เราเพิ่งแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่ตลอดเวลาเราคิดว่าเค้ายังโสดมาตลอด รู้ว่าผ่านการมีแฟนมาแหล่ะ เพราะอายุก็ 40 ต้นๆ และเค้าก็เล่าว่าคบใครมาบ้าง (ส่วนเรา 39 ปี ไม่เคยผ่านการแต่งงานหรือจดทะเบียนมาก่อน ที่ผ่านมา เรามองหาแต่คนที่ยังโสดแบบไม่เคยแต่งงานหรือจดทะเบียนมาตลอด ถ้าหาไม่ได้ก็ตั้งใจจะเป็นโสด) กับคนนี้ เราผ่านการจัดงานแต่งกันไป และเพิ่งจดทะเบียนสมรส เราถึงเพิ่งรู้ว่า เค้าเคยผ่านการจดทะเบียนสมรส มีลูก และหย่าแล้ว ตอนวันไปจดทะเบียนนี่ล่ะค่ะ(ดูในฐานข้อมูล) แต่ตลอดเวลาที่คบและอยู่ด้วยกันมา(ก่อนแต่งสักพัก) และเราลองอยู่ไกลกัน 1 ปีอีก เค้าดีกับเรามาก ไม่เคยเจ้าชู้หรือนอกใจ ทำงาน เก็บเงิน ซื้อบ้าน สร้างเรือนหอเพื่อเตรียมแต่งและอยู่ด้วยกัน พฤติกรรมต่างๆตลอดเวลาที่เริ่มคบกันจนทุกวันนี้ดีมาตลอด....แต่พอมารู้ความจริงเรื่องนี้ทีหลัง ทำให้เราคิดมากมาจนตอนนี้ เราควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีคะ เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากเสียเราไป เลยไม่ได้เล่า และมันผ่านมา 9 ปีแล้ว(นับตั้งแต่วันหย่าจากคนเก่า) และก็ไม่ได้ติดต่อกับภรรยาเก่าและลูกเค้าเลย 9 ปีเต็ม เพราะฝ่ายโน้นกีดกัด คือ ต่างฝ่ายต่างไม่อยากเจอกันอีก และย้ายไปอยู่ที่อื่นและแต่งงานใหม่
ถ้าเรามองแต่ปัจจุบัน ทุกอย่างโอเคหมด อยู่ด้วยกันดี เพิ่งสร้างเรือนหออยู่ด้วยกันมีความสุข เค้าไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ขยันทำงาน กลับบ้านตรงเวลา เข้ากันได้ ฯลฯ แต่ติดแค่เรื่องในอดีตเค้า คิดมากไปถึงเรื่องถ้าอนาคต ต้องมีเรื่องไปยุ่งกับลูกเค้าอีกมั้ย และต้องมีการจัดการเรื่องทรัพย์สินหรือธุรกรรมร่วมกันอีกมั้ย ฯลฯ เราควรจัดการกับความรู้สึกเรายังไงดีคะ และผ่านมาขนาดนี้แล้ว เค้าไม่ต้องไปยุ่งกับครอบครัวเก่าเค้าอีกตลอดไปได้ใช่ไหมคะในทางกฎหมายอะค่ะ (ส่วนทางปฏิบัติ ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อ ต่างคนก็ต่างเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนช่องทางติดต่อ และย้ายบ้านนานแล้ว)
และสอบถามเพิ่มเติมค่ะ
1.ทรัพย์สินที่ได้มาหลังแต่งงาน เช่น เรือนหอ เครื่องประดับ เงิน ทอง ที่ดิน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตายก่อนจะตกเป็นของใคร
2.จะมีทางไหนบ้างที่สมบัติของเรา และสมบัติที่เกิดขึ้นหลังแต่งงานจะไม่ตกถึงลูกติดฝ่ายชาย (สามีบอกจะทำพินัยกรรมยกทุกอย่างให้เราหมด แบบนี้จะช่วยได้ไหมคะ)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ พยายามทำใจ มองแต่สิ่งดีๆของเขา เลยให้โอกาสเค้า แต่ก็ยังหยุดคิดไม่ได้เลยค่ะ ก่อนหน้านี้วางแผนจะมีลูกด้วยกัน ไปตรวจสุขภาพคู่กันมาแล้ว แต่ตอนนี้พับแผนไปก่อนเลยค่ะ
จะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีคะ
ถ้าเรามองแต่ปัจจุบัน ทุกอย่างโอเคหมด อยู่ด้วยกันดี เพิ่งสร้างเรือนหออยู่ด้วยกันมีความสุข เค้าไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ขยันทำงาน กลับบ้านตรงเวลา เข้ากันได้ ฯลฯ แต่ติดแค่เรื่องในอดีตเค้า คิดมากไปถึงเรื่องถ้าอนาคต ต้องมีเรื่องไปยุ่งกับลูกเค้าอีกมั้ย และต้องมีการจัดการเรื่องทรัพย์สินหรือธุรกรรมร่วมกันอีกมั้ย ฯลฯ เราควรจัดการกับความรู้สึกเรายังไงดีคะ และผ่านมาขนาดนี้แล้ว เค้าไม่ต้องไปยุ่งกับครอบครัวเก่าเค้าอีกตลอดไปได้ใช่ไหมคะในทางกฎหมายอะค่ะ (ส่วนทางปฏิบัติ ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อ ต่างคนก็ต่างเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนช่องทางติดต่อ และย้ายบ้านนานแล้ว)
และสอบถามเพิ่มเติมค่ะ
1.ทรัพย์สินที่ได้มาหลังแต่งงาน เช่น เรือนหอ เครื่องประดับ เงิน ทอง ที่ดิน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตายก่อนจะตกเป็นของใคร
2.จะมีทางไหนบ้างที่สมบัติของเรา และสมบัติที่เกิดขึ้นหลังแต่งงานจะไม่ตกถึงลูกติดฝ่ายชาย (สามีบอกจะทำพินัยกรรมยกทุกอย่างให้เราหมด แบบนี้จะช่วยได้ไหมคะ)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ พยายามทำใจ มองแต่สิ่งดีๆของเขา เลยให้โอกาสเค้า แต่ก็ยังหยุดคิดไม่ได้เลยค่ะ ก่อนหน้านี้วางแผนจะมีลูกด้วยกัน ไปตรวจสุขภาพคู่กันมาแล้ว แต่ตอนนี้พับแผนไปก่อนเลยค่ะ