เรื่องที่โคตรเจ็บจนต้องจบ เมื่อแฟนบอกไปหาหมอสิวที่ Esplanad แต่ไปโผล่ที่คอนโด Emerald Residence Ratchada

ตั้งแต่คบกับผู้ชายคนนี้ มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ชีวิตที่เคยปังๆ กลับโคตรพัง ที่เขียนเพื่ออยากให้เป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับความรัก เพราะความรัก ความปรารถนาดี หรือแม้แต่การให้อภัยเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า มันไม่ได้จะทำให้ผู้ชายคนนึงเปลี่ยนนิสัย ยอมหยุดโกหก หยุดหลอกลวงเราเลย  
 
ซึ่งปัญหาของชั้นคือ ให้อภัยๆๆๆๆๆ เค้าจะเปลี่ยน เค้าจะดีขึ้น เพราะเรารักกัน เราจะประคองกันไป เราจะผ่านทุกอย่างไปได้ ชั้นท่องคำเหล่านี้อยู่ตลอด แต่สุดท้ายหนังรักโง่ๆ น้ำเน่า ยิ่งกว่าคลองแสนแสบ เรื่องนี้มันก็จบแบบเดิม มันไม่ได้เป็นอย่างที่ชั้นหวัง หรือคิดเอาไว้เลยค่ะ
 
ดังนั้นอุทาหรณ์เรื่องนี้ขอให้สอนใจทุกคนว่า รักใคร ชอบใคร มองที่ความจริง อย่ามองที่ความหวังว่าเค้าจะเปลี่ยน
 
และเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้เราเจ็บ เราเจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน เราเจ็บยิ่งกว่าเอาเกลือทาแผลร้อนในก็ว่าได้ ทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ ในสมองคิดภาพต่างๆนานา มโนไปได้เรื่อยๆ และมันก็ยากที่จะปล่อยวาง
 
เข้าเรื่องเลย.. เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้แฟนเราเอารถไปเข้าอู่ เค้าบอกเราเสร็จสรรพว่าจะไปถึงอู่เวลาไหน นั่งรอรถที่อู่จากกี่โมงถึงกี่โมง แล้วค่อยกลับมาหาที่รักอย่างเรา พอช่วงกลางวัน หลังจากเราเสร็จธุระ เราก็คิดถึงที่รักของเราขึ้นมาทันที เกิดจะเป็นห่วงว่าเค้าจะต้องรอนานมั๊ย เค้าจะกลับก่อนมั๊ย เค้าจะกลับยังไง จะให้เราไปรับมั๊ย เราเลยโทรหาแฟนสุดที่รักของเรา
 
เอ๊ะ!! แปลก นั่งรอรถยังไง ทำไมไม่รับสายโทรศัพท์ ทั้งๆที่ก็ว่างนิ ดิชั้นเลยจัดให้ โทรไปแบบเฟสไทม์ โทรๆๆ จิกๆๆเป็นไก่ แต่ใช่ว่าจะรับนะคะ อาจจะยุ่งเข้าได้เข้าเข็ม หรืออยู่ในช่วงไคลแมกซ์อยู่ก็ได้ ท้ายสุดคุณแฟนก็รับสาย แต่ที่น่าแปลกใจคือ คุณเธอกำลังเดินอยู่ข้างทางที่ไหนสักแห่ง หน้าตาโมโหโทโส ก็คงเป็นเพราะดิชั้นคงโทรไปผิดเวลา อาจจะกำลังฟัดกันนัวเนียและถูกขัดจังหวะก็เป็นได้ และการสนทนาผ่านการเฟสไทม์จึงเริ่มขึ้น 
 
ดิชั้น: อยู่ที่ไหนคะ ทำไมมาเดินข้างนอกแบบนี้ 
แฟน: อ่อ พอดีมาหาหมอสิวที่เอสพลานาท แต่แท็กซี่ขับพาเลย 
 
ด้วยความที่แฟนดิชั้นรอบจัด มีการเอาหูแนบหน้าจอขณะเฟสไทม์ และบอกว่าไม่ได้ยินๆๆๆ อะไรนะๆๆๆ เก่งเนอะ มุกนี้ เรียกว่าทำเนียนแท้ แต่ในความเป็นจริงคือ "ซวยล่ะ แมร่งจะรู้ความจริงมั๊ย" และเป็นการซื้อเวลาอย่างชาญฉลาด อีกทั้งเอาหน้าแนบโทรศัพท์เพื่อให้เราไม่รู้ว่ามันอยู่แถวไหน พยายามปิดบังบรรยากาศป้ายต่างๆ รอบข้างให้มากที่สุด 
 
แต่สิ่งที่ชั้นเอะใจคือ เค้าเดินออกมาเหมือนออกมาจากในซอยเงียบๆ ลักษณะเหมือนคอนโด และสิ่งที่ตาดิชั้นกวาดไปเห็นตอนเฟสไทม์กันนั้น คือ ป้ายตัว E สีเขียว ที่มีฟ้อนตัวหนังสือเดียวกันกับโรงแรมดิเอมรัล รัชดา 
 
ด้วยความที่ชั้นอยากเริ่มกินข้าว และเลิกกินหญ้า อีกทั้งเผื่อว่าเขาที่งอกบนหัว จะหายไป ดิชั้นเลยยูเทิร์นขับรถไปแหล่งเกิดเหตุ และโทรซักถามแฟนดิชั้นไปในเวลาเดียวกัน 
 
คำตอบที่ได้จากแฟนโดยละเอียดคือ สิ่งที่คุณคิดมันไม่แฟร์ มันไม่ใช่ความจริง ผมตั้งใจไปหาหมอสิวที่เอสพลานาด แต่แท็กซี่ขับเลย และมันหาที่จอดไม่ได้ มันเลยเลยไปเลี้ยวจอดที่ปากซอย โรงแรม ดิเอมอรัล รัชดา 
 
เมื่อได้ยินดังนั้นดิชั้นเลยรีบเหยียบคันเร่งไปดูให้เห็นกับตา ต่อมนักสืบโคนัน และอดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดหนัก จนขับไปถึงที่หน้าตึกเอสพลานาท แม่เจ้าาาาาาาาา ทำไมถึงดูถูกสติปัญญาเรามากขนาดนี้ สงสัยคิดว่าเราคงโง่....... ควาย 100% ไม่มีวัวผสมเป็นแน่แท้ เพราะหากพี่แท็กซี่ขับเลยจริงๆ ก็ยังมีตึกไทยประกันชีวิตที่จอดให้สุดที่รักชั้นเดินกลับไปเอสพลายาทได้ และถ้าขับเลยต่อมายังคงมีห้างบิ๊กซี และถ้าขับเลยมาอีกยังคงมีเดอะสตรีท ดังนั้นจากเอสพลานาดแท็กซี่ขับเลยมาถึง ซอยโรงแรมดิเมอรัล ซึ่งใช้ระยะทางกิโลกว่า เป็นเรื่องโกหกที่ดูถูกสติปัญญาคนฟังเป็นอย่างมาก 
 
ท้ายสุดดิชั้นเลยขับรถเข้าไปดูในซอยโรงแรมเอสพลานาด เมื่อเข้าไปสุดซอยดิชั้นก็ได้พบเจอกับคำตอบกับป้ายตัว E สีเขียว ฟ้อนท์เดียวกันกับฟ้อนท์ โรงแรมดิเอเมอรัล นั่นกิคิอ ป้ายคอนโด อิเมอรัล เรซิเดนส์ รัชดา 



และคำถามที่วนเวียนในหัวเราเสมอๆนะ คือทำไมแฟนเราไม่เคยคิดบ้างว่าสิ่งที่ทำมันผิดแต่กลับมายืนยัน นั่งยัน แบบกระต่ายขาเดียว ว่ามาหาหมอสิวที่เอสพลานาด แต่เฟสไทม์มาโผล่เดินออกมาจากคอนโดนี้ และไม่ว่าเราจะถามกี่ครั้ง แฟนเราบอกว่า เค้ามาหาหมอสิว แท็กซี่พาเลย ทำไมคุณไม่ฟัง และการที่คุณจะเลิกกับผมเพราะเรื่องนี้ มันไม่แฟร์ เพราะผมไม่ได้ทำผิดอะไร (เฮ้ยยยย!!!! สติค่ะ คุณรู้ดีที่สุดว่าสิ่งที่คุณทำมันผิดมากแค่ไหน และถ้ากลับกัน ถ้าคุณจับได้ว่าเราออกมาจากคอนโดผู้ชาย และมาโกหกคุณแบบนี้บ้าง คุณจะรู้สึกยังไง)
 
มาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสัก 12 ชม จากเวลาที่เกิดเหตุ เราพยายามนะ เราพยายามคิดหาเหตุผลที่จะเข้าข้างแฟนเรา เราพยายามจะบอกตัวเองว่า เค้าคงขึ้นไปเล่นโดมิโน่กะใครบนคอนโดก็ได้ หรือเค้าคงหิวแค่แวะกินจาจังเหมี่ยนที่นั่น หึ!!! เราก็อยากจะโง่กว่านี้ แต่เราโง่ได้แค่นี้จริงๆ เพราะเราหาเหตุผลเข้าข้างสุดที่รักของเราไมไ่ด้เลยจริงๆ และยิ่งนึกย้อนถึงตอนเฟสไทม์ถึงสีหน้าที่โมโหเรามาก เราก็คิดได้แค่ว่า ตอนเราเฟสไทม์หา เราคงไปขัดจังหวะรัก ไปขัดจังหวะเร่งเครื่องของที่รักเรากะสาวรัชดาละมั้ง เอาว่าเค้าขอโทษนะคะที่รัก ต่อไปเค้าจะไม่ไปขัดจังหวะมันส์ๆของคุณอีกกับสาวรัชดาอีก เพราะเค้าคงไม่อยู่เป็นก้างขวางคอชีวิตคุณอีกแล้วล่ะค่ะ คุณสบายใจได้น้า 
 
และถ้าสุดที่รักของเราได้มีโอกาสอ่านกระทู้นี้ เราอยากบอกคุณว่า เราลืมไม่ได้จริงๆ กับเหตุการณ์วันนี้ และคำพูดของคุณที่ว่า คุณไม่มีทางเอาผู้หญิงคนไหนมาเสี่ยงที่จะเสียเค้าไป แต่เราเชื่อว่าคุณคิดดีแล้ว ใจคุณคงเรียกร้อง สั่น กระเส่าที่จะไปหาเธอคนนั้นบ่อยๆในวันเสาร์อาทิตย์ เราเลยเข้าใจแล้วว่าทำไมเสาร์อาทิตย์คุณมักขอเวลาที่จะไปข้างนอกคนเดียวบ่อยๆ  เพราะเดี๋ยวก็ตัดผม เดี๋ยวก็หาหมอสิว เดี๋ยวก็ไปทรีทเมนท์หน้า และนี่ล่าสุดกำลังจะหาเรื่องไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสนอกบ้านอีก ก็เพราะคอนคอนโดเราฟิตเนสมันดีไม่พอเนอะ เค้าเข้าใจแล้วแหละ ที่ผ่านมาคุณคงเป็นทุกข์มากจริงๆ ที่ต้องคอยหาโอกาสไปหากล่องดวงใจของคุณ เอาเป็นว่า คุณไม่ต้องเหนื่อยแล้วนะคะที่รัก คุณจะได้ทุกอย่างที่ใจคุณพร่ำหา ไปเถอะค่ะ เราให้ไปนะ เราให้คุณไปแซ่บกะสาวรัชดาคนนั้นได้ทั้งวีคเดย์และวีคเอนด์ แบบอันลิมิเต็ดเลยจ้ะ และเราเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นเค้าคงมีค่ามากสำหรับคุณ มากจนคุณยอมที่จะเหยียบหัวใจเราได้มากขนาดนี้ 
 
ถึงตรงนี้ เราหมดหน้าที่แล้วนะคะ ก็ถูกปลดประจำการกันไป เก่าไปใหม่มา ยังไงเราก็ฝากที่รักเราด้วยนะจ๊ะสาวรัชดา เราว่าเธอจะดูแลชีวิตคุณดีกว่าเราแน่นอน จับมือกันเดินไปนะคะ  จับมือกันไว้แน่นๆ เวลาฝนเปียกปอน ก็แชร์ร่มกันนะคะ ส่วนเรา เราเจ็บเกินกว่าที่จะให้อภัยคุณได้อีก ความทุกข์ทรมานที่เราได้รับ และน้ำตาที่หยุดที่คนอย่างคุณไม่เห็นค่า เราคงต้องดูแลตัวเราเอง แต่สำหรับชีวิตคุณ คิดว่าเราตายไปแล้วละกันนะคะ

ลาก่อน 

จาก สาวแรมน้อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่