ขอความรู้เรื่องกฎหมายพื้นฐาน ที่ประชาชนธรรมดาสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวันหน่อยครับ
เหตุการณ์สมมุติ
ตัวละครหลัก
1. นาย ก.ไก่
2. นาย A
3. หมานาย ก.ไก่
4. เพื่อนบ้านอายุ 18 ปี
5. ญาติเพื่อนบ้าน
เรื่องราว
นาย ก.ไก่ กับ นาย A เป็นเพื่อนกัน
มักไปมาหาสู่บ้านของกันและกัน
เป็นประจำ
บ้านนาย ก.ไก่ เลี้ยงหมา ที่ซื้อมาในราคา 1 แสนบาท
ทุกครั้งที่นาย A มาบ้านของนาย ก.ไก่ ก็มักจะขออนุญาตนาย ก.ไก่ พาหมาของนาย ก.ไก่ ออกไปเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้าน โดยที่นาย ก.ไก่ ก็อนุญาต
โดยทุกครั้งที่นาย A จะพาหมาของนาย ก.ไก่ ออกไปเดินเล่น ได้ทำการใส่สายจูงอย่างดี พร้อมทั้งได้ใส่ตะกร้อครอบปากหมาไว้ทุกครั้ง
แต่มีครั้งหนึ่ง ในขณะที่นาย A กำลังยืนจูงหมารอข้ามถนนอยู่บริเวณแยกในบ้าน ด้วยเหตุใดไม่สามารถทราบได้ จู่ๆ หมาได้เกิดวิ่งกระชาก
นาย A ก็ได้พยายามควบคุมดึงหมาไว้ แต่สู้แรงไม่ไหว เกิดการสะดุดล้ม จึงทำให้หมาหลุดออกจากการควบคุมของนาย A
หมาได้วิ่งพุ่งตรงไปหาเพื่อนบ้านอายุ 18 ปีที่กำลังยืนอยู่บริเวณทางเท้า วิ่งกระโจนชนเพื่อนบ้านจนล้มลง พร้อมทั้งพยายามกัด แต่กัดไม่ได้เพราะติดตะกร้อครอบปาก
แต่เนื่องด้วยมาตัวนั้นแข็งแรงมาก ในขณะที่หมากำลังพยายามกัดเพื่อนบ้าน ตะกร้อที่ได้ครอบปากไว้ก็หลุดออก หมาจึงได้กัดเพื่อนบ้านจนได้รับบาดเจ็บ
นาย A ที่เห็นเหตุการณ์ ด้วยความตกใจจึงทำตัวไม่ถูก ไม่ได้เข้าไปช่วยเพื่อนบ้านที่กำลังถูกหมากัด แต่กลับวิ่งหนีไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้านนาย ก.ไก่ แล้วขับรถหนีไป
ต่อมาญาติของเพื่อนบ้านได้ยินเสียงเอะอะโวยวายขอความช่วยเหลือ จึงได้ออกมาดู
พบว่าญาติของตัวเองกำลังถูกหมากัดอยู่บนทางเท้าหน้าเขตบ้านของตน จนได้รับบาดเจ็บ จึงได้เข้าไปช่วยกันดึงหมาแยกออกมาจากผู้บาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถทำได้
ญาติของเพื่อนบ้านกินได้นำกิ่งไม้ที่อยู่ข้างทางมาตีหมา เพื่อจะพยายามแยกหมาออกแต่ก็ไม่สำเร็จ
ด้วยความจำเป็นญาติของเพื่อนบ้านจึงได้วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน นำปืนพกที่อยู่ในบ้านของตนออกมานอกบ้าน แล้วได้นำปืนยิงหมาไป 1 นัด จนหมาล้มลงแล้วตายไปในที่สุด
จากนั้นญาติของเพื่อนบ้านก็ได้นำผู้บาดเจ็บไปเข้ารักษาที่โรงพยาบาล
ฝั่งผู้บาดเจ็บก็รู้ว่าที่หมากัดญาติของตน เป็นหมาของนาย ก.ไก่ แต่ไม่รู้ว่าในตอนนั้นนาย A เป็นคนพาหมามาเดินเล่น จึงได้ไปเอาเรื่องกับนาย ก.ไก่ ที่บ้าน
โดยที่นาย ก.ไก่ ก็ปัดความรับผิดชอบ ว่าในช่วงเวลานั้นตนเองไม่ได้เป็นคนพาหมาไปเดินเล่น โดยได้มีการเปิดกล้องวงจรปิดในบ้านของตน
และภาพกล้องวงจรปิดรอบๆหมู่บ้าน ให้ญาติผู้เสียหายได้ดู โดยในภาพกล้องวงจรปิดเห็นนาย A ได้เป็นผู้นำหมาออกไปเดินเล่นในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
นาย ก.ไก่ จึงได้พาญาติผู้เสียหายไปหานาย A ที่บ้าน เมื่อได้คุยเจรจากับนาย A แล้ว นาย A ได้ทำการบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ อ้างว่าหมาไม่ใช่ของตน
ด้วยเหตุนี้ทำให้ญาติผู้เสียหายได้โกรธ จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน ตะลุมบอนกันทั้ง 3 ฝ่าย
ต่อมาฟังผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับนาย ก.ไก่ และนาย A ที่หมาของนาย ก.ไก่ ได้มาจัดญาติของตน โดยมีนาย A เป็นคนนำหมาออกมาเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้าน
โดยที่นาย ก.ไก่ ได้ให้การว่าหมาเป็นของตนจริง แต่ในช่วงเวลานั้นตนไม่ได้เป็นคนนำหมาออกไปเดินเล่น
ส่วนนาย A อ้างว่าหมาไม่ใช่ของตน และตนไม่ได้เป็นคนนำหมาเอาไปเดินเล่นในช่วงเวลานั้น จึงไม่ยอมรับผิดชอบ แต่มีคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดของบ้านนาย ก.ไก่และกล้องวงจรปิดรอบๆ หมู่บ้านจับภาพได้
เนื่องด้วยหลักฐานนาย A จึงยอมรับว่าตนเองเป็นคนนำหมาออกไปเดินเล่นในช่วงเวลานั้น
นาย A ได้อ้างว่า ในครั้งนั้นก็ได้รับคำอนุญาตจากนาย ก.ไก่ ที่เป็นเจ้าของมาให้นำหมาออกไปเดินเล่นได้ จึงได้ให้นาย ก.ไก่ เป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายแต่เพียงผู้เดียว เพราะนาย ก.ไก่ ได้อนุญาตตนแล้ว
นอกจากนี้นาย ก.ไก่ ก็ได้แจ้งความเอาผิดกับญาติผู้เสียหาย ที่ได้ใช้ปืนยิงฆ่าหมามูลค่า 1 แสนบาทของตน
พร้อมทั้งใช้เรื่องที่ญาติผู้เสียหายนำปืนออกมาใช้ในเขตหมู่บ้าน นอกเขตบ้านของตนเอง
และยังแจ้งความเรื่องที่นาย A ได้พาหมาของตนออกมานอกบ้าน แต่ไม่สามารถดูแลหมาของตนได้ ทำให้หมามูลค่า 1 แสนบาทตนตายลง
คำถามคือใครมีความผิดอะไรบ้าง
และใครสามารถขอเรียกร้องความรับผิดชอบอะไรได้บ้าง
*** ปล. ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหลักฐาน ได้พบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกถนนในหมู่บ้าน
ภาพวีดีโอได้สามารถบันทึกภาพของนาย A กำลังยืนรอข้ามถนนอยู่ บริเวณทางแยกในหมู่บ้าน
จากนั้นก็มีจุดแสงเลเซอร์ส่องเข้ามาที่ตัวหมา จากนั้นแสงเลเซอร์ก็เคลื่อนตัวไปบริเวณใบหน้าและดวงตาของหมา ทำให้หมาเกิดอาการโมโหฉุดกระชากวิ่งหลุดออกจากการควบคุมของนาย A ไป
ภาพกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพหมาที่วิ่งไปยังทิศทางที่เพื่อนบ้านอายุ 18 ปีอยู่ แล้วได้เข้าทำร้ายดั่งข้อความข้างต้น
เจ้าหน้าที่จึงได้คาดการณ์ว่าเพื่อนบ้านอายุ 18 ปีได้ทำการใช้เลเซอร์ส่องไปที่ตาหมา จึงทำให้หมาโกรธตื่นตกใจพุ่งตัวเข้าไปทำร้าย
เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ แล้วก็ได้พบไฟฉายเลเซอร์ตกอยู่ในท่อระบายน้ำบริเวณจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงได้ไปถามเพื่อนบ้านอายุ 18 ปีว่าเป็นเจ้าของไฟฉายเลเซอร์หรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่อยู่ในสภาพที่สามารถให้การได้
เจ้าหน้าที่จึงได้ไปถามญาติของผู้บาดเจ็บว่าไฟฉายเลเซอร์อันนี้เป็นของผู้บาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้คือญาติไม่รู้
เจ้าหน้าที่จึงได้นำไฟฉายเลเซอร์นี้ไปตรวจสอบลายนิ้วมือ
ผลออกมาว่ามีลายนิ้วมือของผู้บาดเจ็บอยู่บนไฟฉายเลเซอร์
หลังจากมีเหตุการณ์ ปล. นี้เพิ่มเติมขึ้นมา
ผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้จะต่างจากเหตุการณ์ไม่มี ปล. หรือไม่
ขอถามเป็นความรู้ครับ
ขอบคุณครับ
ขอความรู้ คำแนะนำ เกี่ยวกับกฎหมายพื้นฐานที่ประชาชนสามารถพบเจอได้หน่อยครับ
เหตุการณ์สมมุติ
ตัวละครหลัก
1. นาย ก.ไก่
2. นาย A
3. หมานาย ก.ไก่
4. เพื่อนบ้านอายุ 18 ปี
5. ญาติเพื่อนบ้าน
เรื่องราว
นาย ก.ไก่ กับ นาย A เป็นเพื่อนกัน
มักไปมาหาสู่บ้านของกันและกัน
เป็นประจำ
บ้านนาย ก.ไก่ เลี้ยงหมา ที่ซื้อมาในราคา 1 แสนบาท
ทุกครั้งที่นาย A มาบ้านของนาย ก.ไก่ ก็มักจะขออนุญาตนาย ก.ไก่ พาหมาของนาย ก.ไก่ ออกไปเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้าน โดยที่นาย ก.ไก่ ก็อนุญาต
โดยทุกครั้งที่นาย A จะพาหมาของนาย ก.ไก่ ออกไปเดินเล่น ได้ทำการใส่สายจูงอย่างดี พร้อมทั้งได้ใส่ตะกร้อครอบปากหมาไว้ทุกครั้ง
แต่มีครั้งหนึ่ง ในขณะที่นาย A กำลังยืนจูงหมารอข้ามถนนอยู่บริเวณแยกในบ้าน ด้วยเหตุใดไม่สามารถทราบได้ จู่ๆ หมาได้เกิดวิ่งกระชาก
นาย A ก็ได้พยายามควบคุมดึงหมาไว้ แต่สู้แรงไม่ไหว เกิดการสะดุดล้ม จึงทำให้หมาหลุดออกจากการควบคุมของนาย A
หมาได้วิ่งพุ่งตรงไปหาเพื่อนบ้านอายุ 18 ปีที่กำลังยืนอยู่บริเวณทางเท้า วิ่งกระโจนชนเพื่อนบ้านจนล้มลง พร้อมทั้งพยายามกัด แต่กัดไม่ได้เพราะติดตะกร้อครอบปาก
แต่เนื่องด้วยมาตัวนั้นแข็งแรงมาก ในขณะที่หมากำลังพยายามกัดเพื่อนบ้าน ตะกร้อที่ได้ครอบปากไว้ก็หลุดออก หมาจึงได้กัดเพื่อนบ้านจนได้รับบาดเจ็บ
นาย A ที่เห็นเหตุการณ์ ด้วยความตกใจจึงทำตัวไม่ถูก ไม่ได้เข้าไปช่วยเพื่อนบ้านที่กำลังถูกหมากัด แต่กลับวิ่งหนีไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้านนาย ก.ไก่ แล้วขับรถหนีไป
ต่อมาญาติของเพื่อนบ้านได้ยินเสียงเอะอะโวยวายขอความช่วยเหลือ จึงได้ออกมาดู
พบว่าญาติของตัวเองกำลังถูกหมากัดอยู่บนทางเท้าหน้าเขตบ้านของตน จนได้รับบาดเจ็บ จึงได้เข้าไปช่วยกันดึงหมาแยกออกมาจากผู้บาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถทำได้
ญาติของเพื่อนบ้านกินได้นำกิ่งไม้ที่อยู่ข้างทางมาตีหมา เพื่อจะพยายามแยกหมาออกแต่ก็ไม่สำเร็จ
ด้วยความจำเป็นญาติของเพื่อนบ้านจึงได้วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน นำปืนพกที่อยู่ในบ้านของตนออกมานอกบ้าน แล้วได้นำปืนยิงหมาไป 1 นัด จนหมาล้มลงแล้วตายไปในที่สุด
จากนั้นญาติของเพื่อนบ้านก็ได้นำผู้บาดเจ็บไปเข้ารักษาที่โรงพยาบาล
ฝั่งผู้บาดเจ็บก็รู้ว่าที่หมากัดญาติของตน เป็นหมาของนาย ก.ไก่ แต่ไม่รู้ว่าในตอนนั้นนาย A เป็นคนพาหมามาเดินเล่น จึงได้ไปเอาเรื่องกับนาย ก.ไก่ ที่บ้าน
โดยที่นาย ก.ไก่ ก็ปัดความรับผิดชอบ ว่าในช่วงเวลานั้นตนเองไม่ได้เป็นคนพาหมาไปเดินเล่น โดยได้มีการเปิดกล้องวงจรปิดในบ้านของตน
และภาพกล้องวงจรปิดรอบๆหมู่บ้าน ให้ญาติผู้เสียหายได้ดู โดยในภาพกล้องวงจรปิดเห็นนาย A ได้เป็นผู้นำหมาออกไปเดินเล่นในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
นาย ก.ไก่ จึงได้พาญาติผู้เสียหายไปหานาย A ที่บ้าน เมื่อได้คุยเจรจากับนาย A แล้ว นาย A ได้ทำการบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ อ้างว่าหมาไม่ใช่ของตน
ด้วยเหตุนี้ทำให้ญาติผู้เสียหายได้โกรธ จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน ตะลุมบอนกันทั้ง 3 ฝ่าย
ต่อมาฟังผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับนาย ก.ไก่ และนาย A ที่หมาของนาย ก.ไก่ ได้มาจัดญาติของตน โดยมีนาย A เป็นคนนำหมาออกมาเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้าน
โดยที่นาย ก.ไก่ ได้ให้การว่าหมาเป็นของตนจริง แต่ในช่วงเวลานั้นตนไม่ได้เป็นคนนำหมาออกไปเดินเล่น
ส่วนนาย A อ้างว่าหมาไม่ใช่ของตน และตนไม่ได้เป็นคนนำหมาเอาไปเดินเล่นในช่วงเวลานั้น จึงไม่ยอมรับผิดชอบ แต่มีคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดของบ้านนาย ก.ไก่และกล้องวงจรปิดรอบๆ หมู่บ้านจับภาพได้
เนื่องด้วยหลักฐานนาย A จึงยอมรับว่าตนเองเป็นคนนำหมาออกไปเดินเล่นในช่วงเวลานั้น
นาย A ได้อ้างว่า ในครั้งนั้นก็ได้รับคำอนุญาตจากนาย ก.ไก่ ที่เป็นเจ้าของมาให้นำหมาออกไปเดินเล่นได้ จึงได้ให้นาย ก.ไก่ เป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายแต่เพียงผู้เดียว เพราะนาย ก.ไก่ ได้อนุญาตตนแล้ว
นอกจากนี้นาย ก.ไก่ ก็ได้แจ้งความเอาผิดกับญาติผู้เสียหาย ที่ได้ใช้ปืนยิงฆ่าหมามูลค่า 1 แสนบาทของตน
พร้อมทั้งใช้เรื่องที่ญาติผู้เสียหายนำปืนออกมาใช้ในเขตหมู่บ้าน นอกเขตบ้านของตนเอง
และยังแจ้งความเรื่องที่นาย A ได้พาหมาของตนออกมานอกบ้าน แต่ไม่สามารถดูแลหมาของตนได้ ทำให้หมามูลค่า 1 แสนบาทตนตายลง
คำถามคือใครมีความผิดอะไรบ้าง
และใครสามารถขอเรียกร้องความรับผิดชอบอะไรได้บ้าง
*** ปล. ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหลักฐาน ได้พบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกถนนในหมู่บ้าน
ภาพวีดีโอได้สามารถบันทึกภาพของนาย A กำลังยืนรอข้ามถนนอยู่ บริเวณทางแยกในหมู่บ้าน
จากนั้นก็มีจุดแสงเลเซอร์ส่องเข้ามาที่ตัวหมา จากนั้นแสงเลเซอร์ก็เคลื่อนตัวไปบริเวณใบหน้าและดวงตาของหมา ทำให้หมาเกิดอาการโมโหฉุดกระชากวิ่งหลุดออกจากการควบคุมของนาย A ไป
ภาพกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพหมาที่วิ่งไปยังทิศทางที่เพื่อนบ้านอายุ 18 ปีอยู่ แล้วได้เข้าทำร้ายดั่งข้อความข้างต้น
เจ้าหน้าที่จึงได้คาดการณ์ว่าเพื่อนบ้านอายุ 18 ปีได้ทำการใช้เลเซอร์ส่องไปที่ตาหมา จึงทำให้หมาโกรธตื่นตกใจพุ่งตัวเข้าไปทำร้าย
เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ แล้วก็ได้พบไฟฉายเลเซอร์ตกอยู่ในท่อระบายน้ำบริเวณจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงได้ไปถามเพื่อนบ้านอายุ 18 ปีว่าเป็นเจ้าของไฟฉายเลเซอร์หรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่อยู่ในสภาพที่สามารถให้การได้
เจ้าหน้าที่จึงได้ไปถามญาติของผู้บาดเจ็บว่าไฟฉายเลเซอร์อันนี้เป็นของผู้บาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้คือญาติไม่รู้
เจ้าหน้าที่จึงได้นำไฟฉายเลเซอร์นี้ไปตรวจสอบลายนิ้วมือ
ผลออกมาว่ามีลายนิ้วมือของผู้บาดเจ็บอยู่บนไฟฉายเลเซอร์
หลังจากมีเหตุการณ์ ปล. นี้เพิ่มเติมขึ้นมา
ผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้จะต่างจากเหตุการณ์ไม่มี ปล. หรือไม่
ขอถามเป็นความรู้ครับ
ขอบคุณครับ