JJNY : เศรษฐาโอนหุ้น│‘โรม’จี้‘ผบช.ปส.’ดำเนินคดี‘ส.ว.ทรงเอ’│'หมอพรทิพย์'คาใจป.ป.ช.ไม่เป็นกลาง│กกพ.ค้างหนี้ก้อนโต1.5 แสนล.

เศรษฐา โอนหุ้น SIRI ให้ลูกสาวทั้งหมด 661 ล้านหุ้น หลังประกาศลุยการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3865684
 
 
เศรษฐา โอนหุ้น SIRI ให้ลูกสาวทั้งหมด 661 ล้านหุ้น หลังประกาศลุยการเมือง
 
จากกรณีที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็น ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หรือกุนซือของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยให้มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คณะทำงานของพรรคที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว และดำเนินการอื่นใดตามที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมอบหมาย

ต่อมา นายเศรษฐา ออกจดหมาย ลางานแสนสิริชั่วคราว ลงวันที่ 9 มีนาคม 2566 จะไม่รับค่าตอบแทน เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้เต็มที่ กระทั่งประกาศแสดงความบริสุทธิ์ใจขอ “โอนหุ้น” หรือ “ขายหุ้น” ของตนเองในบริษัทต่างๆ เพื่อมุ่งมั่นในเส้นทางการเมือง
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยแพร่ รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โดย นายเศรษฐา ทวีสิน ตำแหน่งกรรมการ (กรรมการ/กรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองประธานกรรมการบริหาร) ระบุว่า นายเศรษฐาได้โอนหุ้น SIRI ทั้งหมด จำนวน 661,002,734 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.44% ของทุนจดทะเบียนบริษัท ให้แก่ น.ส.ชนัญดา ทวีสิน (บุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว) โดยเป็นการให้โดยเสน่หา ไม่มีค่าตอบแทน ทั้งนี้ ทำรายการแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2566
  
อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบจากเว็บไซต์ แสนสิริ พบว่า รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก ตามทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2565 โดย นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่ในลำดับที่ 4 มีจำนวนหุ้น 661,002,734 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.44% ของทุนจดทะเบียน



‘โรม’ ไม่อยากเห็นคนผิดลอยนวล จี้ ‘ผบช.ปส.’ ดำเนินคดี ‘ส.ว.ทรงเอ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3865659

‘โรม’ ไม่อยากเห็นคนผิดลอยนวล จี้ ‘ผบช.ปส.’ ดำเนินคดี ‘ส.ว.ทรงเอ’
 
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายอุปกิต ปาจรียางกูร  สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาดำเนินคดีกรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ทุนมินลัต
  
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลังจากตนยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพื่อแจ้งเบาะแสสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านมาแล้ว 10 วัน ยังไม่เห็นความคืบหน้าอะไรทั้งนั้น ทั้งที่ง่ายที่สุดคือการเอาตัว นายอุปกิต มาแจ้งข้อหาเพื่อฟ้องคดีต่อไป ตั้งแต่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา หมดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว ส.ว. ไม่มีความคุ้มกันใดๆ ที่จะไม่ถูกหมายเรียกหรือหมายจับได้อีก
 
เรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ในตอนนั้นตำรวจสืบนครบาล (บก.สส. บช.น.) ที่จับทุนมินลัตและขยายผลมาถึง นายอุปกิต ได้เคยขอหมายจับต่อศาลแล้ว ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับให้ แต่กลับมาถอนการอนุมัติในบ่ายวันเดียวกัน แล้วให้ตำรวจไปออกหมายเรียกก่อน อ้างว่าเพราะเป็นบุคคลสำคัญ
 
ทั้งนี้ การออกหมายเรียกนั้น ตำรวจทำเองได้ แต่ในกรณีนี้ หน่วยงานที่มีอำนาจออกหมายเรียกนั้นไม่ใช่ตำรวจสืบนครบาล แต่เป็นอำนาจของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 เป็นช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาอยู่
 
ถ้า บช.ปส. ออกหมายเรียก นายอุปกิต มารับทราบข้อกล่าวหาให้ทันก่อนสภาฯ เปิด ก็อาจยังเดินหน้าคดีต่อไปได้ หรือถ้าออกหมายเรียกแล้วไม่มาใน 15 วัน ก็ยังไปขอหมายจับกับศาลอีกรอบได้ แต่การขอหมายเรียกจาก บช.ปส. ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งในช่วงนั้นและดูเหมือนในช่วงนี้ด้วย ในขณะที่คดีทุนมินลัตอยู่ในชั้นศาล แต่นายอุปกิต กลับยังไม่ถูกแจ้งข้อหาเสียที ทำให้เดินหน้าคดีต่อไม่ได้
 
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้นจึงต้องถามไปยังผู้บังคับบัญชาของ บช.ปส. ซึ่งปัจจุบันคือ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ว่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมานี้ หน่วยงานของท่านได้นำตัว นายอุปกิต มาแจ้งข้อหาและเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีหรือยัง ถ้ายัง จะเริ่มได้เมื่อไร อย่างน้อยท่านมีอำนาจในการออกหมายเรียกแน่ๆ หรือหากเห็นว่าเป็นคดีร้ายแรง จะไปขอหมายจับกับศาลเองก็ยังได้
 
ผมไม่ได้มีอำนาจไปสั่งการ ผบช.ปส. จึงได้แต่หวังในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ติดตามกรณีดังกล่าวและไม่อยากเห็นคนผิดลอยนวลเพียงเพราะใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ หวังว่าท่านจะปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นตำรวจปราบยาเสพติด และขอฝากความหวังถึง ผบ.ตร. ที่ในวันนั้นกรุณามารับหนังสือจากผมด้วยตัวท่านเอง ช่วยติดตามผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านด้วยเช่นกัน” นายรังสิมันต์กล่าว 
 

 
'หมอพรทิพย์' คาใจป.ป.ช. ไม่เป็นกลาง ซื้อ GT200 แค่ 3 เครื่อง โดนฟ้อง หน่วยอื่นซื้อเป็นพันไม่โดน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7551831

‘หมอพรทิพย์’ ข้องใจป.ป.ช.ไม่เป็นกลาง จัดซื้อ GT200 แค่ 3 เครื่อง โดนฟ้อง แต่ทำไมหน่วยงานอื่นซื้อเป็นพันเครื่องกลับไม่โดน เผยขณะนี้มาสู่ทางตันแล้ว
 
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว.ในฐานะอดีต ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. เห็นควรสั่งฟ้องเองในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติด GT200 และ Alpha (อัลฟา) 6 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 สัญญา ว่า ตนพร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนที่มีอยู่ เพราะขณะนี้เข้ามาสู่ทางตันแล้ว ก็คงจะต้องรอจนกว่าป.ป.ช. จะยื่นฟ้องมาเอง
 
สำหรับช่องทางอื่นตนก็มองว่าไม่มีรอสุดทางคือถูกฟ้อง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องมาอยู่พักหนึ่งแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะฟ้อง เพียงแต่เราทราบความเห็นเพียงตอนต้น ที่เหลือก่อนจะมาถึงจุดนี้ เราไม่ได้เห็นเอกสารหรือรายละเอียดอะไรเลย
 
เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว เราถูกร้องก็ตั้งกรรมการสอบ เพียงแต่สงสัยว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานในขณะนั้น เราจัดซื้อเพียงแค่ 3 เครื่อง ทำไมถึงโดน แต่ในขณะที่หน่วยงานอื่นซื้อเป็นพันเครื่องถึงไม่โดน
 
ตนมีความติดใจในเรื่องของความไม่เป็นกลาง เนื่องจากกรรมการป.ป.ช. นั้นเคยวิพากษ์วิจารณ์ตน ตอนที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิติวิทยาศาสตร์ เข้าสภาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
 
เมื่อถามว่า ทำไมป.ป.ช.ถึงไม่เชิญไปชี้แจง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ต้องไปถามป.ป.ช. ส่วนตัวมองว่า เขาคงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงเอกสารเรายังหาไม่ทันเลย จะกล่าวหาก็จะต้องให้โอกาสคนถูกกล่าวหา แต่เขาไม่ให้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่