.
.
คู่รักจับมือกันและเดินเท้าเปล่าบนชายหาด
ในขณะที่พระอาทิตย์ตกดินเป็นฉากหลัง
ทรายมีความอ่อนนุ่ม เท้าจึงจมลงไปขณะเดิน
แต่ในทรายมีอะไรมากกว่านั้น
© Bernd Opitz via Getty Images
.
.
.
Chariots of Fire (1980)
.
.
แต่สำหรับบางคน
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า
การเดินเล่นบนหาดทราย
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า
การไปไหนมาไหนบนชายหาดนั้น
เดินได้ไม่ง่ายหรือเดินได้ไม่เร็วกว่า
การเดินนถนนหรือบนทางเท้า
แล้วทำไมการเดินบนทรายถึงยากนัก
" ปัญหาของทรายคือ ความนิ่ม
ทำให้เท้าคนเราจมลงไปในแต่ละย่างก้าว
ทำให้คนเราต้องใช้พลังงานมากขึ้น
2.1 ถึง 2.7 เท่าในทุกย่างก้าวที่เดิน
ตามผลการศึกษาที่ระบุไว้ใน
Journal of Experimental Biology
เพราะทรายจะเปลี่ยนรูปร่างเมื่อโดนเหยียบ
ตลอดจนชายหาด/เนินทรายไม่สม่ำเสมอ
(ไม่ราบเรียบเหมือนพื้นถนน/ทางเท้า)
ยิ่งทำให้เคลื่อนที่ไปได้ยากเช่นกัน
บนพื้นทราย มีลักษณะการรองรับแรงกดได้
แบบไม่สม่ำเสมอ (ไม่ราบเหมือนถนน/ทางเท้า)
และการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศที่ไม่ปกตินั้น
จึงจำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้น "
Paola Zamparo นักวิจัยชีวกลศาสตร์
University of Verona ใน Italy
ตอบทางอีเมล์กับ Live Science
" แต่สิ่งเหล่านี้บังคับให้ร่างกายของคนเรา
ทำการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย
โดยจิตใต้สำนึกในการเดินของคนเรา
ด้วยการใช้กล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะบริเวณข้อเท้าและเท้า
นั่นอาจทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้
ต้องการหยุดพักผ่อนมากกว่าปกติ
เพราะกล้ามเนื้อเหล่านี้
จะต้องยืดหดตัวอย่างแข็งขัน
เพื่อให้แน่ใจว่ามีการทรงตัวอยู่
(มิฉะนั้นจะหกล้ม/ล้มกลิ้ง)
ผลกระทบที่คล้ายกันนี้
ยังเกิดขึ้นเมื่อคนเราเดินป่า
บนเส้นทางที่มีหินและรากไม้จำนวนมาก
แม้ว่าจะเดินได้ที่ความเร็วที่เหมาะสม
ก็ยังเหนื่อยเร็วกว่าการเดินบนทางเท้า "
Barbara Grant นักวิจัยด้านชีวกลศาสตร์
University of Liverpool ใน U.K
ตอบทางอีเมล์กับ Live Science
ยังมีอีกแนวคิดหนึ่งคือ
ผู้คนเดินบนพื้นทรายแตกต่างจากบนพื้นแข็ง
ผลการศึกษาในปี 2022 ในวารสาร
Journal of Royal Society Interface
พบว่า Barbara Grant และเพื่อนนักวิจัย
ที่ University of Liverpool
เปรียบเทียบวิธีการ
เดินบนโฟมกับพื้นผิวแข็ง
โดยวิเคราะห์แรงกดที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า
และปริมาณออกซิเจนที่แต่ละคนใช้ไป
พบว่าการเดินบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม
เช่น ทราย โคลน และหิมะ
ทำให้ผู้คนต้องก้าวเท้ายาวขึ้น
และเคลื่อนไหวสะโพกและเข่ามากขึ้น
ซึ่งทำให้ต้องใช้พลังงานมากกว่า
การเดินบนพื้นแข็ง เช่น บนคอนกรีต ถนน
แต่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ
นักวิทยาศาสตร์พบว่า
การวิ่งบนพื้นทรายช่วยลด
ความแตกต่างการ
ในการใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย
เพราะการวิ่งตามชายหาด
จะใช้พลังงานเพียง 1.6 เท่า
ของการวิ่งบนพื้นเรียบและมั่นคง
อย่างไรก็ตาม การวิ่ง (ในจังหวะเร็ว ๆ)
จะใช้พลังงานมากกว่าการเดินสบาย ๆ
การวิ่งบนทรายจึงใช้พลังงาน
มากกว่าการเดินบนทราย
แต่นักเดินชายหาดที่มีประสบการณ์
ต่างทราบกันดีว่า มีตัวช่วย
ทำให้เดินบนทรายได้ง่ายขึ้น
คือ ขอให้มีน้ำบนทราย
“ เมื่อทรายเปียกน้ำ
ทรายจะกระชับตัวมากขึ้น
การเดินบนทรายจะคล้ายกับ
การเดินบนพื้นแข็งมากกว่า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันง่ายกว่ามาก
ที่จะข้ามชายหาดโดยเดินไปตามชายฝั่ง
ซึ่งมีคลื่นซัดเข้าและออก นี่คือความสมดุล
การมีน้ำมากเกินไปอาจทำให้ทราย
คล้ายกับซุปและนุ่มลงไปอีกครั้ง
การเดินบนทรายแม้ว่าจะยาก
แต่ก็มีเหตุผลที่ดีบางประการ
ในการออกกำลังกายบนพื้นทราย
แรงกระแทกจะต่ำมากบนพื้นทราย
เมื่อเปรียบเทียบกับบนพื้นแข็ง "
Paola Zamparo ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
” แต่ถ้าน้ำไม่ใช่ตัวช่วย/ทางเลือก
มีวิธีอื่นในการทำให้เคลื่อนที่
บนทรายได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ก็คือ การเพิ่มพื้นที่ผิวของเท้าคนเรา
สิ่งเหล่านี้ทำได้ด้วยการสวมรองเท้า
หรือเปลี่ยนท่าทางเดินบนทราย
ลงด้วยเท้าแบนราบมากเท่าที่จะทำได้ "
Barbara Grant ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า
การเดินหรือวิ่งบนทรายนั้นง่ายมาก
เหมาะสำหรับข้อต่อ/กล้ามเนื้อของคนเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ
พื้นผิวที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น คอนกรีต
นั่นหมายความว่า ทรายเป็นพื้นผิวที่ดีกว่า
ในการช่วยให้นักกีฬาฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
จากการออกกำลังกาย
และสำหรับผู้ที่กำลังพักฟื้น
หลังจากได้รับบาดเจ็บ
โดยข้อเท็จจริงแล้ว
นักกีฬามืออาชีพหลายคน
รวมถึงดารา NBA
Russell Westbrook
ก็ยังรวมการฝึกบนทรายไว้ในสูตร
การออกกำลังกายของทีมด้วย
.
.
.
© Jim Mcisaac/Getty Images
.
.
อย่างไรก็ตาม Barbara Grant
ยังแนะนำให้ใช้ความระมัดระวัง
ในระหว่างการออกกำลังกายบนทราย
เพราะความไม่เสถียร/มั่นคงของทราย
จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะสะดุดหรือล้มลง
ดังนั้น ครั้งต่อไป
ที่เดินเล่นสบาย ๆ บนผืนทราย
อย่าลืมเรื่องนี้ว่า
คนเรากำลังออกแรงมากขึ้นเป็นพิเศษ
ทั้งหมดนี้มีเหตุผล/ข้ออ้างมากขึ้น
กับการขอดื่มเฉลิมฉลอง/ดื่มแก้เหนื่อย
ระหว่างวันหยุดพักผ่อนที่ชายหาด
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/3mT0FY2
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ค่ายนักมวยไทยแถวบ้านที่ติดชายทะเล
ก็มักจะฝึกซ้อมด้วยการวิ่งบนหาดทราย
นัยว่าทำให้กล้ามขาแข็งแรงกว่า
การวิ่งบนสนามกีฬาหรือพื้นแข็ง
และช่วยในการทรงตัวได้ดีบนเวทีมวย
มีส่วนช่วยในเวลาชกมวยกับฝ่ายตรงข้าม
เพราะอย่างที่รู้กัน หาดทรายไม่ราบเรียบ
จะมีความสูงต่ำไม่สม่ำเสมอเหมือนผืนผ้าใบ
.
.
ส่วนวัวชนแถวบ้านก็เช่นกัน
ตามชายหาดบางแห่ง
จะเห็นเด็กจูงวัวชน
เดินพลาง ก็ขี้ไปพลาง
คนเที่ยวไม่ระวัง
ก็เหยียบย่ำขึ้วัวชน
การจุงวัวชนบนชายหาด
หาดทรายบางแห่งก็ห้าม
เพราะรบกวนนักท่องเที่ยว
แต่ถ้าทำได้วัวจะเปรียวและแข็งแรง
ทนถึก น้ำอดน้ำแรงดี
ดีกว่าการจูงวัวบนพื้นราบ
อนึ่ง เด็กจูงวัวชน ไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ
เจ้าของวัวชนต้องคัดสรรค์
และไว้ใจกันอย่างแรง
เพราะเด็กต้องมีน้ำอดน้ำทน มีวินัย มีใจรัก
ดูแลเอาใจใส่วัวชนที่เลี้ยงเหมือนพี่เลี้ยง
เป็นทั้งเทรนเนอร์ หมอผีเล่นของคุณไสย
และมองกำลังวัวออกว่า ยังไหวไหม
ถ้าจะจูงต่อ หรือซ้อมชนต่อ
รวมทั้งการเปรียบเทียบวัวชนฝ่ายตรงข้ามได้
ยามค่ำคืนมักจะนอนกางมุ้งใกล้ ๆ กับวัวชน
ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะมีขึ้น
อดีตนายกเทศมนตรีแถวบ้านท่านหนึ่ง
ก็เคยเป็นเด็กจูงวัวชนของ
กำนันวร ทวีรัตน์
และท่านก็ไม่อายที่จะเล่าเรื่องนี้เช่นกัน
แต่ลูกหลานรุ่นหลัง ๆ ของท่าน
บางคนอายที่จะพูดถึงเรื่องนี้
ทำไมพื้นทรายจึงเดินและวิ่งข้ามได้ยาก
.
คู่รักจับมือกันและเดินเท้าเปล่าบนชายหาด
ในขณะที่พระอาทิตย์ตกดินเป็นฉากหลัง
ทรายมีความอ่อนนุ่ม เท้าจึงจมลงไปขณะเดิน
แต่ในทรายมีอะไรมากกว่านั้น
© Bernd Opitz via Getty Images
.
.
.
Chariots of Fire (1980)
.
.
แต่สำหรับบางคน
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า
การเดินเล่นบนหาดทราย
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า
การไปไหนมาไหนบนชายหาดนั้น
เดินได้ไม่ง่ายหรือเดินได้ไม่เร็วกว่า
การเดินนถนนหรือบนทางเท้า
แล้วทำไมการเดินบนทรายถึงยากนัก
" ปัญหาของทรายคือ ความนิ่ม
ทำให้เท้าคนเราจมลงไปในแต่ละย่างก้าว
ทำให้คนเราต้องใช้พลังงานมากขึ้น
2.1 ถึง 2.7 เท่าในทุกย่างก้าวที่เดิน
ตามผลการศึกษาที่ระบุไว้ใน
Journal of Experimental Biology
เพราะทรายจะเปลี่ยนรูปร่างเมื่อโดนเหยียบ
ตลอดจนชายหาด/เนินทรายไม่สม่ำเสมอ
(ไม่ราบเรียบเหมือนพื้นถนน/ทางเท้า)
ยิ่งทำให้เคลื่อนที่ไปได้ยากเช่นกัน
บนพื้นทราย มีลักษณะการรองรับแรงกดได้
แบบไม่สม่ำเสมอ (ไม่ราบเหมือนถนน/ทางเท้า)
และการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศที่ไม่ปกตินั้น
จึงจำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้น "
Paola Zamparo นักวิจัยชีวกลศาสตร์
University of Verona ใน Italy
ตอบทางอีเมล์กับ Live Science
.
.
Journal of Experimental Biology
.
.
.
Paola Zamparo
.
.
" แต่สิ่งเหล่านี้บังคับให้ร่างกายของคนเรา
ทำการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย
โดยจิตใต้สำนึกในการเดินของคนเรา
ด้วยการใช้กล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะบริเวณข้อเท้าและเท้า
นั่นอาจทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้
ต้องการหยุดพักผ่อนมากกว่าปกติ
เพราะกล้ามเนื้อเหล่านี้
จะต้องยืดหดตัวอย่างแข็งขัน
เพื่อให้แน่ใจว่ามีการทรงตัวอยู่
(มิฉะนั้นจะหกล้ม/ล้มกลิ้ง)
ผลกระทบที่คล้ายกันนี้
ยังเกิดขึ้นเมื่อคนเราเดินป่า
บนเส้นทางที่มีหินและรากไม้จำนวนมาก
แม้ว่าจะเดินได้ที่ความเร็วที่เหมาะสม
ก็ยังเหนื่อยเร็วกว่าการเดินบนทางเท้า "
Barbara Grant นักวิจัยด้านชีวกลศาสตร์
University of Liverpool ใน U.K
ตอบทางอีเมล์กับ Live Science
.
.
Barbara Gran
.
.
ยังมีอีกแนวคิดหนึ่งคือ
ผู้คนเดินบนพื้นทรายแตกต่างจากบนพื้นแข็ง
ผลการศึกษาในปี 2022 ในวารสาร
Journal of Royal Society Interface
พบว่า Barbara Grant และเพื่อนนักวิจัย
ที่ University of Liverpool
เปรียบเทียบวิธีการ
เดินบนโฟมกับพื้นผิวแข็ง
โดยวิเคราะห์แรงกดที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า
และปริมาณออกซิเจนที่แต่ละคนใช้ไป
พบว่าการเดินบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม
เช่น ทราย โคลน และหิมะ
ทำให้ผู้คนต้องก้าวเท้ายาวขึ้น
และเคลื่อนไหวสะโพกและเข่ามากขึ้น
ซึ่งทำให้ต้องใช้พลังงานมากกว่า
การเดินบนพื้นแข็ง เช่น บนคอนกรีต ถนน
.
.
Journal of Royal Society Interface
.
.
.
การเดินบนพื้นผิวที่แข็งต่างกัน
เมื่อเทียบกับพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม
เช่น ทรายหรือหิมะ © Getty
.
.
แต่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ
นักวิทยาศาสตร์พบว่า
การวิ่งบนพื้นทรายช่วยลด
ความแตกต่างการ
ในการใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย
เพราะการวิ่งตามชายหาด
จะใช้พลังงานเพียง 1.6 เท่า
ของการวิ่งบนพื้นเรียบและมั่นคง
อย่างไรก็ตาม การวิ่ง (ในจังหวะเร็ว ๆ)
จะใช้พลังงานมากกว่าการเดินสบาย ๆ
การวิ่งบนทรายจึงใช้พลังงาน
มากกว่าการเดินบนทราย
แต่นักเดินชายหาดที่มีประสบการณ์
ต่างทราบกันดีว่า มีตัวช่วย
ทำให้เดินบนทรายได้ง่ายขึ้น
คือ ขอให้มีน้ำบนทราย
“ เมื่อทรายเปียกน้ำ
ทรายจะกระชับตัวมากขึ้น
การเดินบนทรายจะคล้ายกับ
การเดินบนพื้นแข็งมากกว่า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันง่ายกว่ามาก
ที่จะข้ามชายหาดโดยเดินไปตามชายฝั่ง
ซึ่งมีคลื่นซัดเข้าและออก นี่คือความสมดุล
การมีน้ำมากเกินไปอาจทำให้ทราย
คล้ายกับซุปและนุ่มลงไปอีกครั้ง
การเดินบนทรายแม้ว่าจะยาก
แต่ก็มีเหตุผลที่ดีบางประการ
ในการออกกำลังกายบนพื้นทราย
แรงกระแทกจะต่ำมากบนพื้นทราย
เมื่อเปรียบเทียบกับบนพื้นแข็ง "
Paola Zamparo ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
” แต่ถ้าน้ำไม่ใช่ตัวช่วย/ทางเลือก
มีวิธีอื่นในการทำให้เคลื่อนที่
บนทรายได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ก็คือ การเพิ่มพื้นที่ผิวของเท้าคนเรา
สิ่งเหล่านี้ทำได้ด้วยการสวมรองเท้า
หรือเปลี่ยนท่าทางเดินบนทราย
ลงด้วยเท้าแบนราบมากเท่าที่จะทำได้ "
Barbara Grant ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า
การเดินหรือวิ่งบนทรายนั้นง่ายมาก
เหมาะสำหรับข้อต่อ/กล้ามเนื้อของคนเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ
พื้นผิวที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น คอนกรีต
นั่นหมายความว่า ทรายเป็นพื้นผิวที่ดีกว่า
ในการช่วยให้นักกีฬาฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
จากการออกกำลังกาย
และสำหรับผู้ที่กำลังพักฟื้น
หลังจากได้รับบาดเจ็บ
โดยข้อเท็จจริงแล้ว
นักกีฬามืออาชีพหลายคน
รวมถึงดารา NBA
Russell Westbrook
ก็ยังรวมการฝึกบนทรายไว้ในสูตร
การออกกำลังกายของทีมด้วย
.
.
© Jim Mcisaac/Getty Images
.
.
อย่างไรก็ตาม Barbara Grant
ยังแนะนำให้ใช้ความระมัดระวัง
ในระหว่างการออกกำลังกายบนทราย
เพราะความไม่เสถียร/มั่นคงของทราย
จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะสะดุดหรือล้มลง
ดังนั้น ครั้งต่อไป
ที่เดินเล่นสบาย ๆ บนผืนทราย
อย่าลืมเรื่องนี้ว่า
คนเรากำลังออกแรงมากขึ้นเป็นพิเศษ
ทั้งหมดนี้มีเหตุผล/ข้ออ้างมากขึ้น
กับการขอดื่มเฉลิมฉลอง/ดื่มแก้เหนื่อย
ระหว่างวันหยุดพักผ่อนที่ชายหาด
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/3mT0FY2
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ค่ายนักมวยไทยแถวบ้านที่ติดชายทะเล
ก็มักจะฝึกซ้อมด้วยการวิ่งบนหาดทราย
นัยว่าทำให้กล้ามขาแข็งแรงกว่า
การวิ่งบนสนามกีฬาหรือพื้นแข็ง
และช่วยในการทรงตัวได้ดีบนเวทีมวย
มีส่วนช่วยในเวลาชกมวยกับฝ่ายตรงข้าม
เพราะอย่างที่รู้กัน หาดทรายไม่ราบเรียบ
จะมีความสูงต่ำไม่สม่ำเสมอเหมือนผืนผ้าใบ
.
ส่วนวัวชนแถวบ้านก็เช่นกัน
ตามชายหาดบางแห่ง
จะเห็นเด็กจูงวัวชน
เดินพลาง ก็ขี้ไปพลาง
คนเที่ยวไม่ระวัง
ก็เหยียบย่ำขึ้วัวชน
การจุงวัวชนบนชายหาด
หาดทรายบางแห่งก็ห้าม
เพราะรบกวนนักท่องเที่ยว
แต่ถ้าทำได้วัวจะเปรียวและแข็งแรง
ทนถึก น้ำอดน้ำแรงดี
ดีกว่าการจูงวัวบนพื้นราบ
อนึ่ง เด็กจูงวัวชน ไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ
เจ้าของวัวชนต้องคัดสรรค์
และไว้ใจกันอย่างแรง
เพราะเด็กต้องมีน้ำอดน้ำทน มีวินัย มีใจรัก
ดูแลเอาใจใส่วัวชนที่เลี้ยงเหมือนพี่เลี้ยง
เป็นทั้งเทรนเนอร์ หมอผีเล่นของคุณไสย
และมองกำลังวัวออกว่า ยังไหวไหม
ถ้าจะจูงต่อ หรือซ้อมชนต่อ
รวมทั้งการเปรียบเทียบวัวชนฝ่ายตรงข้ามได้
ยามค่ำคืนมักจะนอนกางมุ้งใกล้ ๆ กับวัวชน
ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะมีขึ้น
อดีตนายกเทศมนตรีแถวบ้านท่านหนึ่ง
ก็เคยเป็นเด็กจูงวัวชนของ กำนันวร ทวีรัตน์
และท่านก็ไม่อายที่จะเล่าเรื่องนี้เช่นกัน
แต่ลูกหลานรุ่นหลัง ๆ ของท่าน
บางคนอายที่จะพูดถึงเรื่องนี้