45 นาที ของแดงเดือดที่เหมือนทีมคนละดิวิชั่นจริงๆ

ปีที่แล้ว ที่อัดแมนยูคาบ้านไป 0-5 ก็เรียกว่า เป็นประวัติศาสตร์แล้วนะ เพราะนับย้อนไปสกอร์นี้ ก็ยังไม่เคยเจอแดงเดือดนัดไหนที่คาบ้านด้วยสกอร์ขนาดนี้

มาปีนี้ ที่ฟอร์ม ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง กลายเป็น แมนยูกำลังลุ้น สี่แชมป์ ส่วนลิเวอร์พูลกำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนจากทีมกลางตาราง เป้าหมายคือ ท็อปโฟร์

เรียกได้ว่า สองทีมนี้ ตรงข้ามกันกับฤดูกาลที่แล้วอย่างสิ้นเชิง

เพราะฉะนั้น นัดนี้ แมนยูเชื่อว่า โอกาสล้างแค้น ลิเวอร์พูลให้พังคาบ้าน มีมาแล้ว ถึงฟอร์มช่วงหลังๆของลิเวอร์พูลจะเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ส่วน แมนยู ฟอร์มดีวันดีคืน เพิ่งคว้าแชมป์ ลีกคัพมา

เปิดมาครึ่งแรก ดูแมนยู มีโอกาสมากกว่าลิเวอร์พูลด้วยซ้ำ แต่ อลิซอนยังไม่พลาด และจังหวะของแมนยูยังไม่ลงตัวพอ แต่พอใกล้หมดเวลา เป็นลิเวอร์พูลฉวยโอกาสนำขึ้นปได้ก่อน จาก กัคโป

แน่นอนว่า นำแค่ลูกเดียว ครึ่งหลัง หลายๆคนก็คิว่า แมนยูต้องเปิดเกมบุกเอาคืน ส่วนลิเวอร์พูลต้องรอสวนแน่ๆ

ที่ไหนได้ เปิดมาครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยิงนำไปก่อนอีก จาก นูเนช แม้ใครจะมองว่า บอลมันเป็นใจกับลิเวอร์พูล แต่ดูจากรีเพลย์แล้วจะเห็นเลยว่า นักเตะลิเวอร์พูลเข้ามาบีบพื้นที่เร็ว ขณะที่ นักเตะแมนยูไม่มีใครเข้ามาช่วยแย่งบอลเลย ปล่อยคาเซมิโร่โดนรุม 3 หน้าเขตโทษตัวเอง พอเสียบอล แล้วมีช่องว่างให้จ่ายก็เรียบร้อย

ลูกที่สาม กำลังทำเกมบุกอยู่ดีๆ โดนลิเวอร์พูลสวน เฮนเดอร์สันดักบอลได้ในกรอบเขตโทษ ส่งให้กัคโป กัคโปจ่ายให้ซาลาห์ควบ แล้ววิ่งทำทาง ซาลาห์จ่ายให้กัคปยิงมุมแคบเป็น 3-0 ลิเวอร์พูลได้ลูกสาม จากผู้เล่นแค่สามคน

หลังจากนั้น นักเตะแมนยูก็เริ่มถอดใจกันแล้ว เหมือนหมดแรงไปดื้อๆ

ลูกที่สี่ก็ได้จากเกมสวนอีก ตัดบอลมาได้ในกรอบเขตโทษหน้าตัวเอง แต่เห็นเลยว่า ลิเวอร์พูลวิ่งขึ้นไปถึง 5 คน เท่าๆกับฝั่งแมนยู ที่ต้องวิ่งลงไปรับ เรียกว่า ลิเวอร์พูลไม่ผ่อนเกมเลย จะเอาเพิ่มให้ได้ และก็เป็นซาลาห์ ซัดลูกที่ 5 เข้าไปอย่างสวยงาม เพราะแมนยูยังไม่ทันฟอร์มเกมรับตัวเอง ซาลาห์เลยยืนโล่ง ถึงจะต้องใช้เท้าขวาที่ไม่ถนัดยิงก็เถอะ

ลูกที่ ห้าจากจังหวะเซ็ทพีช เทรนท์โยนเข้ากรอบเขตโทษ แต่แมนยูสกัดออกมาเข้าไปทางเฮนเดอร์สัน เฮนเดอร์สันโยนเข้ามาอีกที เป็นนูเนช ที่ไม่มีใครประกบเลย วิ่งโขกเข้าไปเป็นลูกที่ 5 หลังแมนยู เรียกว่า พังพินาศมาก นัดนี้

ลูกที่ หก ลูกนี้บางคนอาจจะว่าดวงดี แต่ ทำไมไม่มีใครตามซาลาห์ ปล่อยยืนโล่ง พอบอลกระเด็นมาถึงก็เรียบร้อย ลูกที่หก 

ลูกที่เจ็ด ส่งท้าย เฟอร์มิโน่ ที่กำลังจะกลายเป็นตำนาน กับแดงเดือดนัดสุดท้าย ลูกนี้ถือว่าทำเกมมาดี และยิงดีด้วย เรียกว่า หลังแมนยูคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว

สกอร์ที่ ลิเวอร์พูลยิงแมนยูถึง 7 ลูกนี่ ต้องนีบย้อนหลังไปกว่า 128 ปีเลยทีเดียว ประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 โน่นเลย

เป็นอีกนัดที่ผิดคาดแบบมากๆ ถึงใจใจจะเชื่อว่า ลิเวอร์พูลฟอร์มเริ่มกลับมาน่าจะสู้ได้แหละ แต่ไม่คิดว่า สกอร์จะไหลขนาดนี้ แถมเป็นครึ่งหลังที่โดนไป 6 ลูก

ถึงฤดูกาลนี้จะฟอร์มกาก โดนทีมเล็กถลุงมา แต่อย่างน้อยก็มีนัดแดงเดือดนัดนี้ให้โม้ไปได้อีกนานแสนนาน





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่