หวิดปะทะ! ม็อบเกษตรกร บุกทำเนียบ ประจันหน้า จนท. จี้นายกฯ แก้เรื่องหนี้สิน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7557952
ม็อบเกษตรกร หวิดปะทะ เจ้าหน้าที่ ปิดเส้นทางหน้าทำเนียบ ยื่นหนังสือเรียกร้อง นายกฯ ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ประสบปัญหาหนี้สิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค. 2566 ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) นำโดย นาย
ยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษา สกท. พร้อมมวลชน ประมาณ 1,000 คน ได้เคลื่อนขบวนเดินเท้า จากหน้ากระทรวงเกษตรฯ ใช้ถนนราชดำเนินนอก มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือให้กับนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่ประสบปัญหาในเรื่องต่างๆ ของกองทุนฟื้นฟู แก้ไขหนี้ ของสมาชิกเกษตรกร
โดยเมื่อเดินทางมาถึงบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทางกลุ่มได้ประจันหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งแถวปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินผ่านในเส้นทางดังกล่าว แต่ผู้ชุมนุมได้ดึงรั้วและฝ่าแนวกั้น เดินข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ มาทางฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ
จากนั้น นาย
ยศวัจน์ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยับแนวกั้น ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ หน้าองค์การสหประชาชาติ เพื่อเปิดทางให้มวลชนที่รวมตัวอยู่บริเวณดังกล่าว มารวมตัวกับมวลชนที่รวมกลุ่มอยู่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฝั่งทำเนียบรัฐบาล โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ยินยอม และเปิดทางให้มวลชนรื้อรั้วเหล็กกัน เพื่อมาสมทบกันได้
จากนั้นเวลา 11.20 น. มวลชนได้กระจายหาที่นั่งในพื้นที่ร่มไม้ และบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอผลการประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เรื่องของกลุ่มถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 4.1 ลำดับที่ 10 ทั้งนี้ มีรายงานว่า นาย
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ลงมาพูดคุยกับทางกลุ่ม แต่ในส่วนเวลายังไม่มีการกำหนดที่ชัดเจน
เดือด! จาตุรนต์ ฉะ ประยุทธ์ ไม่เห็นหัวคนเห็นต่าง ให้ท้ายตำรวจ ทั้งที่ควรขอโทษ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7557749
จาตุรนต์ อัด ประยุทธ์ ไม่เห็นหัวประชาชน ให้ท้ายตำรวจ เป็นผู้นำเผด็จการที่ไม่เคยเปลี่ยน สอนมวยนายกฯ ควรขอโทษคนที่ถูกลากตัวออกไป
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2566 นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ หญิงสูงวัยรายหนึ่งยืนดักขบวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างลงตรวจราชการที่ อ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อแสดงออก พร้อมตะโกนด่าและตำหนิการทำงานของ พล.อ.
ประยุทธ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่กระชาก ลากตัว และปิดปาก จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยนาย
จาตุรนต์ ระบุว่า “
ที่จริง นายกฯ ควรจะขอโทษประชาชนที่ถูกตำรวจลากตัวไปแแบบนั้น และควรจะบอกว่าใครมีความเห็นอย่างไร ยินดีรับฟังเสมอ แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับมีท่าทีแบบผู้นำเผด็จการที่เป็นมาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย #ประยุทธ์ออกไป #ประยุทธ์”
นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า
“อย่าไปให้ความสำคัญ อันนี้คือสั่งสื่อใช่มั้ย จะกี่คนก็แล้วแต่ ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ สื่อเขาก็ต้องให้ความสำคัญ นายกฯไปหาเสียง โดนคนมาต่อว่า ตำรวจไปลากตัวเขา แล้วนายกฯ ก็พูดแบบไม่เห็นหัว ไม่เห็นค่าของคน แถมให้ท้ายตำรวจอีก สื่อเขาต้องให้ความสำคัญแน่ เข้าใจมั้ย #ประยุทธ์ออกไป”
https://twitter.com/chaturon/status/1635485409802321920
พนักงาน BTS บุกทำเนียบทวงหนี้ ‘บิ๊กตู่’ กว่า 5 หมื่นล้าน ขีดเส้น 7 วัน ขู่หยุดเดินรถ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3872131
‘พนักงานบีทีเอส’ บุกทำเนียบยื่นหนังสือทวงหนี้ ‘บิ๊กตู่’ กว่า 5 หมื่น ล. พร้อมขู่หยุดเดินรถ หากไม่ดำเนินการใน 7 วัน
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย
เศกศักดิ์ หุ่นสอาด ตัวแทนพนักงานบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากพนักงานมีความกังวลว่าประเด็นที่รัฐบาลติดหนี้กับบีทีเอสประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่มีการจ่ายหนี้และไม่มีแนวทางที่ชัดเจน จึงกังวลว่าอาจจะกระทบกับพนักงานและบริษัทในอนาคตหากต้องแบกภาระเรื่องหนี้ต่อไป
“
ยืนยันว่าการมายื่นหนังสือในครั้งนี้ไม่ได้มาจากคำสั่งของผู้บริหาร แต่เป็นความต้องการของกลุ่มพนักงานเอง เนื่องจากที่ผ่านมากว่า 4 ปีแล้วไม่ได้มีการดำเนินการ และแม้ว่าจะมีการฟ้องศาลปกครองจะมีคำพิพากษาให้หน่วยงานของรัฐชำระหนี้ตามสัญญาจ้าง แต่หน่วยงานของรัฐก็ยังบ่ายเบี่ยงและประวิงเวลาโดยการอุทธรณ์ทำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุด และปฏิบัติยังคงให้บริการสาธารณะอย่างต่อเนื่อง” นาย
เศกศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ในการยื่นหนังสือดังกล่าวได้กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมีแนวทางอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจ่ายหนี้ให้กับบีทีเอสภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการก็อาจจะพิจารณามาที่ทำเนียบอีกครั้ง แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ และอาจมีการพิจารณาหยุดเดินรถ ซึ่งประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนหากหยุดการเดินรถ แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจความจำเป็น ยืนยันว่าที่ผ่านมาพนักงานและบริษัทมีความเป็นมืออาชีพมากพอ และแม้ว่ารัฐจะติดหนี้แต่บีทีเอสก็ยังให้บริการตามปกติ
นอกจากนี้ ยังกังวลว่าหากเรื่องนี้พิจารณาล่าช้า เมื่อยุบสภาและกว่าจะเลือกตั้งก็อาจจะส่งผลต่อจำนวนหนี้ เพราะปัจจุบันค่าจ้างเดินรถสะสมอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 8 ล้านบาทต่อวัน ย่อมส่งผลต่อสถานะทางการเงินและการให้บริการทางการเงิน รวมถึงเงินที่รัฐต้องจ่ายจำนวนนี้อาจเป็นภาษีของประชาชนอีกด้วย
JJNY : หวิดปะทะ! ม็อบเกษตรกรจี้นายกฯแก้หนี้สิน│เดือด!จาตุรนต์ฉะประยุทธ์│BTSบุกทวงหนี้‘ตู่’│ศาลโลกจ่อดำเนินคดีจนท.รัสเซีย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7557952
ม็อบเกษตรกร หวิดปะทะ เจ้าหน้าที่ ปิดเส้นทางหน้าทำเนียบ ยื่นหนังสือเรียกร้อง นายกฯ ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ประสบปัญหาหนี้สิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค. 2566 ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) นำโดย นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษา สกท. พร้อมมวลชน ประมาณ 1,000 คน ได้เคลื่อนขบวนเดินเท้า จากหน้ากระทรวงเกษตรฯ ใช้ถนนราชดำเนินนอก มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือให้กับนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่ประสบปัญหาในเรื่องต่างๆ ของกองทุนฟื้นฟู แก้ไขหนี้ ของสมาชิกเกษตรกร
โดยเมื่อเดินทางมาถึงบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทางกลุ่มได้ประจันหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งแถวปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินผ่านในเส้นทางดังกล่าว แต่ผู้ชุมนุมได้ดึงรั้วและฝ่าแนวกั้น เดินข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ มาทางฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ
จากนั้น นายยศวัจน์ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยับแนวกั้น ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ หน้าองค์การสหประชาชาติ เพื่อเปิดทางให้มวลชนที่รวมตัวอยู่บริเวณดังกล่าว มารวมตัวกับมวลชนที่รวมกลุ่มอยู่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฝั่งทำเนียบรัฐบาล โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ยินยอม และเปิดทางให้มวลชนรื้อรั้วเหล็กกัน เพื่อมาสมทบกันได้
จากนั้นเวลา 11.20 น. มวลชนได้กระจายหาที่นั่งในพื้นที่ร่มไม้ และบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอผลการประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เรื่องของกลุ่มถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 4.1 ลำดับที่ 10 ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ลงมาพูดคุยกับทางกลุ่ม แต่ในส่วนเวลายังไม่มีการกำหนดที่ชัดเจน
เดือด! จาตุรนต์ ฉะ ประยุทธ์ ไม่เห็นหัวคนเห็นต่าง ให้ท้ายตำรวจ ทั้งที่ควรขอโทษ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7557749
จาตุรนต์ อัด ประยุทธ์ ไม่เห็นหัวประชาชน ให้ท้ายตำรวจ เป็นผู้นำเผด็จการที่ไม่เคยเปลี่ยน สอนมวยนายกฯ ควรขอโทษคนที่ถูกลากตัวออกไป
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2566 นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ หญิงสูงวัยรายหนึ่งยืนดักขบวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างลงตรวจราชการที่ อ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อแสดงออก พร้อมตะโกนด่าและตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่กระชาก ลากตัว และปิดปาก จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายจาตุรนต์ ระบุว่า “ที่จริง นายกฯ ควรจะขอโทษประชาชนที่ถูกตำรวจลากตัวไปแแบบนั้น และควรจะบอกว่าใครมีความเห็นอย่างไร ยินดีรับฟังเสมอ แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับมีท่าทีแบบผู้นำเผด็จการที่เป็นมาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย #ประยุทธ์ออกไป #ประยุทธ์”
นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า “อย่าไปให้ความสำคัญ อันนี้คือสั่งสื่อใช่มั้ย จะกี่คนก็แล้วแต่ ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ สื่อเขาก็ต้องให้ความสำคัญ นายกฯไปหาเสียง โดนคนมาต่อว่า ตำรวจไปลากตัวเขา แล้วนายกฯ ก็พูดแบบไม่เห็นหัว ไม่เห็นค่าของคน แถมให้ท้ายตำรวจอีก สื่อเขาต้องให้ความสำคัญแน่ เข้าใจมั้ย #ประยุทธ์ออกไป”
https://twitter.com/chaturon/status/1635485409802321920
พนักงาน BTS บุกทำเนียบทวงหนี้ ‘บิ๊กตู่’ กว่า 5 หมื่นล้าน ขีดเส้น 7 วัน ขู่หยุดเดินรถ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3872131
‘พนักงานบีทีเอส’ บุกทำเนียบยื่นหนังสือทวงหนี้ ‘บิ๊กตู่’ กว่า 5 หมื่น ล. พร้อมขู่หยุดเดินรถ หากไม่ดำเนินการใน 7 วัน
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศกศักดิ์ หุ่นสอาด ตัวแทนพนักงานบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากพนักงานมีความกังวลว่าประเด็นที่รัฐบาลติดหนี้กับบีทีเอสประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่มีการจ่ายหนี้และไม่มีแนวทางที่ชัดเจน จึงกังวลว่าอาจจะกระทบกับพนักงานและบริษัทในอนาคตหากต้องแบกภาระเรื่องหนี้ต่อไป
“ยืนยันว่าการมายื่นหนังสือในครั้งนี้ไม่ได้มาจากคำสั่งของผู้บริหาร แต่เป็นความต้องการของกลุ่มพนักงานเอง เนื่องจากที่ผ่านมากว่า 4 ปีแล้วไม่ได้มีการดำเนินการ และแม้ว่าจะมีการฟ้องศาลปกครองจะมีคำพิพากษาให้หน่วยงานของรัฐชำระหนี้ตามสัญญาจ้าง แต่หน่วยงานของรัฐก็ยังบ่ายเบี่ยงและประวิงเวลาโดยการอุทธรณ์ทำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุด และปฏิบัติยังคงให้บริการสาธารณะอย่างต่อเนื่อง” นายเศกศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ในการยื่นหนังสือดังกล่าวได้กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมีแนวทางอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจ่ายหนี้ให้กับบีทีเอสภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการก็อาจจะพิจารณามาที่ทำเนียบอีกครั้ง แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ และอาจมีการพิจารณาหยุดเดินรถ ซึ่งประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนหากหยุดการเดินรถ แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจความจำเป็น ยืนยันว่าที่ผ่านมาพนักงานและบริษัทมีความเป็นมืออาชีพมากพอ และแม้ว่ารัฐจะติดหนี้แต่บีทีเอสก็ยังให้บริการตามปกติ
นอกจากนี้ ยังกังวลว่าหากเรื่องนี้พิจารณาล่าช้า เมื่อยุบสภาและกว่าจะเลือกตั้งก็อาจจะส่งผลต่อจำนวนหนี้ เพราะปัจจุบันค่าจ้างเดินรถสะสมอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 8 ล้านบาทต่อวัน ย่อมส่งผลต่อสถานะทางการเงินและการให้บริการทางการเงิน รวมถึงเงินที่รัฐต้องจ่ายจำนวนนี้อาจเป็นภาษีของประชาชนอีกด้วย