2 อันเดอร์พาร์ น่าพอใจไหม?

กระทู้สนทนา


ในสัปดาห์นี้ ถือว่าการแข่งขันกอล์ฟกลับมาคึกคักเต็มที่ ทั้งรายการกอล์ฟหญิงและชาย ทั้งในต่างประเทศและบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไทเกอร์ วูดส์ กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังร้างราการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์อย่างเป็นทางการ ไปกว่าเจ็ดเดือน ตั้งแต่ตกรอบที่ ดิ โอเพน ที่ เซนต์แอนดรูส์ เมื่อกลางปีที่แล้ว
 
ไทเกอร์เปิดหัววันแรกด้วยเบอร์ดี้ ที่หลุม 1 พาร์ 5 ระยะ 507 หลา ก่อนจะปิดท้ายด้วยสามเบอร์ดี้รวด ที่หลุม 16,17,18 โดยทำสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 69 เรียกเสียงฮือฮาและรอยยิ้มจากแฟนกอล์ฟจำนวนมาก ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนกอล์ฟ และทัวร์นาเมนต์นี้ ที่มูลนิธิฯ ของเขาร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย จนบางคนถึงกับบอกว่า แน่ใจนะว่านี้ไม่ใช่รายการเมเจอร์
 
ก่อนการแข่งขัน ส่วนตัวผมได้ฟังคำสัมภาษณ์ของไทเกอร์ ก่อนลงแข่งขัน รายการ 2023 Genesis Invitational ที่สนาม ริเวียร่า คันทรีคลับ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นประเด็นใหม่และเกินความคาดหมาย เขายังคงหาหนทางที่จะหวนคืนสนาม ความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเป็นผู้ชนะในสังเวียนกอล์ฟ สำหรับเขามันไม่เคยลดน้อยลง ตรงกันข้ามกับอุปสรรค ที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์กอล์ฟ และโดยส่วนตัวผมเอง บอกตามตรงว่า ความหวังที่จะได้เห็นเขากลับมาชูถ้วยอีกครั้ง ในเร็วๆนี้ มันยากมาก
 
แต่การลงสนามอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในรอบแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา ไทเกอร์กลับสร้างความหวังเล็กๆ ให้แฟนกอล์ฟทั่วโลก ได้กระชุ่มกระชวยกันไม่น้อย 
 
แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์ต่างเฝ้าจับตามองมากที่สุด ไม่ใช่วงสวิง หรือการพัตต์ แต่เป็นสภาพร่างกายและความฟิตของเขา โดยเฉพาะการเดินในสนามที่มีความยาว 7,322 หลา 
 
แม้เจ้าตัวจะเคยให้สัมภาษณ์บ่อยครั้ง เกี่ยวกับสภาพร่างกายในวัย 47 ปีว่า อาการปวดที่หลังและเข่าจากการผ่าตัดมาหลายครั้ง จะยังเป็นอุปสรรคใหญ่ ที่ยังคงต้องทำกายภาพก่อนและหลังลงสนามทุกครั้ง แต่ความเสียหายที่เท้าและขาขวา ที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเกือบสองปีก่อน ทำให้เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่การเดิน แต่ยังส่งผลถึงความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งความแข็งแรงของเท้าและขา คือขุมพลังหลักของการสวิง รวมถึง การควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายระหว่างสวิง
 
ในคำสัมภาษณ์ของไทเกอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ไทเกอร์กล่าวถึงอุปสรรคการเดินของเขา ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่ามันดีขึ้น แต่การเดินเล่นทั้ง 18 หลุมในสี่วันติดต่อกัน ยังเป็นสิ่งที่เขากังวล จนเป็นเหตุให้เขาต้องถอนตัวจากการแข่งขัน Hero World Challenge เมื่อธันวาคมที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ ด้วยการฟิตซ้อมและการบำบัดรักษาที่ดีขึ้น จนเขามีความมั่นใจ ซึ่งไทเกอร์ได้กล่าวว่า
 
“สภาพขาขวาตอนนี้ ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อสองสามเดือนก่อนมาก ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงสนามและแข่งขันกับนักกอล์ฟเก่งๆทั้งหลาย” นอกจากนี้ เขายังคาดว่า ร่างกายในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว และสามารถแข่งได้ทั้งสี่วันติดต่อกันแน่นอน
 
แต่เมื่อนักข่าวถามว่า เขาเคยเดินเล่นสี่วันติดต่อกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่ เจ้าตัวตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง “ยังไม่เคย”
 
การสวิงของไทเกอร์ในการเล่นเมื่อคืน ในส่วนของแมคคานิค เขายังคงทำได้ดี เขาสามารถควบคุมช็อตได้ ทั้งลูกคัทต่ำในช็อตทีออฟ และคัทสูงในช็อตขึ้นกรีน โดยเฉพาะการทีออฟด้วยช็อตเฟด  ซึ่งเป็นไฟลท์บอลที่ไทเกอร์ชอบมากที่สุด เขาทำได้ค่อนข้างดี ทั้งระยะและทิศทาง โดยสามารถทำความเร็วหัวไม้ได้ถึง 177 m/h (เทียบกับรอรี 186 m/h) ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของพีจีเอทัวร์ที่ 171 m/h แต่กระนั้นต้องบอกว่า สปีดระดับนี้ไม่ได้เกิดจากความแข็งแรงและวงสวิงที่ยอดเยี่ยมดั่งเช่นในอดีตที่ผ่านมา แต่มันเกิดจากการปรับก้านให้เหมาะกับสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้
 
แน่นอนว่าไดรฟเวอร์ คืออุปกรณ์สำคัญที่สุด ที่ชี้เป็นชี้ตายสำหรับวูดส์มาแต่ไหนแต่ไร สำหรับสังเวียนที่สนามริเวียร่าแห่งนี้ ซึ่งเป็นสนามที่ไทเกอร์แทบไม่เคยประสบความสำเร็จเลย ย้อนไปตั้งแต่เล่นกอล์ฟระดับเยาวชน เมื่อคืนไทเกอร์ใช้หัวไม้หนึ่ง TaylorMade Stealth Plus (9 องศาแต่เซ็ตไว้ที่ 7.5) ส่วนก้านเป็น Fujikura Ventus Black 6X ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับก้านที่เขาใช้ก่อนได้รับอุบัติเหตุ อย่างเช่น ตอนที่ได้แชมป์เดอะ มาสเตอร์ล่าสุด ซึ่งเขาใช้ก้าน Mitsubishi Diamana D+ White Board 73TX ซึ่งมีความแข็งและหนักกว่าตัวปัจจุบันมาก แม้ก้านใหม่จะทำให้เขายังคงมีสปีดที่ดี แต่ก็ต้องแลกด้วยความสามารถในการควบคุมทิศทาง ซึ่งเมื่อคืนก็เห็นชัดว่า สถิติการไดรฟอยู่แฟร์เวร์ ยังไม่น่าพอใจ
 
ในรอบแรกนี้ ไทเกอร์สามารถไดรฟด้วยสปีดที่สูงกว่า 177 m/h ถึงเก้าหลุม และทำระยะเกินกว่า 317 หลาได้ถึงเจ็ดหลุม โดยไกลสุดที่ 338 หลาที่หลุม 11 นี่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและการฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดีของเขา ซึ่งในการให้สัมภาษณ์หลังจบวันแรก นักข่าวได้ถามเขาว่า เขายังคาดหวังถึงชัยชนะหรือไม่? วูดส์ได้ตอบโดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจของเขาว่า
 
“นั่นคือเหตุผลเดียวว่าทำไมผมถึงลงแข่ง ในอนาคตมันต้องมีวันที่ผมไม่สามารถลงแข่งขันได้อีกต่อไป แต่ในวันนี้ เวลานี้ ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังสามารถทำได้ ซึ่งสนามแข่งขันก็มีส่วนสำคัญ ทั้งการเซ็ตอัพและสภาพอากาศที่เป็นใจ หากเป็นสภาพเปียกชื้น ซึ่งรอรี หรือ จัสติน โธมัส พวกเขาสามารถหวดได้ 320 หลาสบายๆ แต่สำหรับผมอาจเสียเปรียบ แต่ตอนนี้และสภาพสนามแบบนี้ ซึ่งมันเหมือนว่าคุณขี่สกูตเตอร์ คือลูกจะวิ่งค่อนข้างมาก การเดินของผมก็จะไม่ลำบากเช่นกัน”
 
  
 
ไทเกอร์กำลังลองพัตเตอร์ตัวใหม่ล่าสุด custom Scotty Cameron Tour-Only black mallet 
ของเจสัน เดย์ แต่เจ้าตัวยังคงไว้วางใจ Scotty Cameron Newport 2 ทรงเบลด
ที่อยู่ด้วยกันมาเกินสองทศวรรษแล้ว
 
อย่างที่กล่าวก่อนหน้านี้ สำหรับไทเกอร์ ซ็อตสำคัญที่สุดของเขา ที่จะ make or break คือ ช็อตทีออฟ เมื่อคืนนี้เขาตีช็อตแรกที่หลุม 1 ด้วยหัวไม้ 3 ลูกเฟดออกไปอย่างที่ตั้งใจ แม้จะโอเวอร์คัทไปหน่อยจนเข้ารัฟก็ตาม แต่การได้เห็นไฟลท์บอล ที่ลูกเลี้ยวขวาตามที่ตั้งใจ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีสำหรับเขา มันช่วยให้เกิดความมั่นใจ สังเกตว่าในการตีเหล็กขึ้นช็อตแอพโพรช เขาทำได้ดีมากและเต็มไปด้วยความมั่นใจ และที่เนียนตาไม่แพ้กัน ก็คือการพัตต์ รวมถึงลูกสั้นข้างกรีน ทั้งลูกชิปและบังเกอร์ ที่เขาทำออกมาได้ดี อย่างหลุมสุดท้าย หลุม 17 พาร์ 5 แม้จะต้องพัตต์เบอร์ดีจากระยะ 23 ฟุต ที่เป็นทางขึ้นและมีไลน์เทจากขวามาซ้ายอย่างมาก แต่เขาก็ทำสำเร็จ พร้อมกับอาการสะใจเล็กๆ ที่เจ้าตัวไม่อาจเก็บทรงได้ จนต้องสะบัดกำปั้น ให้แฟนกอล์ฟได้ฟินกันไปตาม
 
หลังการแข่งขัน วูดส์ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสั้นๆว่า 
 
“โดยรวมถือว่าน่าพอใจ ผมสามารถกลับมาตีช็อตดีๆ รวมทั้งพัตต์ได้ดีด้วยในช่วงท้ายเกม แม้จะเล่นผิดพลาดที่หลุม 10 และ 12 ก็ตาม
 
การซ้อมยังไงก็ไม่เหมือนการลงแข่งขันจริง มีทั้งความรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า และกระวนกระวายใจ ซึ่งก็ต้องพยายามรวบรวมสมาธิกันพอสมควร”
 
ไทเกอร์ยังกล่าวยอมรับพร้อมรอยยิ้มว่า เสียงโห่ร้องจากแฟนกอล์ฟในวันนี้ ดังกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก “จนผมต้องพยายามสงบจิตใจ พยายามจดจ่อกับตัวเองว่า เรามาที่นี่เพื่อภารกิจอะไร เพราะว่าผมร้างการแข่งขันไปนาน”
 
“ที่จริงผมควรได้ให้ความขอบคุณ ต่อการต้อนรับจากแฟนกอล์ฟให้มากกว่านี้ แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในหัวผมมากเหลือเกิน ในการพยายามเล่นช็อตตรงหน้าให้ได้อย่างที่ตั้งใจ นั่นเพราะว่าผมไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้มาพักใหญ่ๆแล้ว” 
 
 
สกอร์ 69 สองอันเดอร์พาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไทเกอร์ตีต่ำว่า 70 ในรอบเกือบสามปี และ
เป็นการทำสามเบอร์ดี้ติดต่อกันในสามหลุมสุดท้าย เรียกว่าผลงานของไทเกอร์ในวันนี้ กลบข่าวผู้นำที่ตีไปคนละ 7 อันเดอร์ อย่าง แม็กซ์​ โฮม่า และ คีธ มิทเชล ไปสนิทเลย 
 
ถามว่าสกอร์ 69 นี้ อันดับที่ 27 ร่วม น่าพอใจไหม? รอยยิ้มของเจ้าตัว ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาเนินนาน พร้อมกับเสียงโห่ร้องยินดีจากแฟนกอล์ฟนับร้อยคน ที่อยู่บริเวณรอบๆกรีน เมื่อลูกพัตต์เบอร์ดีระยะแปดฟุต ที่หลุม 18 ลงหลุมไปอย่างสวยงาม น่าจะเป็นคำตอบได้ดี 


 
แต่ไทเกอร์จะสามารถไปถึงฝัน สำหรับชัยชนะหรือไม่ ณ ตอนนี้ ยังเป็นคำถามที่ไม่ควรถามอย่างยิ่ง สำหรับไทเกอร์ รายการนี้และอีกสองสามรายการหลังจากนี้ คือสนามทดลอง สนามจริงคือ สนามเนชันแนล ที่รายการ เดอะ มาสเตอร์ ต้นเดือนเมษายน สำหรับผม แค่ได้เห็นเขาในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็เป็นความพอใจอย่างมากแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่