ตอนที่เรายังเป็นเด็ก ฮอร์โมนกำลังพุ่งพล่าน คำกล่าวนี้คงจะไม่เกินเลยไปนัก เพราะนางเอกคู่แฝด ยู & มีกำลังได้เจอกับเรื่องราวเหล่านี้เช่นกัน

ผมพึ่งได้ไปดู เธอกับฉันกับฉัน มาวันนี้ ตอนแรกกะว่า จะไปดู แอ๊นท์แมน ตะลุยมิติควอนตัม แต่เห็นกระแส ออกมาไม่ค่อยดี เลยตัดสินใจไปดูเรื่องนี้แทน

เปิดฉากหนังก็บอกเลย ข้อดี (ตรงไหน) ของการเป็นแฝด ทั้งสองคน ไปกินบุฟเฟต์ ดูหนัง เสียตังค์แค่คนเดียว ไปสอบแทนกันได้ หลอกคนอื่นได้สบายๆ และทำให้ มี กับ หมาก (พระเอก) ได้พบกัน และประทับใจกัน (เนื่องจากความใจดีของทั้งคู่ แบ่งดินสอ และ ให้ลอกข้อสอบ)

เมื่อกลับมาบ้าน ยู & มี ก็พบว่า ที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงิน จนทำให้ ทั้งสองคนไม่ได้ไปเข้าค่ายภาษาอังกฤษ แต่จะได้ไปเยี่ยมคุณยายที่ต่างจังหวัดแทน จุดนี้หนังบอกเล่าเรื่องวิกฤต ต้มยำกุ้ง ผ่านการทวงหนี้กับพ่อที่ต้องหลบซ่อนตัวในบ้านตัวเอง

ตัดมาคือ คู่แฝดและแม่ ต้องมาอยู่ที่จังหวัดนครพนมกับยายในช่วงปิดเทอม พอดีกับที่พระเอก บักหมาก(ฝรั่ง) ก็โดนพ่อคนฝรั่งเท กลับต่างประเทศ ทิ้งให้ตัวเองและแม่ ต้องมาอยู่ต่างจังหวัดเช่นกัน และบังเอิญ(อีกแล้ว) ที่ ยู ก็ต้องไปเรียนดีดพิณ ที่แถวบ้านหมากเช่นกัน Destiny ชัดๆ ตอนนี้ผมคิดในใจแล้ว ถ้าให้หมาก ซึ่งไม่ได้เรียนต่อ เป็นวัยรุ่นไทบ้านร้ายๆ หลอกทำมิดีมิร้ายกับนางเอก เพื่อเอาใจวัยรุ่นเจ้าถิ่นแถวบ้าน น่าจะดาร์กมาก เหมือน พระเอกในเรื่อง All about Lily Chou-chou คงจะหักมุมน่าดู แต่ค่ายหนัง และผู้กำกับ คงจะไม่ใจร้ายขนาดนั้น พระเอก ก็ยังสดใสร่าเริง คู่แฝด ก็เลยรอดไป

เมื่อสนิทกันมากขึ้น ยูก็รักหมาก หมากก็ชอบยู แต่กับ มี นั้น มันเป็นอีกความรู้สึกนึง ซึ่งหนังก็เฉลยปมทั้งหมด ผ่านจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง ซึ่งเราคนดูก็เดาได้ไม่ยาก

สรุป ตอนเราเป็นวัยรุ่น ความรักก็คือโลกทั้งใบ ไม่ว่าจะกับแฟน เพื่อน พี่น้อง พ่อและแม่ แต่พอโตขึ้น ชีวิตมันมีอะไรมากกว่านั้น ไม่ว่า จะเรื่องงาน เงิน สิ่งแวดล้อมรอบตัว ประสบการณ์จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น หรือ ทำให้เราอ่อนแอลงก็ได้

สำหรับผม หนังดีนะ ดูได้เพลินๆ โลเกชั่น อุปกรณ์ประกอบฉาก โอเค โปรดักชั่นอาจจะน้อยไปหน่อย บางฉากดูรู้เลยว่างบคงน้อย อย่างฉากงานวัด หรือ ฉากจบ ที่น่าจะมีพลุจุดบ้างในปีส่งท้ายขึ้นปี 2000 แต่ฉากที่นั่งรถทัวร์มาด้วยกันก็ถือว่าทำได้ดี ที่ทั้งสองคนก็ได้กลับมาห่มผ้าผืนเดียวกันอีกครั้ง