“ดอกดารารัตน์”
“ดอกดารารัตน์” หรือ ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) เป็นดอกไม้ของประเทศเมืองหนาว อาจจะพบเห็นในแถบเอเชียบ้างบางสายพันธุ์ ซึ่งสายพันธุ์ของดอกไม้ชนิดนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 สายพันธุ์ มักจะออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ลักษณะลำต้นสูง 6 – 20 นิ้ว ใบเรียวยาวออกตามลำต้น ลักษณะดอกคล้ายปากทรัมเป็ต และมีฐานดอกทรงกลมรองอีกชั้น ออกดอกหลายสีตามแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองทอง สีขาว สีชมพู หรือบางชนิดก็มี 2 สีในดอกเดียวกัน เจริญเติบโตจากหัวที่เก็บสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม โดยเฉพาะชนิดที่ออกดอกสีเหลืองจะหอมมากเป็นพิเศษ
ความหมายของ “ดอกดารารัตน์” มีความลึกซึ้งซ่อนอยู่ โดยคำว่า ดารา หมายถึง ดวงดาว นั่นคือ สิ่งที่อยู่สูงสุด ส่วนคำว่า รัตน์ แปลว่า แก้ว คือ สิ่งที่มีค่า “สิ่งที่มีค่าสูงสุด” นิยมใช้มอบให้แก่คนที่รัก เพื่อบอกว่า ไม่เคยต้องการสิ่งใดตอบแทน อีกทั้ง ยังหมายถึง เกียรติยศ ความกล้าหาญ
สัญลักษณ์ของความหวังที่บอกว่าเป็น “ดอกไม้แห่งความทรงจำ” ก็เพราะว่าเมื่อครั้งที่ยังมิได้ราชาภิเษกสมรส ขณะนั้นพระราชินี หรือ ม.ร.ว.หญิงสิริกิติ์ กิติยากร ทรงประทับอยู่ที่ปารีส เนื่องจากพระบิดาของพระองค์ เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั้นทรงศึกษาและประทับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หากพอมีเวลาว่างครั้งใด ก็มักจะขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง ข้ามพรมแดนมาเยี่ยมเยียนพระราชินีอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เสด็จมา ก็จะมีดอกไม้มาให้พระราชินี และดอกไม้ที่พระองค์นำมาให้เป็นประจำก็คือ ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) หรือดอกดารารัตน์นั่นเอง
คำอธิบาย “อาจารย์สมภพ” เจ้าของสวน สมภพ ตลิ่งชัน
Cr.
https://www.kasetvoice.com/post/3825
ดอก Edelweiss
พืชอัลไพน์ที่พบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในประเทศโซนยุโรป ไม้ดอกขนาดเล็กที่ขึ้นในที่สูงตั้งแต่ 1,700 – 2,700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลของเทือกเขาแอลป์ เมื่อเด็ด ดอก Edelweiss มาแล้ว... รูปทรงจะไม่เปลี่ยนแปลง…ไม่เหี่ยว บางคนถึงกับเรียกว่า ดอกไม้แห่งความทรงจำชั่วนิรันดร์
ดอก Edelweiss ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ และเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บานเพียงปีละ 3 เดือน คนโบราณใช้แสดงเป็นตัวแทนความรัก โดยการมอบดอก Edelweiss ให้หญิงสาวแสดงถึงความรักแท้ เป็นดอกไม้ที่สูงส่ง เพราะขึ้นตามหน้าผา.ต้องใช้ความพยายามมาก สีขาวของเอเดลไวส์แทนความบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังมีชื่อภาษาละตินและกรีกด้วยว่า “floarea reginei” (Queen's flower หรือ ดอกไม้ของราชินี)
ดอก Edelweiss หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Leontopodium alpinum เป็นดอกไม้ที่จะขึ้นและบานบนภูเขา อยู่ในตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน ชื่อ Edelweiss มาจากภาษาเยอรมัน ได้แก่ คำว่า edel ซึ่งแปลว่า ประเสริฐ, สง่างาม, ชั้นสูง และคำว่า weiß (weiss) ซึ่งแปลว่า ขาว แปลรวมๆ แล้วก็น่าจะได้ทำนองว่า “สีขาวที่สง่างามและสูงส่ง” ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์แปลได้ว่า “อุ้งเท้าราชสีห์” เป็นพืชไม่มีพิษ และมีการใช้เป็นยาแผนโบราณในการรักษาอาการป่วยเกี่ยวกับช่องท้องหรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
Edelweiss เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากเอเซียกลาง คือ เทือกเขาอัลไต… ที่มองโกเลีย... ซึ่งที่นี่ดอก Edelweiss ขึ้นกระจายทั่วทุ่งหญ้ามากมาย…ไม่ต้องปีนเก็บเหมือนที่ยุโรป… ชาวพื้นเมืองเกี่ยวไปพร้อมต้นหญ้าใช้เลี้ยงสัตว์.... และผสมกับนม... ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง
(อ่านตำนานของดอก Edelwiess เพิ่มเติมได้ที่
http://zakuro.exteen.com/20081118/entry)
Credit :
http://www.bloggang.com/viewdiary.php…
Credit รูปภาพ :
http://www.fotocommunity.de/pc/pc/display/19991300
Cr.
https://www.facebook.com/motherthings/photos/edelweiss-ดอกไม้แห่งตำนานดอก-edelweiss-พืชอัลไพน์ที่พบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในปร/208167069394642/
ดอกไม้อโดนิส
ดอกไม้อโดนิส (Adonis aestivalis flower) ดอกไม้แห่งความรักและความทรงจำไม่เสื่อมคลาย
ตำนานของดอกอโดนิส ซึ่งมาจากชื่อของชายผู้เป็นที่รักของเทพีอโฟรไดท์(Aphrodite) หรือ Venus เทพีแห่งความงามและความรัก ที่เทพีอโฟรไดท์ตกหลุมรักอโดนิส แต่อโดนิสถูกอาเรส ผู้เป็นชู้ของเทพีอโฟรไดท์แปลงกายเป็นหมูป่าตัวใหญ่ มาหลอกล่อให้อโดนิสไล่ตามมันไปจนถึงกลางป่าลึก จากนั้นเจ้าหมูป่าก็หันกลับมาใช้เขี้ยวแทงเข้าที่กลางอกของอโดนิส จนเขาล้มลงนอนครวญครางอย่างเจ็บปวดอยู่ในกองเลือด
อโฟรไดท์เสียใจยิ่งนัก ยิ่งคิดว่าต่อจากนี้ไปนางจะไม่ได้เห็นคนรักอีกแล้ว ก็ยิ่งแค้นเทพแห่งชะตากรรม นางจึงประกาศว่าจะไม่ยอมให้วิญญาณคนรักต้องลงสู่อุ้งมือของเทพแห่งชะตากรรมที่รออยู่ในนรก จากนั้นนางก็เสกให้โลหิตแดงฉานของอโดนิสกลายเป็นดอกไม้แสนสวยสีแดง มีกลีบซับซ้อนหลายชั้น แล้วตั้งชื่อมันว่า ดอกอโดนิส แปลว่า ดอกตามลม เพราะดอกอโดนิสจะบานเมื่อถูกสายลมพัดผ่าน และจะอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะร่วงหล่นไป เหมือนดังชีวิตที่แสนสั้นของอโดนิสชายหนุ่มรูปงาม
ด้วยเหตุนี้ดอกอโดนิสจึงได้ถูกยกย่องให้เป็นดอกไม้แห่งความรัก หนุ่มสาวก็ใช้มันเพื่อแสดงความรักและความหวังดีกับคนที่รัก เหมือนดังความรัก อันบริสุทธิ์ ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนที่เทพีวีนัสมีต่ออโดนิส ในบางประเทศ ดอกอโดนิสเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำอันเศร้าสร้อย ถ้าได้รับดอกไม้นี้ แสดงว่าคนให้ต้องการบอกคุณว่า เขายังคงเก็บคุณไว้ในใจด้วยความหมองเศร้าไม่เสื่อมคลาย
Cr.ites.google.com/a/chemsources.co.th/dimethicone-crosspolymer/-adonis-aestivalis-flower
ดอกแวววิเชียร
ดอกแวววิเชียรดอกไม้แห่งความทรงจำ หรือ forger me not ในเขตเมืองร้อนบ้านเรา ลักษณะดอกจะไม่เป็นสีฟ้าเหมือนกับดอก forget me not ที่เขตเมืองหนาว แต่จะมีสีม่วงแก่ ม่วงอ่อน สีชมพู สีขาว ใบและดอกของแวววิเชียรนั้นมีกลิ่นหอมติดมือ ปลูกดูแลรักษาง่าย ชอบความชุ่มชื้น ทนทานต่อแสงแดดและแมลง
แวววิเชียร หรือ forget me not มีความหมายที่ีดี คือ อย่าลืมกัน อย่าลืมฉัน เป็นดอกไม้แห่งความทรงจำ มีตำนานเล่าต่อกันว่า มีอัศวินผู้กล้ากับสาวงามได้เดินชมจันทร์ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส สาวงามมองเห็นดอกไม้เล็กๆที่ขึ้นอยู่ริมแม่น้ำ เธอจึงวิงวอนให้อัศวินเก็บมาให้ แต่เมื่ออัศวินเอื้อมตัวไปเก็บดอกไม้นั้น ก็ได้ไถลลื่นตกน้ำลงไปแล้วด้วยเสื้อเกราะที่หนักมากจึงไม่สามารถว่ายน้ำได้ ก่อนที่อัศวินจะจมน้ำเขาโยนดอกไม้ให้สาวผู้เป็นที่รักแล้วตะโกนบอกว่า “โปรดอย่าลืมฉัน” จึงเป็นที่มาของดอก forget me not หรือ แวววิเชียรบ้านเรานั่นเอง
ขอบคุณที่มา sarapad.com/dada, oknation.net/blog/dada, oknation.net/blog/freesoultofly, dada.bloggang.com, suoa57@hotmail.com, By Mini Foxi, PW Proven Winners, baanlaesuan.com, FIYERO
Cr.
http://www.homedec.in.th/wp-content/uploads/2013/01/แวววิเชียร4.jpg
ดอกไลเซนธัส
เดอะไลเซนทัส ความทรงจำที่ไม่มีวันเลือน - The Lisianthus
ดอกไลเซนธัส มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eustoma grandiflorum เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Gentianaceae เป็นดอกที่มีลักษณะคล้าย ดอกกุหลาบแต่จะออกเป็นช่อดอก ไม่ใช่ดอกเดี่ยวเหมือนดอกกุหลาบ มีถิ่นก าเนิดแถบทวีปอเมริกาใต้ และน าเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นกว่า 60 ปี ลักษณะ จะเป็นกลีบบางๆอ่อนนุ่ม มีหลายสี เช่น สีชมพู สีพีช ขาวขอบชมพู โอรส และ ลาเวนเดอร์ เป็นต้น
ดอกไลเซนธัส มักถูกใช้ในการ จัดดอกไม้ ตกแต่งสถานที่ จัดช่อดอกไม้ ใช้แซมดอก หรือใบไม้ต่างๆ เพิ่มความสวยงาม เพราะมีลักษณะ คล้ายดอกกุหลาบ และมีหลากหลายสี อีกด้วย ในภาษาดอกไม้นั้น ดอกไลเซนธัส หมายความถึง มิตรภาพที่ยั่งยืน และความทรงจำดีๆ
ดอกไม้ชนิดนี้มีให้เห็นกันทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน ดอกไลเซนทัส จะบานสะพรั่ง ดอกสมบูรณ์ และปริมาณช่อดอก ก็จะมากขึ้นส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน
Cr.
https://www.floraisonflowers.com/article/9/เดอะไลเซนทัส-ความทรงจำที่ไม่มีวันเลือน-the-lisianthus
ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด
ดอกไม้แห่งความทรงจำที่ยิ่งใหญ่
“ดอกดารารัตน์” หรือ ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) เป็นดอกไม้ของประเทศเมืองหนาว อาจจะพบเห็นในแถบเอเชียบ้างบางสายพันธุ์ ซึ่งสายพันธุ์ของดอกไม้ชนิดนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 สายพันธุ์ มักจะออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ลักษณะลำต้นสูง 6 – 20 นิ้ว ใบเรียวยาวออกตามลำต้น ลักษณะดอกคล้ายปากทรัมเป็ต และมีฐานดอกทรงกลมรองอีกชั้น ออกดอกหลายสีตามแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองทอง สีขาว สีชมพู หรือบางชนิดก็มี 2 สีในดอกเดียวกัน เจริญเติบโตจากหัวที่เก็บสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม โดยเฉพาะชนิดที่ออกดอกสีเหลืองจะหอมมากเป็นพิเศษ
ความหมายของ “ดอกดารารัตน์” มีความลึกซึ้งซ่อนอยู่ โดยคำว่า ดารา หมายถึง ดวงดาว นั่นคือ สิ่งที่อยู่สูงสุด ส่วนคำว่า รัตน์ แปลว่า แก้ว คือ สิ่งที่มีค่า “สิ่งที่มีค่าสูงสุด” นิยมใช้มอบให้แก่คนที่รัก เพื่อบอกว่า ไม่เคยต้องการสิ่งใดตอบแทน อีกทั้ง ยังหมายถึง เกียรติยศ ความกล้าหาญ
สัญลักษณ์ของความหวังที่บอกว่าเป็น “ดอกไม้แห่งความทรงจำ” ก็เพราะว่าเมื่อครั้งที่ยังมิได้ราชาภิเษกสมรส ขณะนั้นพระราชินี หรือ ม.ร.ว.หญิงสิริกิติ์ กิติยากร ทรงประทับอยู่ที่ปารีส เนื่องจากพระบิดาของพระองค์ เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั้นทรงศึกษาและประทับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หากพอมีเวลาว่างครั้งใด ก็มักจะขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง ข้ามพรมแดนมาเยี่ยมเยียนพระราชินีอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เสด็จมา ก็จะมีดอกไม้มาให้พระราชินี และดอกไม้ที่พระองค์นำมาให้เป็นประจำก็คือ ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) หรือดอกดารารัตน์นั่นเอง
คำอธิบาย “อาจารย์สมภพ” เจ้าของสวน สมภพ ตลิ่งชัน
Cr.https://www.kasetvoice.com/post/3825
ดอก Edelweiss
พืชอัลไพน์ที่พบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในประเทศโซนยุโรป ไม้ดอกขนาดเล็กที่ขึ้นในที่สูงตั้งแต่ 1,700 – 2,700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลของเทือกเขาแอลป์ เมื่อเด็ด ดอก Edelweiss มาแล้ว... รูปทรงจะไม่เปลี่ยนแปลง…ไม่เหี่ยว บางคนถึงกับเรียกว่า ดอกไม้แห่งความทรงจำชั่วนิรันดร์
ดอก Edelweiss ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ และเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บานเพียงปีละ 3 เดือน คนโบราณใช้แสดงเป็นตัวแทนความรัก โดยการมอบดอก Edelweiss ให้หญิงสาวแสดงถึงความรักแท้ เป็นดอกไม้ที่สูงส่ง เพราะขึ้นตามหน้าผา.ต้องใช้ความพยายามมาก สีขาวของเอเดลไวส์แทนความบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังมีชื่อภาษาละตินและกรีกด้วยว่า “floarea reginei” (Queen's flower หรือ ดอกไม้ของราชินี)
ดอก Edelweiss หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Leontopodium alpinum เป็นดอกไม้ที่จะขึ้นและบานบนภูเขา อยู่ในตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน ชื่อ Edelweiss มาจากภาษาเยอรมัน ได้แก่ คำว่า edel ซึ่งแปลว่า ประเสริฐ, สง่างาม, ชั้นสูง และคำว่า weiß (weiss) ซึ่งแปลว่า ขาว แปลรวมๆ แล้วก็น่าจะได้ทำนองว่า “สีขาวที่สง่างามและสูงส่ง” ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์แปลได้ว่า “อุ้งเท้าราชสีห์” เป็นพืชไม่มีพิษ และมีการใช้เป็นยาแผนโบราณในการรักษาอาการป่วยเกี่ยวกับช่องท้องหรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
Edelweiss เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากเอเซียกลาง คือ เทือกเขาอัลไต… ที่มองโกเลีย... ซึ่งที่นี่ดอก Edelweiss ขึ้นกระจายทั่วทุ่งหญ้ามากมาย…ไม่ต้องปีนเก็บเหมือนที่ยุโรป… ชาวพื้นเมืองเกี่ยวไปพร้อมต้นหญ้าใช้เลี้ยงสัตว์.... และผสมกับนม... ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง
(อ่านตำนานของดอก Edelwiess เพิ่มเติมได้ที่ http://zakuro.exteen.com/20081118/entry)
Credit : http://www.bloggang.com/viewdiary.php…
Credit รูปภาพ : http://www.fotocommunity.de/pc/pc/display/19991300
Cr.https://www.facebook.com/motherthings/photos/edelweiss-ดอกไม้แห่งตำนานดอก-edelweiss-พืชอัลไพน์ที่พบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในปร/208167069394642/
ดอกไม้อโดนิส
ดอกไม้อโดนิส (Adonis aestivalis flower) ดอกไม้แห่งความรักและความทรงจำไม่เสื่อมคลาย
ตำนานของดอกอโดนิส ซึ่งมาจากชื่อของชายผู้เป็นที่รักของเทพีอโฟรไดท์(Aphrodite) หรือ Venus เทพีแห่งความงามและความรัก ที่เทพีอโฟรไดท์ตกหลุมรักอโดนิส แต่อโดนิสถูกอาเรส ผู้เป็นชู้ของเทพีอโฟรไดท์แปลงกายเป็นหมูป่าตัวใหญ่ มาหลอกล่อให้อโดนิสไล่ตามมันไปจนถึงกลางป่าลึก จากนั้นเจ้าหมูป่าก็หันกลับมาใช้เขี้ยวแทงเข้าที่กลางอกของอโดนิส จนเขาล้มลงนอนครวญครางอย่างเจ็บปวดอยู่ในกองเลือด
อโฟรไดท์เสียใจยิ่งนัก ยิ่งคิดว่าต่อจากนี้ไปนางจะไม่ได้เห็นคนรักอีกแล้ว ก็ยิ่งแค้นเทพแห่งชะตากรรม นางจึงประกาศว่าจะไม่ยอมให้วิญญาณคนรักต้องลงสู่อุ้งมือของเทพแห่งชะตากรรมที่รออยู่ในนรก จากนั้นนางก็เสกให้โลหิตแดงฉานของอโดนิสกลายเป็นดอกไม้แสนสวยสีแดง มีกลีบซับซ้อนหลายชั้น แล้วตั้งชื่อมันว่า ดอกอโดนิส แปลว่า ดอกตามลม เพราะดอกอโดนิสจะบานเมื่อถูกสายลมพัดผ่าน และจะอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะร่วงหล่นไป เหมือนดังชีวิตที่แสนสั้นของอโดนิสชายหนุ่มรูปงาม
ด้วยเหตุนี้ดอกอโดนิสจึงได้ถูกยกย่องให้เป็นดอกไม้แห่งความรัก หนุ่มสาวก็ใช้มันเพื่อแสดงความรักและความหวังดีกับคนที่รัก เหมือนดังความรัก อันบริสุทธิ์ ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนที่เทพีวีนัสมีต่ออโดนิส ในบางประเทศ ดอกอโดนิสเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำอันเศร้าสร้อย ถ้าได้รับดอกไม้นี้ แสดงว่าคนให้ต้องการบอกคุณว่า เขายังคงเก็บคุณไว้ในใจด้วยความหมองเศร้าไม่เสื่อมคลาย
Cr.ites.google.com/a/chemsources.co.th/dimethicone-crosspolymer/-adonis-aestivalis-flower
ดอกแวววิเชียร
ดอกแวววิเชียรดอกไม้แห่งความทรงจำ หรือ forger me not ในเขตเมืองร้อนบ้านเรา ลักษณะดอกจะไม่เป็นสีฟ้าเหมือนกับดอก forget me not ที่เขตเมืองหนาว แต่จะมีสีม่วงแก่ ม่วงอ่อน สีชมพู สีขาว ใบและดอกของแวววิเชียรนั้นมีกลิ่นหอมติดมือ ปลูกดูแลรักษาง่าย ชอบความชุ่มชื้น ทนทานต่อแสงแดดและแมลง
แวววิเชียร หรือ forget me not มีความหมายที่ีดี คือ อย่าลืมกัน อย่าลืมฉัน เป็นดอกไม้แห่งความทรงจำ มีตำนานเล่าต่อกันว่า มีอัศวินผู้กล้ากับสาวงามได้เดินชมจันทร์ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส สาวงามมองเห็นดอกไม้เล็กๆที่ขึ้นอยู่ริมแม่น้ำ เธอจึงวิงวอนให้อัศวินเก็บมาให้ แต่เมื่ออัศวินเอื้อมตัวไปเก็บดอกไม้นั้น ก็ได้ไถลลื่นตกน้ำลงไปแล้วด้วยเสื้อเกราะที่หนักมากจึงไม่สามารถว่ายน้ำได้ ก่อนที่อัศวินจะจมน้ำเขาโยนดอกไม้ให้สาวผู้เป็นที่รักแล้วตะโกนบอกว่า “โปรดอย่าลืมฉัน” จึงเป็นที่มาของดอก forget me not หรือ แวววิเชียรบ้านเรานั่นเอง
ขอบคุณที่มา sarapad.com/dada, oknation.net/blog/dada, oknation.net/blog/freesoultofly, dada.bloggang.com, suoa57@hotmail.com, By Mini Foxi, PW Proven Winners, baanlaesuan.com, FIYERO
Cr.http://www.homedec.in.th/wp-content/uploads/2013/01/แวววิเชียร4.jpg
ดอกไลเซนธัส
เดอะไลเซนทัส ความทรงจำที่ไม่มีวันเลือน - The Lisianthus
ดอกไลเซนธัส มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eustoma grandiflorum เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Gentianaceae เป็นดอกที่มีลักษณะคล้าย ดอกกุหลาบแต่จะออกเป็นช่อดอก ไม่ใช่ดอกเดี่ยวเหมือนดอกกุหลาบ มีถิ่นก าเนิดแถบทวีปอเมริกาใต้ และน าเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นกว่า 60 ปี ลักษณะ จะเป็นกลีบบางๆอ่อนนุ่ม มีหลายสี เช่น สีชมพู สีพีช ขาวขอบชมพู โอรส และ ลาเวนเดอร์ เป็นต้น
ดอกไลเซนธัส มักถูกใช้ในการ จัดดอกไม้ ตกแต่งสถานที่ จัดช่อดอกไม้ ใช้แซมดอก หรือใบไม้ต่างๆ เพิ่มความสวยงาม เพราะมีลักษณะ คล้ายดอกกุหลาบ และมีหลากหลายสี อีกด้วย ในภาษาดอกไม้นั้น ดอกไลเซนธัส หมายความถึง มิตรภาพที่ยั่งยืน และความทรงจำดีๆ
ดอกไม้ชนิดนี้มีให้เห็นกันทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน ดอกไลเซนทัส จะบานสะพรั่ง ดอกสมบูรณ์ และปริมาณช่อดอก ก็จะมากขึ้นส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน
Cr.https://www.floraisonflowers.com/article/9/เดอะไลเซนทัส-ความทรงจำที่ไม่มีวันเลือน-the-lisianthus
ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด