เห็นนิมิต เห็นอดีต เห็นอนาคต เห็นกฎแห่งกรรม ภาค 32

*****คำเตือน*** จขกท. ปากหมากรุณาอย่าถือสาภาษาที่ใช้ตอบคอมเม้นท์

กระทู้เห็น นิมิต ในภาคนี้ของเรา เราคิดว่าน่าจะเป็นที่มา ที่ไปของการเกิดอุบัติเหตุ

การขับรถมอไซค์ชนกับชนท้ายกับรถสิบล้อของเรา ที่ทำให้เราเกือบเสียชีวิตแต่ก็รอดมาได้

และได้ของแถมเป็นการสัมผัสกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้นั่นเอง

เราฝันเห็นตัวเอง ตอนเป็นเด็ก ตอนยังเล็กมาก ยังไม่มีความทรงจำ หรือความจำได้หมายรู้เลย

ว่าเหตุการณ์ในฝันของเรานั้น เคยเกิดขึ้นจริงในชีวิตปัจจุบันของเราหรือเปล่า

แต่สถานที่ใน นิมิต คือสถานที่ ที่เราอยู่จริง และบุคคลที่เราอยู่ด้วยตอนนั้น เขาก็อยู่ร่วมกันกับเราจริงๆ

ในนิมิตฝัน เราที่อยู่ในวัยเด็ก ตัวเล็กมาก กำลังเล่นกับพี่สาวของเรา

ที่ตอนนั้นก็ยังเด็กแต่ตัวโตกว่าเรานิดหน่อย อยู่บนบ้านย่า บนชั้น 2 ที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน

แล้วจู่ๆ เราก็เห็นเงาดำ เหมือนเงาคนที่ทอดผ่านผนังบ้าน คล้ายเด็กผู้หญิงผมสั้น

เงานั้นเลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีคนกำลังเดินขึ้นบันไดจากด้านล่าง ขึ้นมาชั้น 2 ที่พวกเราเล่นกันอยู่

แต่ว่า ไม่มีใครเดินขึ้นบันไดมาเลย แม้แต่คนเดียว แต่เราก็ยังคงเห็นเงา เหมือนคนกำลังเดินอยู่ตลอด

ในฝัน เรากลัวมาก วิ่งไปหลบอยู่หลังพี่สาว แล้วบอกว่าเราเห็นคนขึ้นบันไดมา

แต่พี่สาวเราบอกว่า เราโกหก เพราะเขาไม่เห็นใคร หรือเห็นอะไรเลย

แล้วก็เดินหนีเรา ไม่ยอมให้เราหลบ แต่เราก็วิ่งตามไปหลบต่อ แล้วเงานั้นก็เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวเมื่อมาอยู่ตรงหน้าเรา

แล้วเราก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเหมือนเรา แต่หน้าตาพิลึก น่าเกลียด น่ากลัว

มายืนเท้าเข่าจ้องหน้าเรา แล้วก็บอกเราว่า เขาจะขอมาเกิดกับเราได้มั้ย

แล้วเขาก็เอาแต่จ้องมองไปที่ข้างหลังเราเหมือนจะมองดูอะไรสักอย่าง

ทำให้เราเองก็หันไปเหลียวมองด้านหลังตัวเอง ว่าเด็กคนนั้นมองดูอะไร

แต่เราก็ไม่เห็นมีอะไรอยู่ที่ด้านหลังเราเลย

เราในฝันก็บอกไปว่า ไม่ได้ ไม่เอาหรอก เรายังไม่อยากมีลูก ให้เขาไปเกิดกับคนอื่น

แต่จริงๆแล้วความคิดในใจเรา ที่เราไม่อยากให้เขามาเกิดกับเรา เพราะเขาไม่น่ารัก หน้าตาหน้าเกลียด น่ากลัว

แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนจะทำท่าเสียใจ แล้วจู่ๆก็มีเด็กผู้หญิงอีกคนนึงโผล่มาอีก

เหมือนจะมาปลอบเด็กคนนั้น เขาบอกเราว่า ถ้าเช่นนั้นพวกเขาจะพาเราไปที่นึง

แล้วเราก็นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มากับพวกเขาแล้ว มีเรานั่งตรงกลาง เด็กที่ขอมาเกิดกับเรานั่งซ้อนท้าย

ส่วนเด็กผู้หญิงอีกคนนั่งข้างหน้าเรา

พูดง่ายๆคือ ในฝันเหมือนกับเรานั่งมอไซค์ที่มีผีอยู่ข้างหน้าและข้างหลัง แล้วเราก็นั่งกลางนั่นเอง

ตลอดเส้นทางที่ขับผ่าน ไม่มีรถคันอื่นขับมาด้วยเลย และไม่มีรถอื่นขับสวนทางด้วยเลยสักคัน

แล้วเราก็เห็นแสงสว่างจ้าอยู่ที่ทางข้างหน้า แล้วจู่เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็ลุกขึ้นยืนแบบกะทันหัน

โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว แล้วแสงจ้านั้นก็เข้าตาเรา จากนั้นเราก็คิดว่า เราน่าจะประสบอุบัติเหตุ แล้วเราก็ตื่นขึ้น

ถ้าอุบัติเหตุที่เกิดกับเราในคราวนั้น มีสาเหตุมาจากพวกเขาจริงๆ พวกเราคงจะเคยทำกรรมมาด้วยกัน และเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันแน่ๆ

อาจจะเป็นเพราะเราปฎิเสธที่ไม่ให้เขาได้มาเกิดกับเรา พวกเขาจึงจะเอาเราไปอยู่ด้วยแทน

บางทีเรื่องบางเรื่อง ที่รู้แล้วเป็นทุกข์ สู้เราไม่ต้องรับรู้ถึงมันเลยจะดีกว่า เพราะรู้แล้ว มันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา

เราเองเพิ่งจะได้เข้าใจ ว่าทำไม ผู้ใหญ่ถึงพยายามสร้างกำแพงปิดกันความจริงออก จากเด็กเล็กๆ

เหมือนเวลาที่เด็กสะดุดโต๊ะ หกล้ม เข่าเจ็บ

พวกเขามักจะโทษว่าโต๊ะมันไม่ดี มันไม่ยอมหลบ ทำให้เด็กๆเดินไปชน

ทั้งๆความเป็นจริงแล้ว โต๊ะมันเดินไม่ได้ มันหลบไปไหนไม่ได้ มีแต่คนที่ต้องหลบมัน

และเรื่องความเจ็บปวดอีก ทั้งๆที่เดินชนโต๊ะ แน่นอนว่ามันต้องเจ็บ แต่กลับกลอกเด็กว่า มันไม่เจ็บหรอก

ยิ่งเด็กโตขึ้น ยิ่งนานวันเข้า ถ้าพวกเขายังคงสร้างกำแพงเหล่านั้นหนาขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยการหลอกตัวเอง หลอกคนอื่น และจะโยนสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ ออกไปให้พ้นตัว

สุดท้าย มันก็กลายเป็นความเคยชิน เคยชินที่จะไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับความทุกข์ ไม่ยอมรับความเจ็บปวด

เพราะไม่สามารถทำใจให้ยอมรับมันได้ เราจึงได้กลายเป็นเดินวน เดินหลงทางอยู่ในกำแพง

เขาวงกตที่คนรอบข้าง และตัวเราเองสร้างขึ้น จนออกไปไหนไม่ได้

จริงอยู่ ที่การกระทำเหล่านั้น พวกเขาทำไปเพื่อปกป้องตนเองและคนที่ตัวเองรัก

แต่มันก็ได้กลายเป็นดาบสองคมไปเช่นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่