สวัสดีค่า เพื่อนๆชาวพันทิปที่รักยิ่ง
เมื่อปีที่แล้วเราตั้งใจไปชมปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์จะส่องแสงลอดผ่านบานประตูทั้ง 15 บานที่ปราสาทหินพนมรุ้ง
ตามที่เช็คข้อมูลของปี 2565 จะมีเดือนสุดท้ายคือ 5-7 ตุลาคม 2565 เวลา 17:55 น. ค่ะ
สรุปลางานเจ้านาย จองตั๋วเครื่องบิน รถเช่าเรียบร้อย ตั้งใจจะไปดูวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ค่ะ เลยบินไฟล์ทเช้ารีบบึ่งมาเลยค่ะ
สรุ๊ปปปป ฝนต๊กค่ะเพื่อนๆ (ฮาาาา) แต่เราเอ็นจอยมากนะคะ ในวันฟ้าฝนไม่เป็นใจ น่าจะด้วยช่วงวัยเราคือ อินกับสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานมาก ไม่รู้เพื่อนๆเป็นเหมือนกันไหม ? (มาแชร์กันได้ค่ะ) คืออยากรู้ว่าวิวัฒนาการสมัยก่อนหลายร้อยปี ทำไมเค้าสามารถสร้างศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบนี้ขึ้นมาได้ เพราะเครื่องไม้เครื่องมือก็ยังไม่พร้อมเท่ากับปัจจุบันนี้ มันน่าทึ่งมากในการใช้ความคิด วางแผน ออกแบบ สร้างขึ้น โดยใช้แรงคน มหัศจรรย์จริงๆค่ะ
...เอาล่ะได้เวลามารู้จักปราสาทพนมรุ้งพร้อมๆกันนะคะ
ปราสาทหินพนมรุ้ง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นปราสาทหินเก่าแก่ที่สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าที่ดับสนิทไปแล้วในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งบริเวณนี้ในอดีตมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากทำผู้คนต่างเข้ามาตั้งถิ่นฐานจนขยายมาเป็นชุมชนใหญ่ คำว่า 'พนมรุ้ง' มาจากภาษาเขมร แปลว่า 'ภูเขาใหญ่' และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆทำให้สันนิษฐานว่าประสาทพนมรุ้งถูกสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15 - 17 เพื่อเปรียบเสมือนเป็นที่ประทับของพระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย โดยต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอม ได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นวัดมหายานในทางพุทธศาสนสถานและได้มีการบูรณะก่อสร้างมาเรื่อยๆหลายสมัย
Source: th.trip.com
ปัจจุบันปราสาทพนมรุ้ง (Phanom Rung Historical Park) กำลังรอพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (Buriram United) ได้นำไปเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของทีม และยังปรากฏอยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดบุรีรัมย์ที่ว่า "เมืองปราสาทหิน ถื่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม"
ลองเทียบโลโก้ Buriram United กับ ปราสาทพนมรุ้ง (ภาพล่างนะคะ)
ต้องให้เครดิตคนคิด คนออกแบบค่ะ
ไฮไลต์ที่ตั้งใจมาดูให้เห็นกับตาในทริปนี้คือ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ของปราสาทพนมรุ้ง (Narai Bandhomsindhu lintel) ที่สถาบันศิลปะ ชิคาโก้ ได้ส่งคืนสู่ประเทศไทยในนามของศาตราจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์
Source: thainewsonline.co
wesmailemagazine.com
ปราสาทแห่งนี้ยังมีสิ่งน่าอัศจรรย์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสายเลยคือ ปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน ที่จะมีเพียง 4 ครั้งต่อปีเท่านั้น ปี 2565 คือ
พระอาทิตย์ตก
- วันที่ 5-7 มีนาคม เวลา 18.15 น. (รอบแรกของปี 2565)
- วันที่ 5-7 ตุลาคม เวลา 17.55 น.
พระอาทิตย์ขึ้น
- วันที่ 3-5 เมษายน เวลา 06.03 น.
- วันที่ 8-10 กันยายน เวลา 05.57 น.
ในแต่ละปีจะเกิดปรากฏการณ์ทั้งหมด 4 ครั้ง แบ่งเป็นพระอาทิตย์ตก 2 ครั้ง และพระอาทิตย์ขึ้น 2 ครั้ง ทั้งนี้ การจะได้เห็นปรากฏการณ์นี้อย่างสมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับสภาพปัจจัยแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศ เพราะหากมีฝนหรือเมฆหมอกหนาก็อาจทำให้มองไม่เห็น
โดยมีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้ชมแสงที่สองผ่านช่องประตูนั้น จะเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปีอีกด้วย ใครที่สนใจอยากจะมาชมความงามและอลังการของปราสาทหินพนมรุ้ง แนะนำว่าให้มาช่วงนี้เลยค่ะ
Source: travel.kapook.com
ใครได้ไปเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้งแล้ว มาแชร์กันได้นะคะ ส่วนตัวเราคือ ชอบมากประทับใจมาก ถึงแม้จะไม่ได้เห็นปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ แต่รู้สึกถึงความเขียวขจี รื่นรมย์ และความอัศจรรย์ของปราสาทพนมรุ้งได้เป็นอย่างดี แค่นี้ก็คุ้มค่าในหัวจิตหัวใจมากแล้วค่ะ
#ปราสาทหินพนมรุ้ง #เที่ยวไทย #จังหวัดบุรีรัมย์ #โบราณสถาน #thailand #amazingthailand
- ขอให้พลังดีๆจงมีแก่เราทุกคนในการใช้ชีวิต - 🙌🏽
*All rights to images belongs to @VIEWnimal.*
[CR] ปราสาทหินพนมรุ้ง ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ไม่เจอพระอาทิตย์แต่เจอฝนแทน ความชุ่มฉ่ำเขียวขจีจึงทำฉันใจฟูในทริปนี้
เมื่อปีที่แล้วเราตั้งใจไปชมปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์จะส่องแสงลอดผ่านบานประตูทั้ง 15 บานที่ปราสาทหินพนมรุ้ง
ตามที่เช็คข้อมูลของปี 2565 จะมีเดือนสุดท้ายคือ 5-7 ตุลาคม 2565 เวลา 17:55 น. ค่ะ
สรุปลางานเจ้านาย จองตั๋วเครื่องบิน รถเช่าเรียบร้อย ตั้งใจจะไปดูวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ค่ะ เลยบินไฟล์ทเช้ารีบบึ่งมาเลยค่ะ
สรุ๊ปปปป ฝนต๊กค่ะเพื่อนๆ (ฮาาาา) แต่เราเอ็นจอยมากนะคะ ในวันฟ้าฝนไม่เป็นใจ น่าจะด้วยช่วงวัยเราคือ อินกับสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานมาก ไม่รู้เพื่อนๆเป็นเหมือนกันไหม ? (มาแชร์กันได้ค่ะ) คืออยากรู้ว่าวิวัฒนาการสมัยก่อนหลายร้อยปี ทำไมเค้าสามารถสร้างศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบนี้ขึ้นมาได้ เพราะเครื่องไม้เครื่องมือก็ยังไม่พร้อมเท่ากับปัจจุบันนี้ มันน่าทึ่งมากในการใช้ความคิด วางแผน ออกแบบ สร้างขึ้น โดยใช้แรงคน มหัศจรรย์จริงๆค่ะ
...เอาล่ะได้เวลามารู้จักปราสาทพนมรุ้งพร้อมๆกันนะคะ
ปราสาทหินพนมรุ้ง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นปราสาทหินเก่าแก่ที่สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าที่ดับสนิทไปแล้วในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งบริเวณนี้ในอดีตมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากทำผู้คนต่างเข้ามาตั้งถิ่นฐานจนขยายมาเป็นชุมชนใหญ่ คำว่า 'พนมรุ้ง' มาจากภาษาเขมร แปลว่า 'ภูเขาใหญ่' และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆทำให้สันนิษฐานว่าประสาทพนมรุ้งถูกสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15 - 17 เพื่อเปรียบเสมือนเป็นที่ประทับของพระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย โดยต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอม ได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นวัดมหายานในทางพุทธศาสนสถานและได้มีการบูรณะก่อสร้างมาเรื่อยๆหลายสมัย
Source: th.trip.com
ปัจจุบันปราสาทพนมรุ้ง (Phanom Rung Historical Park) กำลังรอพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (Buriram United) ได้นำไปเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของทีม และยังปรากฏอยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดบุรีรัมย์ที่ว่า "เมืองปราสาทหิน ถื่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม"
ลองเทียบโลโก้ Buriram United กับ ปราสาทพนมรุ้ง (ภาพล่างนะคะ)
ต้องให้เครดิตคนคิด คนออกแบบค่ะ
ไฮไลต์ที่ตั้งใจมาดูให้เห็นกับตาในทริปนี้คือ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ของปราสาทพนมรุ้ง (Narai Bandhomsindhu lintel) ที่สถาบันศิลปะ ชิคาโก้ ได้ส่งคืนสู่ประเทศไทยในนามของศาตราจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์
Source: thainewsonline.co
wesmailemagazine.com
ปราสาทแห่งนี้ยังมีสิ่งน่าอัศจรรย์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสายเลยคือ ปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน ที่จะมีเพียง 4 ครั้งต่อปีเท่านั้น ปี 2565 คือ
พระอาทิตย์ตก
- วันที่ 5-7 มีนาคม เวลา 18.15 น. (รอบแรกของปี 2565)
- วันที่ 5-7 ตุลาคม เวลา 17.55 น.
พระอาทิตย์ขึ้น
- วันที่ 3-5 เมษายน เวลา 06.03 น.
- วันที่ 8-10 กันยายน เวลา 05.57 น.
ในแต่ละปีจะเกิดปรากฏการณ์ทั้งหมด 4 ครั้ง แบ่งเป็นพระอาทิตย์ตก 2 ครั้ง และพระอาทิตย์ขึ้น 2 ครั้ง ทั้งนี้ การจะได้เห็นปรากฏการณ์นี้อย่างสมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับสภาพปัจจัยแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศ เพราะหากมีฝนหรือเมฆหมอกหนาก็อาจทำให้มองไม่เห็น
โดยมีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้ชมแสงที่สองผ่านช่องประตูนั้น จะเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปีอีกด้วย ใครที่สนใจอยากจะมาชมความงามและอลังการของปราสาทหินพนมรุ้ง แนะนำว่าให้มาช่วงนี้เลยค่ะ
Source: travel.kapook.com
ใครได้ไปเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้งแล้ว มาแชร์กันได้นะคะ ส่วนตัวเราคือ ชอบมากประทับใจมาก ถึงแม้จะไม่ได้เห็นปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ แต่รู้สึกถึงความเขียวขจี รื่นรมย์ และความอัศจรรย์ของปราสาทพนมรุ้งได้เป็นอย่างดี แค่นี้ก็คุ้มค่าในหัวจิตหัวใจมากแล้วค่ะ
#ปราสาทหินพนมรุ้ง #เที่ยวไทย #จังหวัดบุรีรัมย์ #โบราณสถาน #thailand #amazingthailand
- ขอให้พลังดีๆจงมีแก่เราทุกคนในการใช้ชีวิต - 🙌🏽
*All rights to images belongs to @VIEWnimal.*
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้