สวัสดีค่า  วันนี้จะมารีวิวเที่ยวลาวฉบับเที่ยวเอง 6 คืน 5 วัน

เดินทางด้วยรถไฟตลอดทริป : ทั้งรถไฟไทย / รถไฟความเร็วสูงลาว-จีน
เส้นทางรถไฟไทย : สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีรถไฟหนองคาย – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
เส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน : สถานีเวียงจันทน์ – วังเวียง – หลวงพระบาง – เวียงจันทน์

มาเริ่มกันเลยจ้า คืนที่ 1
รถไฟตู้นอน ต้นทาง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปลายทาง สถานีรถไฟหนองคาย
ราคาค่าโดยสาร : เตียงล่าง ราคา 994 บาท, เตียงบน ราคาที่นั่งละ 894 บาท (โดยเปิดให้จองล่วงหน้า 30 วัน)
ระยะเวลาเดินทาง : ออกจากกรุงเทพ 20.25 น. ถึงหนองคาย 06.25 น.
(ที่สถานีจะเปิดให้เข้าชานชาลาล่วงหน้า 20 นาที จะมีประกาศเรียกขึ้นไปชั้น 2 เพื่อขึ้นโบกี้กันนะคะ)
 
สภาพเตียงนอนกันคืนนี้ ที่นอนจะมีหมอน และ ผ้าห่มให้ (แกะถุงใหม่ ผ่านการทำความสะอาดมาแล้วจ้า) 
บนที่นอน จะมีที่ชาร์ตไฟได้ 20 โวลต์ และ ไฟส่องแสงสว่างให้นะคะ 
- จะมีนายท่า เดินเอาน้ำดื่ม มาแจกคนละ 1 ขวด
- แล้วจะมีนายสถานี เดินตรวจตั๋วที่นอนด้วยนะคะ
- ตลอดการเดินทาง รถไฟไม่ปิดไฟนะคะ ไม่ต้องกังวลกันนะคะ แต่จะแสบตาหน่อย สำหรับคนนอนเตียงบน
- ที่เก็บกระเป๋าเดินทาง จะเป็นใต้ที่นอน เตียงล่างนะคะ 
- เตียงบน จะมีตะกร้าให้วางกระเป๋า หรือ ของ ขนาดไม่ใหญ่มากได้ค่ะ 


เราจะมาเช้าที่อุดรธานี เวลาประมาณ ตี 5 กว่า จะมีเจ้าหน้าที่ มาเดินปลุก เก็บเตียง ให้ผดส. ตื่น เตรียมตัวถึงสถานีหนองคาย
ก็จะมีเวลาให้ล้างหน้า แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ ก่อนถึงหนองคายนะคะ

ถึง จ.หนองคายกันแล้ว พอเราลงโบกี้จะเจอพี่คนขับรถตุ๊กๆ มาดักรอผดส. กันเลยค่าา
เราก็เริ่มต้นการผจญภัยกันแล้วนะคะ 
เราได้เรียกรถตุ๊กๆไปส่งหน้าด่านหนองคาย ค่ารถตุ๊กๆ คนละ 30 บาท 
พอลงมา ก็เดินไปหน้าด่านเพื่อปั่มพาสปอร์ตขาออกไทย
(ถ้าใช้พาสปอร์ต จะอยู่ที่ลาวได้ 30 วัน, แต่ถ้าใช้สำเนาบัตรประชาชน จะอยู่ได้แต่ 3 วัน)

พอออกจากด่านมาจะเสีย ค่ารถเมล์ข้ามสะพาน คนละ 35 บาท (ปกติที่เคยมา คนละ 15 บาทเอง)
(ช่วงนี้ปี 2566 ค่าเงินขึ้น ค่ารถเมล์ ค่าเข้าวัด สถานที่ต่างๆ ราคาปรับขึ้นกันหมดเลยค่ะ)

พอรถเมล์ข้ามสะพานถึงลาว รถเมล์จะจอดเทียบท่า เราก็ลงมาเขียนบัตรผ่านตม. ขาเข้าสปป.ลาว เสีย ค่าเข้าประเทศคนละ 20 บาท


พอข้ามด่านมา ก็หาจุดแลกเงินกีบกัน (แนะนำตู้ส้มนะคะ), พร้อมซื้อซิมเน็ตนะคะ 10 m. = 80 บาท เปลี่ยนซิมหน้าด่านกันเลยค่ะ


เรามาถึงหน้าด่าน ฝั่งสปป.ลาว กันแล้วนั้น ต้องใจแข็งนิดนึงนะคะ
แถวนี้โชเฟอร์ Taxi เยอะมากก็จริง แต่ราคาไม่มิตรภาพเลย เราต้องใจแข็ง และ ต่อราคาให้ดี หรือจะนั่งรถเมล์เข้าตลาดเช้าก็ได้นะคะ
เราเจอ Taxi ตอนแรก คนละ 100,000 กีบ (เงินไทย 200 บาทต่อคน)
มีเจรจาต่อรอง ตกลงกันได้ที่ 210,000 กีบ (คนละ 70,000 กีบ) แต่พอถึงจุดหมาย บอก 250,000 กีบ (เงินไทย 500 บาท)
ขึ้นราคาแบบ... แนะนำควรคุยราคาให้ดีๆ ก่อนนะคะ

แต่ยังไม่อยากหมดสนุก.... ไปต่อค่าาา 

ด้วยความที่เรามาเช้า ข้ามด่านก็ตอนเช้า, เรามาถึงโรงแรม 07.30 น. โดยปกติเวลาของการ Check in โรงแรม  14.00 น.
เราไปเช้าไง ก็ฝากกระเป๋า ที่โรงแรมก่อนเลยจ้า จะได้ไม่กระเตงกระเป๋าตลอดทาง
ที่พักคืนที่ 2 : โรงแรม V hotel Vientiean ราคาที่พัก ห้องละ 1,100 บาทต่อคืน (เตียงใหญ่ นอนได้ 2 คน)  มีอาหารเช้าด้วยนะคะ
ที่พักที่นี้ เราจองใกล้ตลาดร่มแดง, ใกล้ถนนคนเดินสีหอม ตอนเช้าจะไม่คึกคักเท่าไหร่ จะคึกคัก ตอนเย็นมากกว่า

เริ่มต้นด้วยการ พาเพื่อนเดินค่ะ เดินให้เพื่อนๆเห็นวิว สภาพบ้านเมือง (ตอนเช้าที่เงียบ) 
ตอนแรกจะพาเดินไปสักพัก หันมองไปถนน มันไม่มีรถตุ๊กให้โบก ก็พาเพื่อนเดินต่อไปจ้าา ===> จะพาไปตลาดเช้า

แวะที่แรกเลย อาหารเช้า ระหว่างทาง เป็นโจ๊กหมูค่ะ ใกล้ๆสวนสาธารณะน้ำพุ

ราคาตกชามละ 25,000 กีบ (เงินไทย 50 บาท)

พาเดินต่อจ้าาา... เดินไปถึงตลาดเช้า (ยังดีนะ อากาศไม่ร้อน)

พอถึงตลาดเช้า ห้างยังไม่เปิดจ้าาา ไปเช้าเกิ๊นนน 
มองไปมองมาแล้วเราก็เจอรถตุ๊กๆ เรียกแล้วก็ต่อรองราคา

สรุป เหมาพาเที่ยว ราคาอยู่ที่ 250,000 กีบ (500 บาท) โดยจะพาไป
==> ตลาดขั่วดิน (ตลาดเช้าที่ขายของกิน)
==> พระธาตุหลวง
==> วัดใต้
==> ประตูชัย
==> วัดพระธาตุองค์ดำ
==> วัดสีสะเกด
==> วัดแม่สีเมือง

รูปนี้มาจากวัดใต้ ใกล้ๆพระธาตุหลวงจ้า

วังปู่ศรีสัตตะนาคราช .... มีความเชื่อกันว่า เป็นทางขึ้นอีกทางจ้า

พระธาตุหลวง... ช่วงที่เราไป ทัวร์คนไทยก็เดินเข้ากันเยอะจ้า

ประตูชัย มุมมหาชน นิยมถ่ายรูปกันจ้า

วัดพระธาตุองค์ดำ


วัดแม่สีเมือง.... ที่นี้คนไทยนิยมมากราบไหว้ ขอพรกัน มีประวัติความเป็นมาของแม่สีเมืองด้วยนะคะ
ที่นี้ เหมาะสำหรับไหว้ขอพร  เรื่องการงาน, การเงิน นะคะ

อย่ามาขอเรื่องความรักนะคะ...

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ด้วยความที่เรามาถึงสปป.ลาว แต่เช้า การเที่ยวเข้าวัดต่างๆ ก็จะเสร็จเร็ว 

ก็พาเพื่อนมาทานอาหารกลางวัน ร้านท้องถิ่น, อาหารถูกปากมากๆ ที่ร้าน

"3 เอื้อยน้อง แหนมข้าว หน้าวัดจันทบุรี" 

ในซอยอเมซอล ริมโขง เดินเข้ามาในซอยแปปเดียว ถ้าเดินมาจาก ปากทาง อเมซอล ริมโขง ร้านอยู่ซ้ายมือ 2 ห้องจ้าา



เมนูที่สั่ง มีเฝอแซ่บ, ลาบหมู, ตำหลวงพระบาง, ยอจีน อร่อยอยู่นะจ้าา

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
พอท้องอิ่มก็พาเพื่อนเดินกลับโรงแรมเพื่อ Check in เอากระเป๋าขึ้นห้อง เอนหลังก่อน (หลบแดดร้อนด้วยจ้า) 


สภาพห้องที่ใกล้ท่องเที่ยวก็จะไม่กว้างใหญ่เท่าไหร่ แค่พอนอนหลับ เอนหลังได้
พอถึงตอนเย็น... เริ่มเดินกันต่อจาก เริ่มต้นพาเดิน ถนนคนเดินสีหอม แต่เราออกเดินเรา 16.30 ร้านค้ายังตั้งร้านกันไม่เสร็จเลย
เลยได้แวะร้านนวด พาเพื่อนนวดขา กันก่อน ที่นี้หมอนวดมือหนักดีนะคะ โดนไป ชั่วโมงละ 60,000 กีบ
พอนวดเสร็จ ก็พาเดิน ถนนคนเดินสีหอม เลยจ้าาาา... ที่นี้มีขนมอร่อยด้วยน้าาา




และแล้วร้านนี้ที่อยากบอกต่อ "ปะเตโซ" คล้ายๆปั้บ บ้านเรา แต่ตัวแป้ง ทำมาจากเผือกกวน ไส้หมู
ปั้นใหม่ๆ ทอดใหม่ๆ ร้อนๆ อร่อยจริงๆ นะจ้าาา  ราคาชิ้นละ 4,000 กีบ (เงินไทย ชิ้นละ 8 บาท)




อิ่มท้องปุ๊บ พาเดินย่อยต่อจ้าาา  พาไปเดินตลาดร่มแดง กันจ้าา สินค้าก็หลากหลาย คุ้นตากันอยู่ ไม่ค่อยแหวกแนวเท่าไหร่
 

พาเดินสักพัก... อยู่ๆ ลมแรง ฝนตกจ้าาา 
ก็พากันไปร้าน "สามแยก ปำปาสัก" ร้านอาหาร และ ดนตรีสด

ร้านนี้ นทท. นิยมมานั่งกัน อาหารก็อร่อย ดนตรีก็ไพเราะ คุ้นๆหู (เพลงไทย)ทั้งน้านนนน  

เมนู ตำหมี่ไวไว (ก็คล้ายส้มตำ แต่ใช้เส้นมาม่า แทนบักหุ่ง) เพื่อนบอก อร่อยมากกก

อีกจานก็ คอหมูย่าง สั่งมาแกล้มเบียร์ลาว.... อร่อยอยู่นะจ้าา

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
เดียวมาต่อวันที่ 2 กันนะคะ EP หน้าจ้าา