทิตย์ละครั้งก็ยังดี เผื่อเขาลืมเวลาทำอะไรขอเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้เลยค่ะ)
บอกก่อนนะคะ....เราจองบริษัทสร้างบ้านแบบข้ามปีเลย เพราะที่ดินไม่พร้อมนี่แหละค่ะ ซึ่งมันทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนแบบบ้าน ตรงนี้เราก็เสียเงินเพิ่มนะคะเพราะว่าเราเปลี่ยนเอง
****แบบแรก บริษัทยื่นขออนุญาตก่อสร้างที่เขตจบแล้วรอสร้างเพราะรอเราทำเรื่องที่กรมที่ดิน
****แบบที่สอง เรายื่นขออนุญาตเองค่ะตรงนี้เสียให้บริษัทเพิ่มเนื่องจากบริษัทกำหนดว่าจะยื่นให้ฟรีในครั้งแรกนั้น ครั้งนี้จ่ายให้บริษัทไป 15,000 บาท ใต้โต๊ะที่เขต 4,000 บาท ตอนนี้เหมือนเค้ารับกันเป็นปกติเนอะ เราแอบงงแต่ก็จ่ายไปเพื่อจะสร้างสักที ไม่ดึงเรื่อง
หลังจากที่วุ่นวายกับเรื่องที่ดินจบแล้วทีนี้มาวุ่นวายกับเรื่องขอสินเชื่อกันต่อค่ะ
เริ่มค่ะ !!!!! เรายื่นขอสินเชื่อกับธอส.ค่ะ แบบมีสวัสดิการกับบริษัทนะคะ ก่อนอื่นต้องแจ้งขอเอกสารยื่นยันสิทธิ์สวัสดิการจากบริษัทให้เรียบร้อยค่ะ บริษัทจะส่งเรื่องผ่านระบบไปที่เจ้าหน้าที่ธนาคารรอประมาณ 1-2 วัน เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อมาหาเราเองค่ะพร้อมแจ้งวันที่จะเข้ามารับเอกสาร
วันที่ 9/9/2565 เจ้าหน้าที่ธนาคารมารับเอกสารยื่นกู้ เช่น สลิปเงินเดือน สเต็ทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน สน.บัตรประชาชน เอกสารประกอบการยื่นกู้ทั้งหมดค่ะ และให้เราเซ็นต์เอกสารค่ะ (อันนี้ไม่ครบไม่เป็นไรนะคะ เค้าจะตามอีกทีว่าเค้าต้องการอะไรเพิ่ม)
วันที่ 13/9/23 ธนาคารโทรขอเอกสารเพิ่มเติม เอกสารทุกอย่างจะถูกส่งไปที่สนง.ใหญ่เพื่อพิจารณานะคะ(เจ้าหน้าที่มารับที่บริษัท)
วันที่ 19/9/65 ธนาคารขอเอกสารทด.13 เราก็นำส่งในวันถัดมาค่ะ
วันที่ 29/9/65 เจ้าหน้าที่ประเมินโทรมานัดจะเข้ามาประเมินบ้านค่ะ
วันที่ 30/9/65 เจ้าหน้าที่เข้ามาประเมิน ดีใจนะตอนนี้
---- ****แต่อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ****
วันที่ 3/10/65 เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งยอด และได้รับอนุมัติ แต่ๆๆๆๆ
ขอเอกสารเพิ่มซึ่งตรงนี้เค้าขอเอกสารการเป็นเจ้าของบ้าน ที่ตั้งอยู่บนที่ดินค่ะ แต่บ้านนี้สร้างมาตั้งแต่เรายังไม่เกิด เราไม่มีเอกสารอะไรเลย ทำไงดีทีนี้ !!!!
ระหว่างนั้นเราลองไปขอคัดคำร้องขอเลขที่บ้านที่เขตปรากฎว่าไม่ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าข้อมูลเก่าเกินไป เราจึงไปขอเอกสารยื่นยันการเป็นเจ้าของบ้านที่เขตเป็นผู้ออกให้ แต่ธนาคารบอกว่าใช้ไม่ได้ มีทางเดียวคือต้องรื้อบ้านก่อนแล้วประเมินใหม่พระเจ้า!!!! ตรงนี้ทำเราเครียดเลยค่ะ เอาไงดีว่ะ พูดกับตัวเองอยู่หลายรอบ
ถ้ารื้อแล้วไม่อนุมัติจะทำยังไง จะไปอยู่ไหน คิดไปต่างๆนานา กู้ก็ยังกู้ไม่ได้เครียดไปอีก ตอนนั้นเราขำไม่ออกนะ สรุปก็คือเรารื้อเป็นบางส่วน
แล้วยกส่วนที่ไม่ได้รื้อมาไว้ที่ข้างๆ แล้วปรับพื้นที่ตรงที่จะใช้ปลูกสร้างให้ว่างเปล่าค่ะ
เตรียมพร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้าประเมิน อีกครั้ง ครั้งนี้มั่นใจนิดนึ่งค่ะเพราะทำตามที่เค้าบอกทุกอย่างละเนอะ เห้อออยาวๆๆๆ
วันที่ 11/11/65 เราติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้าประมินอีกครั้ง ครั้งนี้ต้องเสียค่าประเมินเอง 800 บาท
วันที่ 13/11/65 เจ้าหน้าที่เข้าประเมิน
วันที่ 16/11/65 เราตามเรื่องที่ธนาคารต่อค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้อนุมัตินะคะ แต่ส่งเรื่องไปที่สนง.ใหญ่แล้ว
วันที่ 21/11/65 ธนาคารโทรมาแจ้งนัดเซ็นต์สัญญา ทุกอย่างที่พยายาม ได้เป็นหนี้สมใจแล้วค่ะ
วันที่ 23/11/65 นัดเซ็นต์สัญญาที่ธนาคาร สำเร็จ!!!!!!
วันที่ 25/11/65 นัดโอนที่กรมที่ดินค่ะ เดินทางไปด้วยใจที่พร้อมไปแต่เช้าค่ะ เจ้าหน้าที่เค้าจะรออยุ่ที่นั่น ไม่ใช่มีแค่เราคนเดียวมีเป็น 10 ค่ะ ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน บางคนกู้ซื้อ บางคนกู้สร้างมีทุกธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารเค้าจะรู้จักกันหมด จองคิวมาล่วงหน้ากันทุกคนค่ะ เราไปช่วงเช้าได้กลับบ้านไม่เกิน 14.00 น.ค่ะ เพราะเค้าพักเที่ยงกัน วันนี้ต้องเตรียมเงินไป 1% ของยอดสินเชื่อที่อนุมัตินะคะ เค้าจะให้เราไปชำระเลย และสลักหลังโฉนดที่ดินว่าจดจำนอง ถือเป็นหนี้สินระยะยาวที่ภูมิใจแล้วกันเนอะ บางคนบอกว่าทำไมไม่เก็บเงิน รอให้ได้เยอะๆ ก่อนค่อยสร้าง อยากบอกเราไม่ได้มีสมบัติอะไรมาเลย ถ้าคิดว่าเราไหวก็รีบทำเลยค่ะ ทุกคนต้องดิ้นเพื่อให้ครอบครัวเพื่อตัวเองเนอะ สู้ๆค่ะ (อันนี้บอกตัวเองด้วยเนอะ)
เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน กับเรื่องของสินเชื่อเหนื่อยเลยค่ะ ทีนี้ได้เวลาแจ้งวันที่ขึ้นเสาเอกกับบริษัทแล้ว
มีปัญหาอีกแล้วค่ะ คือบริษัทสร้างบ้านของเราไม่มีคิวเลยทำเราปวดหัวรอบที่ร้อย บอกเราว่ามีคิวอีกทีเดือนมีนา 66 ตรงนี้ปัญหามาจากเราคุยกับบริษัทน้อยไปค่ะ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะยื่นกู้ผ่านไหม ช่วงที่ผ่านมาคือเรามั่นใจอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างจะจบวันไหนก็ไม่รู้ จริงๆเราต้องบอกเค้าให้ชัดเจน เราเลยติดต่อพี่เค้าเพื่อถามเค้าว่ามีคิวที่เร็วกว่านั้นไหมคะ เค้าเลยไปดิวกับลูกค้าท่านอื่นที่ยังไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อให้เราก่อน เราถึงได้เลื่อนขึ้นมาค่ะ
**ฤกษ์ยกเสาเอกเราดูตามปฏิทินเลยค่ะข้างขึ้นวันธงชัย 28/12/65 ดีสำหรับเราก็พอค่ะ
ระหว่างนั้นก็รอค่ะ ปรับพื้นที่นั้นโน่นไปเรื่อยจนพอใจ วันที่ 16/12/65 เสาเข็มมาลงที่บ้านใช้เวลาตอกเข็มน่าจะ 4 วันได้ค่ะ
วันที่ 28/12/65 วันยกเสาเอกของเราค่ะ อันนี้คนทำพิธีใครก็ได้นะคะไม่จำเป็นต้องเป็นพระ บ้านเรานับถือพระท่านนี้เลยเชิญท่านมาทำพิธีให้ค่ะ ก่อนทำพิธียกเสาก็จะสวดถอนสิ่งไม่ดีออกก่อน มีของเซ่นไหว้ เสร็จแล้วก็นำไปไว้ที่ทางสามแพร่ง พิธีพวกนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ ปู่ ย่า ตา ยาย ทำกันมาเราก็ทำเพื่อความสบายใจเนอะ สะดวกใจแบบไหนก็ทำกันแบบนั้นค่ะ
ช่างเข้ามาทำงานอีกทีหลังปีใหม่ค่ะ เราก็รอต่อไปเนอะ
10/1/66-10/2/66 ช่างชุดโครงสร้างเข้ามาทำแคมป์ เตรียมพื้นที่ ช่างชุดนี้อยู่กับเราประมาณ 1เดือน พวกงานตัดหัวเสา งานเสา งานพื้น งานคาน โครงสร้างทั้งหมดอยู่ที่ชุดนี้ มีอะไรที่อยากเปลี่ยนแปลงให้รีบแจ้งนะคะ เช่น ลด-เพิ่มขนาดพื้นที่ เราจะทำแต่ไม่ทันคะ มาคิดช้าไป
22-27/2/66 โครงหลังคา (แค่โครงนะคะ)
ตอนนี้ก่อผนังอยุ่นะคะไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ
***สงสัยหรืออยากสอบถามตรงไหนหลังไมค์ได้นะคะ ยินดีตอบค่ะ (ถ้ารู้นะคะ)
[CR] รีวิวการยื่นกู้สร้างบ้านในที่ดินตัวเองแบบต้องรื้อบ้านเก่าค่ะ EP.1
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้