เราเรียนจิตวิทยาอุตสาหกรรมพึ่งจบใหม่ค่ะ ตอนนี้เป็น Hr ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งคนในโรงงานมากกว่า80% เป็นคนมีอายุ 40+ จนถึงเกษียณต่อสัญญา ด้วยความที่เราเป็นเด็กร่าเริง และเป็นมิตรกับพนักงานทุกคนทั้งคนไทยและพม่า ทำให้บางครั้งก็มีคนมาชอบมาจีบบ้างหลายครั้งซื้อของกินมาให้ก็บ่อย ซึ่งเราปฏิเสธทุกครั้งบอกว่าเกรงใจไม่ต้องซื้อมาแล้ว และทุกครั้งของที่ได้เราให้คนในห้องกินตลอด เวลาไปเดินพบปะพนักงานไม่เคยคุยนอกเรื่องเลย แค่พูดทักทายสวัสดีปกติ เราไหว้ทุกคนตั้งแต่คนสวน แม่บ้าน พนักงานมนุษย์ป้ามนุษย์ลุง แต่พี่ที่ทำงานเขาหาว่าเราเฟรนลี่เข้าถึงง่าย สนิทกับพนักงานเกินไป กลัวคนอื่นจะมองไม่ดีเพราะพนักงานชอบแสดงกริยายิ้มแย้ม ดี๊ด๊าเวลาเห็นเราไปเดินภายในโรงงาน แต่ประโยคที่เขาพูดมันแรงกว่านี้ประมาณว่าไปอ่อยไปทำเหมือนมีใจไปเล่นกับเขามากไป หรือแอบคุยส่วนตัวเฟส ไลน์อะไรก็ตามแต่กับพนักงาน ซึ่งเราไม่มีพนักงานเป็นเพื่อนสักคน ไม่เคยคุยนอกเวลางานด้วย แค่ยิ้มให้กับพนักงานทุกคนกล่าวสวัสดีแค่นั้น จนผอ.เรียกเราว่าขวัญใจพม่า เราค่อนข้างเป็นที่รักของทุกคนแต่เหมือนคนในห้องจะไม่ค่อยรักเราเท่าไหร่ ที่เสียใจที่สุดคือคนที่พูดคือคนที่ทำให้เราเลือกที่จะทำงานกับโรงงานเล็กๆ แห่งนี้ที่สว้สดิการอะไรก็ไม่มี แถมกดเงินเดือนเด็กจบใหม่อีกด้วย พี่เขาเป็นคนสอนงานเราทุกอย่าง ใจดี แล้วเราก็สบายใจกับการทำงานมาก เลยปฏิเสธที่จะสัมภาษณ์กับที่อื่นที่ดีกว่า แต่พออยู่ไปสักพักคนในห้องชอบนินทากันเองและคนอื่นๆ มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากๆ จนมาเจอกับตัวเองทำให้รู้สึกเหนื่อย เบื่อ หมดไฟจะใช้ชีวิตมาก ตอนนี้พึ่งทำงานได้ 5 เดือนค่ะ โรงงานต่างจังหวัดคือหางาน Hr ค่อนข้างยาก เราควรทำไงดี เล่นสงครามประสาทคืนแกล้งทำเป็นเด็กหงอยซึมไปเลยดีปะ5555 หรือเราจะบวกกับคนประสาทพวกนี้ คือเราปรึกษาใครเขาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น hr ก็ต้องเป็นมิตรกับทุกคนสิจะได้เข้าถึงพนักงานได้ ไม่ใช่ทำดุวางมาดตลอดเวลา แล้วเราก็เป็นเด็กร่าเริงมากอยู่แล้วแต่ตอนนี้นอยด์กับประโยคที่ว่า "ที่พูดเพราะเห็นเป็นน้อง โตแล้วคิดเอา" **น้ำเสียงดุ แล้วก็ดึงหน้า ทุกวันต้องทำงานร่วมกัน เจอกันทุกวัน มันอึดอัด คิดมากนอนไม่หลับทำไงดี
มีปัญหากับคนที่ทำงานที่ไว้ใจมากๆ