เวนดี้ (มิเชล วิลเลียมส์) หญิงสาวจากอินเดียน่ากำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ลำบาก เนื่องจากสถานะทางการเงินที่เลวร้าย
เธอเดินทางด้วยรถเก่าพร้อมกับ ลูซี่ สุนัขคู่ใจ เพื่อเดินทางไปหางานทำที่อลาสก้า
ระหว่างแวะที่โอริกอน รถเธอเสียขึ้นมา ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเงิน เวนดี้แอบขโมยอาหารสุนัขในซูเปอร์มาร์เก็ต
เธอถูกจับได้ และพาไปทำประวัติที่สถานีตำรวจ แต่เมื่อเธอกลับไปยังจุดที่เธอผูกลูซี่ไว้ ปรากฏว่ามันหายไปแล้ว...
ด้วยความที่มีเงินอย่างจำกัด ทำให้เวนดี้ ต้องอาศัยห้องน้ำปั๊ม ในการล้างหน้าล้างตา
แอบนอนในที่สาธารณะเพราะรถโดนลากไปซ่อมที่อู่ ต้องเก็บขวดไปขาย
หนำซ้ำกำลังใจเดียวที่ทำให้เธอใช้ชีวิตไปต่อได้อย่าง ลูซี่ ก็หายไปซะอีก
ในตัวหนัง เรารู้แค่เพียงว่า เวนดี้ มีพี่สาวอยู่ที่อินเดียน่า ที่เหลือจากนั้นเราแทบไม่รู้เลยว่า ชีวิตของเธอเป็นมาอย่างไร ก่อนที่จะออกเดินทางพร้อมกับ ลูซี่ ..รู้แค่นี้เวลานี้ เธอติดอยู่ในโอเรกอน กับรถที่พังไปไหนต่อไม่ได้ และสุนัขของเธอก็หายไป ..
เวนดี้ที่เราเห็นคือ หญิงสาวที่หิวโหย เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในที่ที่เธอไม่รู้จักใครเลยสักคน
เวนดี้ ได้พบกับผู้คนมากมายระหว่างการเดินทาง ..แต่คนที่เป็นเสมือนกับน้ำทิพย์ชโลมใจเวนดี้ (รวมถึงผู้ชมอย่างเราด้วย)
ก็คือ คุณลุงรักษาความปลอดภัยที่จอดรถ (Wally Dalton) ซึ่งมีหน้าที่ยืนดูที่จอดรถซึ่งส่วนใหญ่ว่างเปล่าเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
และป้องกันภัยคุกคามที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น... คุณลุงคอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ พูดคุยกับเวนดี้เสมอ
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนเดียวที่เห็น เวนดี้ มีตัวตนในเมืองแห่งนี้เลยก็ว่าได้
ประเด็นที่ผมว่าหนังต้องการจะสื่อถึงคือกลุ่มคนเร่ร่อน หรือคนไร้บ้านที่ใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวบนท้องถนนซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามผลักดันให้จัดที่พักให้เพียงพอสำหรับคนไร้บ้าน ขณะที่การใช้ชีวิตของบางรายอาจยากลำบากกว่าเดิม
บางคนที่มีสุนัขเป็นเพื่อนคู่ชีพ ก็ต้องพลัดพรากกันไป เมื่อมีหน่วยงานมาช่วยรับเลี้ยงไปเมื่อเจ้าของได้ที่พัก .ทั้งๆที่เจ้าสี่ขานี่ล่ะ ที่เป็นเพื่อนคนเดียวของเขา
Wendy and Lucy เป็นตัวอย่างนึงของคนที่ถูกสังคมผลักออกมา จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่หนังไม่ได้อธิบายไว้
แต่ทุกวันนี้ เราก็ได้เห็นผู้คนยากลำบากตามท้องถนนอีกมากมาย ที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือ
เพราะแน่นอนว่า หากเลือกได้ พวกเขาคงไม่อยากมีชีวิตอย่างที่กำลังเป็น...
สุดท้ายแล้ว เวนดี้ จะหาลูซี่ เจอหรือไม่ แล้วเธอจะได้ไปทำงานที่อลาสก้า ตามความตั้งใจของเธอหรือเปล่า...
กับบทสรุปสุดท้ายของหนัง หากเป็นผม.. ผมคงทำแบบเดียวกับเธอ....
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Wendy and Lucy (2008) หญิงสาวเร่ร่อน กับสุนัขที่หายไป... ==
เวนดี้ (มิเชล วิลเลียมส์) หญิงสาวจากอินเดียน่ากำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ลำบาก เนื่องจากสถานะทางการเงินที่เลวร้าย
เธอเดินทางด้วยรถเก่าพร้อมกับ ลูซี่ สุนัขคู่ใจ เพื่อเดินทางไปหางานทำที่อลาสก้า
ระหว่างแวะที่โอริกอน รถเธอเสียขึ้นมา ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเงิน เวนดี้แอบขโมยอาหารสุนัขในซูเปอร์มาร์เก็ต
เธอถูกจับได้ และพาไปทำประวัติที่สถานีตำรวจ แต่เมื่อเธอกลับไปยังจุดที่เธอผูกลูซี่ไว้ ปรากฏว่ามันหายไปแล้ว...
ด้วยความที่มีเงินอย่างจำกัด ทำให้เวนดี้ ต้องอาศัยห้องน้ำปั๊ม ในการล้างหน้าล้างตา
แอบนอนในที่สาธารณะเพราะรถโดนลากไปซ่อมที่อู่ ต้องเก็บขวดไปขาย
หนำซ้ำกำลังใจเดียวที่ทำให้เธอใช้ชีวิตไปต่อได้อย่าง ลูซี่ ก็หายไปซะอีก
ในตัวหนัง เรารู้แค่เพียงว่า เวนดี้ มีพี่สาวอยู่ที่อินเดียน่า ที่เหลือจากนั้นเราแทบไม่รู้เลยว่า ชีวิตของเธอเป็นมาอย่างไร ก่อนที่จะออกเดินทางพร้อมกับ ลูซี่ ..รู้แค่นี้เวลานี้ เธอติดอยู่ในโอเรกอน กับรถที่พังไปไหนต่อไม่ได้ และสุนัขของเธอก็หายไป ..
เวนดี้ที่เราเห็นคือ หญิงสาวที่หิวโหย เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในที่ที่เธอไม่รู้จักใครเลยสักคน
เวนดี้ ได้พบกับผู้คนมากมายระหว่างการเดินทาง ..แต่คนที่เป็นเสมือนกับน้ำทิพย์ชโลมใจเวนดี้ (รวมถึงผู้ชมอย่างเราด้วย)
ก็คือ คุณลุงรักษาความปลอดภัยที่จอดรถ (Wally Dalton) ซึ่งมีหน้าที่ยืนดูที่จอดรถซึ่งส่วนใหญ่ว่างเปล่าเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
และป้องกันภัยคุกคามที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น... คุณลุงคอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ พูดคุยกับเวนดี้เสมอ
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนเดียวที่เห็น เวนดี้ มีตัวตนในเมืองแห่งนี้เลยก็ว่าได้
ประเด็นที่ผมว่าหนังต้องการจะสื่อถึงคือกลุ่มคนเร่ร่อน หรือคนไร้บ้านที่ใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวบนท้องถนนซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามผลักดันให้จัดที่พักให้เพียงพอสำหรับคนไร้บ้าน ขณะที่การใช้ชีวิตของบางรายอาจยากลำบากกว่าเดิม
บางคนที่มีสุนัขเป็นเพื่อนคู่ชีพ ก็ต้องพลัดพรากกันไป เมื่อมีหน่วยงานมาช่วยรับเลี้ยงไปเมื่อเจ้าของได้ที่พัก .ทั้งๆที่เจ้าสี่ขานี่ล่ะ ที่เป็นเพื่อนคนเดียวของเขา
Wendy and Lucy เป็นตัวอย่างนึงของคนที่ถูกสังคมผลักออกมา จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่หนังไม่ได้อธิบายไว้
แต่ทุกวันนี้ เราก็ได้เห็นผู้คนยากลำบากตามท้องถนนอีกมากมาย ที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือ
เพราะแน่นอนว่า หากเลือกได้ พวกเขาคงไม่อยากมีชีวิตอย่างที่กำลังเป็น...
สุดท้ายแล้ว เวนดี้ จะหาลูซี่ เจอหรือไม่ แล้วเธอจะได้ไปทำงานที่อลาสก้า ตามความตั้งใจของเธอหรือเปล่า...
กับบทสรุปสุดท้ายของหนัง หากเป็นผม.. ผมคงทำแบบเดียวกับเธอ....
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===