แต่งงานแบบไม่มีสินสอด

ขอความคิดเห็นจากสมาชิกเรื่องการแต่งงานโดยไม่มีสินสอดค่ะ
ดิฉันเป็นคุณแม่ค่ะ ลูกสาวกำลังมีแผนจะแต่งงาน ซึ่งก็เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับครอบครัว วันนี้ลูกถามว่า ถ้าหนูจะแต่งงาน แต่ไม่มีสินสอดให้แม่ แม่จะว่าอย่างไร? อันที่จริงแล้ว ดิฉันเป็นคนนึงที่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แต่พอได้ยินคำถามนี้จากลูก ทำไมรู้สึกแย่ๆ แต่ก็ฝืนยิ้มกับลูก แล้วบอกลูกว่า ไม่เป็นไร
 ตั้งแต่เขาเริ่มวางแผนที่จะแต่งงานกัน ดิฉันก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่าในวันที่เขาแต่งงานดิฉันก็จะยกสินสอดนั้นคืนให้เขาหมดเลย เราเองก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเรียกร้องสินสอดมากมายจากเขาอยู่แล้ว ตั้งใจว่าถ้าฝั่งผู้ชายมาคุยก็จะบอกแค่ว่า แล้วแต่จะให้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินคำถามจากลูก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
เพื่อนๆในห้องมีใครเป็นบ้างคะ แล้วเราควรทำอย่างไรดี นอกจากทำใจ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
แสดงว่า ลูกสาว ได้แฟนและอาจหมายรวมถึงครอบครัวแฟนที่กระจอกพอสมควรครับ

การให้เกียรติกัน ถามถึง สินสอดทองหมั้น ก็เป็นจารีตประเพณีที่คนไทยยังยึดถือกันอยู่

การที่ฝ่ายชายรีบชิงบอกว่าไม่มี หรือการส่งฝ่ายหญิงมาหยั่งเชิงแบบนี้ ผมมองว่ากระจอกครับ ไม่ให้เกียรติกัน
ความคิดเห็นที่ 7
น่าจะไม่ได้อยากได้สินสอด..จริงๆแหละ... ได้มาก็จะคืนให้
แต่พอเขาไม่ได้ให้เลย.. อาจจะกังวลใจ ไม่สบายใจเพราะคิดว่า เขาไม่มี แม้แต่สินสอด แล้วจะดูแลลูกเราได้อย่างไร กระมัง
ความคิดเห็นที่ 25
ก็จะถามลูกกลับไปว่า เพราะอะไรลูกถึงมาขอแม่ให้ไม่มีสินสอด เพราะปกตินั้นผู้ใหญ่ทางผู้ชายเค้าจะมาคุยกับผู้ใหญ่เจ้าสาวเรื่องสินสอดทองหมั้น การที่ผู้หญิงมาเตี๊ยมแม่ว่าขอไม่มีสินสอดมันเหมือนว่าต้องให้แม่ออกตัวว่าไม่เรียกตั้งแต่แรก และกลัวว่าแม่จะเรียกเยอะ
เราอ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกคุณแม่เลย (ทั้งที่ไม่เคยเป็นแม่คน) อาจเป็นได้ว่า
1. ลูกสาวคุณมีทัศนคติไม่ดีต่อการเรียกสินสอด ว่าเหมือนขายลูกกินรึป่าว
2. ผู้ชายไม่มีเงิน และไม่น่าจะหาได้ในเร็ววันนี้ แต่อยากแต่งแล้ว พ่อแม่ฝ่ายชายไม่สามารถซัพพอร์ตได้
3. ครอบครัว+แฟนลูก งกไม่อยากเสียเงิน
4. ลูกสาวอาจกำลังตั้งครรภ์ เป็นสถานการณ์ที่ต้องรีบแต่งงาน ไม่มีเวลาช่วยกันเก็บช่วยหาสินสอดกับแฟน
5. ลูกคุณกลัวคุณจะเรียกเยอะ
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่คิดจะเอาสินสอดอยู่แล้วก็พูดกับลูกไปตรงๆสิคะ คือจะเซอร์ไพร์สลูกเพื่ออะไรคะ งานสำคัญของลูกเรื่องแบบนี้ก็ควรพูดกันเลยก็ได้มั๋งคะว่าคุณไม่เอาสินสอดนะจะคืนให้แต่ขอแค่มาวางสวยๆในพิธีไรก็ว่ากันไป
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนเราแต่งงาน(สิบกว่าปีที่แล้ว) เรียนจบมา3ปี  เรากับแฟนขยันทำงานมากเก็บเงินด้วยกัรได้ก้อนนึง  อบะแฟนย้ายที่ทำงานมาใกล้บ้านเราพอดี อยากอยู่ด้วยกัน  เลยตกลงแต่งงานกัน (เราไม่ยอมอยู่ก่อนแต่งค่ะ)

เรารู้ว่าแฟนเราประหยัด เก็บเงินมา  บ้านเค้าก็ไม่ได้ร่ำรวย(บ้านเราฐานะดีกว่า)  จะเอาเงินเค้ามาใหเแม่เรา ก็สงสารเค้า กับถ้าเอาเงินมากองแล้วพ่อแม่เราให้คืนหมด ก็จะมากองทำไม อันตราย ต้องมีคนเฝ้าอีกกลัวหาย เราว่ามันไม่ค่อยมีเหคุผลที่ต้องเอาเงินมาตั้งโชว์ในงานแต่งงสย
เลยบอกพ่อแม่ไปว่า  ไม่ต้องไปเรียกสินสอดเค้านะ  ค่างานแต่งงานทุกอย่าง เราจะออกกันเอง  (และซองทั้งหมดเราเอานะ อิๆ )

แม่บอกว่า  ได้เลย สมัยแม่พ่อแกกำลังสร้างตัวก็ไม่มีสินสอดเหมือนกัน  แม่ต้องช่วยออกค่าแหวนครึ่งนึง มาตอนนี้พ่อหน้าที่การงานดี  เงินให้แม่ทุกบาทเลย 555

ญาติที่อายุเยอะๆที่อยู่ ตจว ก็ถามเรื่องสินสอด  พอรู้ว่าไม่มีโวยวายใหญ่ว่ารับไม่ได้  พ่อแม่เราก็ไม่รู้ไม่ชี้  ขนาดพ่อแม่เราเป็นคนมีหน้ามีตาเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เลยนะคะ  
เราเองก็จบมหาลัยดี ขึ้นชื่อว่าเข้ายากทั้งคณะและมหาลัย หน้าตาโอเค หน้าที่การงานดีมากด้วย เค้าไม่สนใจเรื่องสินสอดเลย  สนใจแต่ว่าลูกเขยไม่เกเร ไม่สำมะเรเทเมา  ขยันทำงาน  มีเงินเก็บ  ไม่อบายมุข ใช้เงินเป็นเค้าก็สบายใจแล้ว

ทั้งที่สามีเรา และ พ่อแม่เค้าในตอนนั้นถามนะ ว่า ไม่เอาอะไรเลยจริงๆหรือ  แล้วพอใกล้วันแต่งงาน  แฟนเราและพ่อแม่สามีซื้อเป็นทองมาให้ กับสามีเอาเงินส่วนตัวเค้าให้เรามาหกแสน (เราเก็บเข้าบัญชีรวมค่ะ  ไม่ได้เอามาเป็นสินสอด  ทุกวันนี้ที่บ้านยังแซวเราอยู่เลย ว่า เม้มค่าสินสอดนี่หว่า 555)

ถ้าเรามีลูกสาว  เราไม่เอาสินสอดเลยค่ะ  จะเลี้ยงลูกสาวให้พึ่งตัวเอง หาเงินได้เองเก่งๆ  แต่คงจะสนใจว่า ว่าที่ลูกเขยนิสัยใจคอเป็นยังไง  ขยันทำมาหากินมั้ย เกเรมั้ย มีศีลธรรมมั้ย  เก็บเงินเป็นหรือเปล่า  ขอให้พาลูกเราไปในทางที่เจริญ ไม่ฉุดต่ำ ไม่ทำร้ายกายใจกัน แค่นี่เราก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ  จะให้เงินไปตั้งตัวด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่