เปิดความหมาย ‘ดอกเอเดลไวส์’ หลังชาวเน็ตตาดี ซูมรอยสัก ‘ลิซ่า’
หลังจากมีชาวเน็ตตาดี เห็นภาพรอยสักอยู่ที่บริเวณแผ่นหลังของ “ลิซ่า BLACKPINK” ที่ถ่ายกับทางนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ Harper’s BAZAAR จนทำให้บางคนรู้สึกว่า ลิซ่าไม่ควรจะสัก เพราะคนไทยถือว่า ผู้หญิงสัก ไม่ดี จนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมา เนื่องจากหลายคนมองว่า เป็นร่างกายของคนอื่นเขา จะไปเดือดร้อนอะไรด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการคาดกันว่า รอยสักของลิซ่าที่เห็นนั้น น่าจะเป็นลาย “ดอกเอเดลไวส์” ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับฉายาว่า เป็น “ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์”
จากข้อมูลของ เฟซบุ๊ก สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “ดอกเอเดลไวส์” (Edelweiss) เป็นดอกไม้ประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นพันธุ์ไม้ที่พบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในประเทศโซนยุโรป และเป็นดอกไม้ที่น่าหลงใหลแห่งเทือกเขาแอลป์ Edelweiss เป็นไม้ดอกขนาดเล็ก
ความหมายของดอกไม้นี้คือ “รักแท้” เพราะเชื่อกันว่าชายใดหากมอบดอกไม้นี้แก่หญิงสาว นั่นหมายถึง เขามีความมั่นคง มีความพยายาม เนื่องจากดอกไม้นี้จะบานเพียงปีละ 3 ครั้ง อีกทั้งว่ากันว่าหากเด็ดดอก Edelweiss มาแล้วรูปร่างของดอกจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือเหี่ยวเฉา
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหลายแหล่ง ระบุว่า ดอกเอเดลไวส์ มีชื่อเรียกหลากหลาย แต่ชื่อของ เอเดลไวส์ นั้นมาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า สูงศักด์ (edel) และขาว (weiss)
และชื่อเล่นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์” เนื่องจากมักจะขึ้นตามหน้าผา มีสีขาว มีขนปกคลุมทั้งดอกและใบ เพื่อป้องกันการระเหยน้ำ ซึ่งทำให้อยู่รอดในสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นจัดบนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,800-3,000 เมตร นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อคือ “ดอกไม้เมฆ” ด้วยมีความงามราวกับฝัน
ขณะที่ ยังไม่มีการยืนยันได้ว่า รอยสักของลิซ่านั้น เป็นรอยสักจริง หรือเป็นรูปดอกเอเดลไวส์ ใช่หรือไม่
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/social/news_3858770
เปิดความหมาย ‘ดอกเอเดลไวส์’ หลังชาวเน็ตตาดี ซูมรอยสัก ‘ลิซ่า’
หลังจากมีชาวเน็ตตาดี เห็นภาพรอยสักอยู่ที่บริเวณแผ่นหลังของ “ลิซ่า BLACKPINK” ที่ถ่ายกับทางนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ Harper’s BAZAAR จนทำให้บางคนรู้สึกว่า ลิซ่าไม่ควรจะสัก เพราะคนไทยถือว่า ผู้หญิงสัก ไม่ดี จนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมา เนื่องจากหลายคนมองว่า เป็นร่างกายของคนอื่นเขา จะไปเดือดร้อนอะไรด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการคาดกันว่า รอยสักของลิซ่าที่เห็นนั้น น่าจะเป็นลาย “ดอกเอเดลไวส์” ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับฉายาว่า เป็น “ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์”
จากข้อมูลของ เฟซบุ๊ก สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “ดอกเอเดลไวส์” (Edelweiss) เป็นดอกไม้ประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นพันธุ์ไม้ที่พบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในประเทศโซนยุโรป และเป็นดอกไม้ที่น่าหลงใหลแห่งเทือกเขาแอลป์ Edelweiss เป็นไม้ดอกขนาดเล็ก
ความหมายของดอกไม้นี้คือ “รักแท้” เพราะเชื่อกันว่าชายใดหากมอบดอกไม้นี้แก่หญิงสาว นั่นหมายถึง เขามีความมั่นคง มีความพยายาม เนื่องจากดอกไม้นี้จะบานเพียงปีละ 3 ครั้ง อีกทั้งว่ากันว่าหากเด็ดดอก Edelweiss มาแล้วรูปร่างของดอกจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือเหี่ยวเฉา
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหลายแหล่ง ระบุว่า ดอกเอเดลไวส์ มีชื่อเรียกหลากหลาย แต่ชื่อของ เอเดลไวส์ นั้นมาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า สูงศักด์ (edel) และขาว (weiss)
และชื่อเล่นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์” เนื่องจากมักจะขึ้นตามหน้าผา มีสีขาว มีขนปกคลุมทั้งดอกและใบ เพื่อป้องกันการระเหยน้ำ ซึ่งทำให้อยู่รอดในสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นจัดบนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,800-3,000 เมตร นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อคือ “ดอกไม้เมฆ” ด้วยมีความงามราวกับฝัน
ขณะที่ ยังไม่มีการยืนยันได้ว่า รอยสักของลิซ่านั้น เป็นรอยสักจริง หรือเป็นรูปดอกเอเดลไวส์ ใช่หรือไม่
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/social/news_3858770