บริษัทโรงหนังที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์สามารถใช้ประเด็นการเมืองมาบริหารรอบฉายหนังได้หรือครับกรณีหนังที่มีดราม่าตอนนี้

ดราม่าเรื่องรอบฉายหนังดังในตอนนี้ ตอนแรกผมเองยอมรับว่าเข้าใจผิดคิดว่ากระแสคนอยากไปดูเยอะ มีแค่ในโซเชียล
รอบที่ทางโรงลดเป็นเรื่องของการบริหารโรงหนังให้ได้รายได้สูงสุดทั่วไป   (คล้ายๆที่ทำกับหนังภาคต่อที่ผู้กำกับออกมาร้องไห้แต่อันนั้นมันไม่มีคนดูจริงๆ)

แต่หลังจากไปอ่านดราม่ามาหลายมุม ทำให้เกิดคำถามที่ว่าจริงๆแล้วการฉายหนังเรื่องนี้ในแต่ละรอบช่วงแรกไม่ได้ ไร้คนดู
หรือคนน้อยมากขนาดต้องรีบถอดหรือลดรอบออกจากโรงหรือไม่

หนังที่โดนลดรอบนี้มีคนดูมากกกว่าหนังเรื่องที่มาแทน ถึงขนาดเป้นอันดับ1 ของรายได้ในสัปดาห์นั้นเลย

แต่เป้นทั้งเรื่องการเมือง เรื่องสายหนังอะไรหลายๆอย่าง

ตัวผมนั้นเข้าใจดรว่าการฉายหนังโรงถ้าคนมันเยอะมันฉายได้ ก็ต้องจัดรอบให้พอเพียง  ซึ่งผมเป้นคนนึงที่เข้าใจโรงหนังทุกครั้งที่หนังฟอร์มยักษ์
มาเวล avatar เข้าโรง โรงจะเหมาจัดฉายเกือบทั้งวันนั่นเป้นสิทธิของโรงหนังแล้วยิ่งโรงหนังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย 

ตรงนี้ผมเลยสงสัยว่า

ถ้าข้อเท็จจริงเรื่องการลดรอบฉายคราวนี้  ไม่ได้มาจากเรื่องรายได้แบบนี้ (เพราะตัวหนังเองรายได้ดีกว่าหนังที่มาฉายแทน) 
ถือว่าเป้นบริษัทที่ผู้บริหารทำไม่เหมาะสมหรือไม่ครับ

(ขออนุญาตแทกห้องหุ้นด้วยนะครับเพราะผมเล่นที่นี้ประจำ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่