ความสัมพันธ์กับเพื่อน 10 ปี ไปต่อหรือพอแค่นี้?

เรื่องนี้มีหลายตัวละครนะคะ เพราะว่าเราจะมาเล่าเรื่องเรากับเพื่อนที่คบกันมา10ปีซึ่งมรกลุ่มเรามีกันเป็น10+คน
จะมี A,B,C เป็นตัวละครหลัก
เริ่มจาก B ที่เป็นเพื่อนกับเรามานานที่สุดแล้วก็สนิทที่สุด
Bเป็นLGBTQA+เพื่อนเป็นคนที่ชอบคนต่างชาติ เป็นคนติดหรู Bใช้เงินเก่งมากเพราะว่าบ้านเขาค่อนข้างมีเงิน
แม่เราเคยไปยืมเงินแม่B(หลักหมื่น)โดยที่ไม่บอกเรา เพื่อนเลยมาบอกเราเรื่องนี้ พอเรารู้เราก็เลยเอาเงินเราใช้คืนแทนแม่ไปครึ่งนึง
ตอนนั้นเราจิตตกมาก เสียใจมากเพราะเงินนั้นเราหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ตอนนั้นที่บ้านเราก็มีปัญหา
แต่เราไม่อยากเสียเพื่อนไปอีก เพราะเพื่อนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตของเราตอนนั้น
เพราะเรารู้สึกว่า เรื่องเงินมันสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของคนขาดได้ง่ายๆ

หลังจากนั้นสภาพการเงินของครอบครัวBก็ค่อยๆแย่ลงกว่าตอนที่มาบอกเราเรื่องเงินที่แม่เรายืมไปค่ะ
Bก็มายืมเงินเราบ่อยๆ เราให้ยืมทุกครั้งค่ะ ส่วนมากจะหลักพัน(ตอนนั้นถ้ามี3000ในบช.ละเพื่อนขอยืม3000เราก็ยอมอดเพื่อให้เพื่อนยืมก่อนค่ะ)
แรกๆเพื่อนก็คืนแบบไม่ต้องทวงค่ะ หลังๆก็ต้องทวงตลอด  ละจะเป็นการคืนแบบคืนวันที่1 ยืมต่อวันที่3มาตลอด
ก่อนหน้านี้ก็เคยยืมมาตั้งแต่ช่วงที่บ้านBไม่ได้ลำบากขัดสน เราเคยคิดดอกB พอBลำบากเราก็ไม่เคยคิดดอกเลย
อาจจะเป็นเหตุผลที่Bคืนช้ารึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนั้นเรารู้สึกผิดที่เราเคยคิดดอก

เรากับเพื่อนๆเป็นประเภทชอบเที่ยวกลางคืนค่ะ ช่วงที่Bยืมเงินเรา Bออกเที่ยวบ่อยขึ้น
แม่Bก็เริ่มโทรหาเราเพราะBไม่ยอมคุยกับแม่ เพราะแม่ไม่ให้เงินBค่ะ เรียกว่าไม่มีจะให้ก็ได้
เพราะตอนนั้นโควิด บ้านไหนก็เดือดร้อนค่ะ เรายังอยู่ได้เพราะหนี้ที่หลายๆคนยืมแล้วคืนมาเลย
แต่ประเด็นมันเริ่มตรงนี้ค่ะ 
ทั้งๆที่Bเที่ยวบ่อยขึ้น ไปกับเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่ม พาผช.ที่ปัดแอพไปเลี้ยงเพื่อนคนอื่นบ่อยๆ
แต่ไม่เคยชวนเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว เวลาเราไม่ได้ไป Bก็เอาเงินตัวเองเลี้ยงเพื่อนๆน้องๆในกลุ่ม
ตอนนั้นเราก็น้อยใจมากค่ะ เพราะไม่ใช่ครั้งเดียว มันหลายครั้งมาก
เราเกิดคำถามในใจว่า BมีเงินกินStarbuck ซื้อของใช้แพงๆอัพสตร พาคนนู้นคนนี้ไปเที่ยวเลี้ยงเหล้าคืนละหลายๆพัน
แต่ไม่คืนเงินเรา แล้วก็ยังยืมเราอยู่เรื่อยๆ คือเขาไม่คิดเหมือนอย่างเราเลยหรอว่าเรื่องนี้มันสำคัญมากๆ
เขาไม่คิดจะรักษาคสพ.10ปีเหมือนที่เราพยายามรักษาอยู่บ้างหรอ

เราก็คุยเรื่องนี้กับเขานะคะ ว่าเราน้อยใจนะ พอBรู้ก็จะซื้อขนมมาง้อเราบ้าง
เราก็หายโกรธง่ายๆนั่นแหละ แต่ถามว่าBง้อเสร็จแล้วทำเหมือนเดิมมั้ย ก็ทำ
เรางอน>เพื่อนง้อ>เราหายงอนวนอยู่แบบนั้น จนเราเลิกงอนแล้วปล่อยผ่านเลย

ทีนี้ก็มีเรื่องใหม่เข้ามาอีก สืบเนื่องจากที่Bพาเพื่อนๆน้องๆไปให้ผช.เลี้ยง
Bก็พาน้องในกลุ่มไปร้านแพงๆเลย รอบแรกผช.เลี้ยงหมด ทั้งBทั้งน้อง
รอบ2 Bเลยพาน้องไปร้านที่แพงกว่าเดิม แต่รอบนี้ผช.ไม่เลี้ยง
Bเลยโทรหาเรากลางดึกเลย เพื่อขอยืมเงินอีกครั้ง เราก็ เอาอีกแล้ว ให้อีกแล้ว ไม่หลาบไม่จำ

ต่อไปผช.อีกคนของB พาไปเลี้ยง Bก็พาน้องในกลุ่มอีกคนไป
ปรากฏว่าน้องที่พาไปแอบคุยกับผช.ของB Bก็ร้องไห้มาเล่าให้เราฟัง
ว่าเรื่องนี้Bรู้จากปากผช.ไม่ใช่จากน้อง ผช.จะเปย์ใครๆก็คว้าไว้
น้องไม่ง้อBเลยสักคำ ทีแรกBจะไม่ทักไปก่อนเพื่อจะเคลียร์ แต่เราบอกให้Bทักไปก่อนเอง
เรื่องมันจะได้จบ เพราะไม่งั้นBก็จะเครียด คิดมากไปตลอด เพราะน้องไม่ทักมาแน่
สุดท้ายเขาก็ดีกันจริงๆ ต่างกับครส.ตัวเองที่มีกับเพื่อนแล้วเพื่อนก็ไม่เคยคิดจะทำให้มันดีขึ้นบ้างเลย

เรากับเพื่อนไม่ได้เที่ยวกันนานมากเพราะเรียนจบแล้วเราก็ต้องทำงานเลยห่างๆกัน
ตอนนั้นว่างก็เลยนัดกับBว่าไปเที่ยวด้วยกัน สรุปBพาแฟนฝอกับเพื่อนBที่เราทั้งรู้จักและไม่รู้จักไปด้วย
ส่วนเราไปคนเดียวแบบบอกแฟนว่าไม่ต้องไปหรอก มีแต่เพื่อนเรา เรากลัวเขาอึดอัดแลเวก็อยากสนุกกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานด้วย
สรุปเพื่อนเข้ามาในร้าน ยืนสั่งเครื่องดื่มเสร็จ บอกเราว่าแฟนหิวข้าวจะพาแฟนไปกินข้าวเดี๋ยวมา
เราก็อ่าๆ เข้าใจไปเถอะ รีบมา เพราะเราไม่สนิทกับเพื่อนที่Bพามา 
ยืนไปได้ประมาณครึ่งชม. เพื่อนBเริ่มหายไปทีละคน แฟนเราก็ดันตามมา เราเลยไปรับที่หน้าร้าน
กลับเข้ามา Bก็ยังไม่มา เพื่อนBก็จะไปร้านอื่น เราโทรหาB แต่สรุปBอยู่บนแท็กซี่กับแฟนฝอแล้ว
เราร้องไห้กลางร้านเลยค่ะ คือแบบนึกสภาพคนทะเลาะกับแฟนเพื่อมาเที่ยวกับเพื่อน
แล้วแฟนตามมาเห็นสภาพเราโดนเพื่อนทิ้งป่ะ คือความสำคัญมันของเราที่มีกับเพื่อนมันชัดแบบตะโกนเลยอ่ะ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เรายังไม่ได้เล่า
ไว้มาต่อตัวละครอื่นๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่