ทริปนั่งรถไฟไปเที่ยวลาว หัวลำโพง-หนองคาย ต่อด้วยรถไฟลาวจีน เวียงจันทร์-วังเวียง ด้วยงบ 5000-7000 บาท

เดือนนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พวกเราได้ออกเดินทางด้วยรถไฟข้ามประเทศไปยังประเทศมาเลเซีย และเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้หลังจากนั้นก็ไม่ได้เดินทางไปไหนอีกเลย มาวันนี้สถานการณ์ดีขึ้น ประเทศลาวเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้แล้ว จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมา พาเลาะเจอร์นีย์ หัวลำโพง-วังเวียง

ทริปนี้พวกเราใช้เวลาเดินทาง 4 วัน 3 คืน โดยการเดินทางจะเป็นแบบที่ไม่ได้จองอะไรล่วงหน้าไว้เลย นั่งรถไฟจาก กทม. ไปลงหนองคาย แล้วข้ามแดนไปนั่งรถไฟลาวจีนเพื่อไปยังวังเวียง

สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เดินทางด้วยรถไฟ จากสถานีหัวลำโพงไปที่วังเวียงประเทศลาว โดยผมแยกออกมาเป็น 2 แบบครับ


แบบที่ 1. คือการเดินทางโดยที่มีตั๋วรถไฟลาวจีนแล้ว คือลงรถไฟไทยที่สถานีหนองคายแล้วข้ามแดนไปขึ้นรถไฟลาวจีนที่สถานีเวียงจันทร์เลย
งบประมาณ 4000 +- นิดหน่อย ต่อคน (ไม่รวมค่ากิน)


แบบที่ 2. คือการเดินทางแบบไม่ได้วางแผนจองอะไรล่วงหน้าไว้เลยตามสไตล์พาเลาะเจอร์นีย์ ซึ่งจะต้องไปจองตั๋วล่วงหน้าแล้วนอนที่เวียงจันทร์หนึ่งคืนก่อนเดินทาง ใช้งบประมาณ 7500 +- นิดหน่อย ต่อคน (รวมค่ากินแล้ว หมดเยอะไปกับค่าเบียร์  )

เนื่องจากว่าค่ากินจะแปรผันไปตามสถานที่ที่เราเลือกกินครับ เช่น บางคนกินภัตตาคาร บางคนกินร้านดีๆ หน่อย หรือบางคนเลือกกินเอาบรรยากาศแบบข้างทาง ราคาอาหารพอๆ กับบ้านเราครับ
ผมเลยสรุปค่ากินขั้นต่ำมาไว้ให้ตีไป 100,000 กีบต่อวันได้ครับ ราวๆ 250 บาท
ปล. วันที่พวกเราไปอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 405 กีบ / 1 บาท


จุดเริ่มต้นของทริปนี้ครับ สถานีรถไฟหัวลำโพง


การเดินทางในครั้งนี้ พวกเราไปกันแค่ 2 คนครับ คือเลิกงานปุ้บ ก็อาบน้ำแต่งตัวออกมาจากที่ทำงาน แล้วนั่งรถมาสถานีหัวลำโพงเลย
วันนี้เป็นวันที่ 23 มิถุนายน 2565


ตั๋วโดยสารที่ใช้เดินทางของคืนนี้ครับ พวกเราใช้บริการรถไฟขบวน 25 ด่วนพิเศษ CNR ซึ่งจะเป็นรถแบบนอนชั้น 2 แบบว่านอนหลับอีกทีตื่นขึ้นมาก็ถึงสถานีหนองคายเลย
ส่วนค่าโดยสารจะอยู่ที่
898 บาทเตียงบน
998เตียงล่าง
เวลารถออกคือ 20:00 ถึงปลายทางสถานีหนองคายเวลา 06:25 ครับ


เอกสารที่จำเป็นต้องพกไปด้วยในการเดินทางครั้งนี้คือ
1. หนังสือเดินทาง ( PASSPOT )
2. ใบรับรองการฉีดวัคซีน ( เราสามารถแคปหน้าจอจากแอปหมอพร้อมปริ้นต์ใส่กระดาษ A4 ไปได้เลยครับ )


20:00 รถออกจากสถานีหัวลำโพงครับ
เนื่องจากสถานการณ์โควิค ช่วงนี้ตู้สเบียงบนรถจะไม่มีอาหารขาย ดังนั้นให้ซื้อของกินติดขึ้นไปด้วยนะครับ
บรรยากาศภายในขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวน 25 คนไม่เต็มครับ ยังพอมีเบาะว่างอยู่บ้าง


นอนหลับตื่นมาอีกทีเช้าแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เดินมาเก็บเตียง และจะได้เป็นที่นั่งแบบนี้ครับ


อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น 06:25 รถไฟมาถึงที่สถานีหนองคายพอดี
เช้าวันนี้เป็นวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ครับ


ทางออกมีทางเดียว ตอนนี้ต้องต่อคิวเดินออก มีจุดที่ต้องวัดอุณหภูมิด้วย
และจากนี้ต้องหาทางเดินทางไปด่านพรมแดนหนองคายครับ


ที่หน้าสถานีรถไฟจะมีรถสามล้อสกายแล็บ ให้บริการอยู่ เดินมาแป้บเดียวพวกพี่ๆ เดินเข้ามาถามเลย
จะไปด่านใช่มั้ย มาๆ คนละ 50 บาท
อ่ะ...ไปก็ไป
จากสถานีรถไฟมาด่านดูเหมือนไม่ได้ไกลมาก 5 นาทีถึงน่าจะซัก 30 บาทเนอะ


ลงหน้าด่านเสร็จแล้ว ต่อไปต้องเดินเข้าไป ตม. ถึงตอนนี้ให้เตรียมพาสปอตกับใบรับรองฉีดวัคซีนรอเลยครับ ซึ่งจะใช้เวลาราวๆ 5 นาที ( วันนั้นคนไม่เยอะ )
ขั้นตอนนี้เราไม่สามารถถ่ายรูป หรือถ่ายวิดีโอได้นะครับ


ตรวจเอกสารเสร็จเรียบร้อย เดินตรงเข้ามา จะเจอบู้ทเล็กๆ ขายตั๋วโดยสารอยู่ทางขวามือ
ค่าโดยสารคนละ 30 บาท เพื่อขึ้นรถบัสคันนี้ ข้ามไปด่านฝั่งลาวครับ


คนเกือบเต็มรถ คนไทยคุยกันแนะนำกันได้ดีครับ


พอถึงด่านฝั่งลาว ( ตอนนี้ยังไม่ได้ข้ามเข้าไปลาวนะครับ ) เราจะต้องกรอกเอกสารแผ่นนี้ ก่อน จะมีเจ้าหน้าที่ยืนถือเอกสารนี้รอ เดินไปขอได้เลย
 

กรอกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ กรอกเสร็จแล้วก็ เอาเอกสารไปยื่นพร้อมตรวจพาสปอต
ตรงจุดนี้เขาจะคิดค่าตรวจพาสปอตคนละ 20 บาท ครับ
 

เสร็จจากตรวจเอกสารไม่นาน ( 5 นาที ) เดินเลยต่อออกมาจะมีจุดให้แลกเงินบาทเป็นเงินกีบ
ตอนแรกลังเลว่าจะแลกทีเดียวหมด หรือแลกพอใช้แล้วค่อยไปแลกข้างในดี ??


โอเค ตัดสินใจละ แลกตรงนี้เลยละกัน ผมแลกเงินไทยไปจำนวน 6500 บาท ได้เงินลาวมา 2,632,500
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้น 405 กีบ : 1 บาท
หูยย.. พกเงินสองล้านกว่าเลย


ตอนนี้เราต้องหารถเพื่อที่จะไปจองตั๋วรถไฟที่สถานีนครหลวงเวียงจันทร์ครับ
และตอนนั้นเองก็มีคนไทยที่จะไปที่เดียวกันเลยนัดกันเหมาไปพร้อมกันเลย เราใช้บริการรถจับโบ้คันนี้ครับ
ราคาเหมาจากด่านพรมแดนลาวมาสถานีรถไฟเวียงจันทร์ เขาคิด 400 บาท พวกเรามากัน 5 คน ก็ตกคนละ 80 บาท


มาถึงสถานีปุ้บ ยังไม่ทันทันไรก็เซลฟี่ก่อนเลย
ขอสักแชะหน่อย


ถ้าหันหน้าเข้าสถานีทางขวาสุดจะเป็นจุดเปิดให้เข้าไปจองตั๋วรถไฟ
ต้องบอกก่อนครับว่า ทริปนี้พวกเราไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อนเลยแล้วตั๋วโดยสารของวันนี้ก็เต็มแล้วด้วย
เราคุยกันว่าจะจองตั๋วของวันพรุ่งนี้ถ้าได้ก็จะกลับไปนอนที่เวียงจันทร์หนึ่งคืน
จริงๆ แล้วจะมีคนที่เขารับจองให้ด้วยนะครับแต่เขาจะบวกเพิ่ม ซึ่งพวกเราคุยกันแล้วว่าอยากจองเอง ยอมช้าได้ไม่เป็นไร


อันนี้จะเป็นเวลาในการจองตั๋วครับ จะเปิดเป็นรอบๆ ตามเวลาที่เห็นนี้
รอบแรก 07:00-10:00
รอบบ่าย 14:00-17:00
รอบเย็น 18:30- 20:00


อีกหนึ่งช่องทางที่ผมอยากจะแนะนำคือเพจนี้ครับ เพจนี้จะอัพเดทปี้โดยสาร หรือตั๋วโดยสาร ทุกๆ ช่วงเย็นของแต่ละวัน ว่าเหลือที่นั่งจำนวนเท่าไหร่


การจองตั๋วล่วงหน้านั้นทำได้มากสุดแค่ 3 วัน วันธรรมดาตั๋วโดยสารพอมีเหลือ
แต่ถ้าวันหยุด จองล่วงหน้า 2 วันบางทียังไม่ได้เลยครับ แนะนำให้จองก่อนแบบเนิ่นๆ เลย


ตอนนี้เวลาประมาณ 08:00 ผมมายืนต่อคิวเพื่อเข้าไปจองตั๋วครับ คนเยอะมาก แถวไม่ขยับเลย


บ่อนขายปี้ = ที่ขายตั๋ว


ในที่สุดก็ได้เข้ามาข้างใน สรุปว่าผมยืนเข้าแถวไปราวๆ สองชั่วโมง


มีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ หรือคำไหนอ่านไม่ออกก็อาศัยคนลาวที่ต่อแถวด้วยกันเล่าให้ฟัง ซึ่งเขาใจดีมาก อธิบายและช่วยเหลือเราอย่างเต็มใจ


กรุณาเข้าแถวรอนอกเส้นเหลือง
อ้อลืมบอกไป คนไทยเราพูดภาษาไทยได้เลยนะครับ คนลาวเขาเข้าใจเลย
ส่วนผมน่ะเหรอ ไทยไม่พูดครับหวดภาษาลาวตั้งแต่ลงรถละ 555


ตอนเข้าไปซื้ออย่าลืมพกพาสปอตกับใบฉีดวัคซีนไปด้วยนะครับ


เจ้าหน้าที่ขายตั๋วจะถามว่า เราจะไปลงไหน ไปกี่คน นั่งชั้นอะไร ไปเที่ยวไหน ให้แจ้งจำนวนไปได้เลย
ของพวกเรานั่งเป็นชั้น 2 เดินทางเป็นผู้ใหญ่ 2 คน ขบวนเวลา 08:30
และขั้นตอนสุดท้าย เขาจะหันจอมาให้เราดูเพื่อยืนยันความถูกต้องครับ
เมนูมีภาษาอังกฤษควบคู่กับภาษาลาว ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับว่าจะอ่านไม่ออก


และนี่คือตั๋วโดยสารที่เราซื้อมาครับ
รถไฟลาวจีนคันใหม่ EMU CR200J ต้นทางจากสถานีนครหลวงเวียงจันทร์-สถานีวังเวียง รถออกเวลา 08:30
ค่าโดยสารอยู่ที่ 125000 กีบ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 308 บาทครับ
** อัตราแลกเปลี่ยน 405 กีบ : 1บาท **


โอเค... เราได้ตั๋วโดยสารของวันพรุ่งนี้เป็นไปตามแผนแล้ว ต่อไปเราจะเหมารถเข้าตัวเมืองเวียงจันทร์ เพื่อไปซื้อซิมเน็ต และไปหาที่พักครับ
เราใช้บริการรถสามล้อเหมาเข้าเมือง พอถึงที่หมายแอบตกใจ
โดนค่าโดยสารไป 300000 กีบ
หืออ ตก 740 บาท คนละ 370 แม่เจ้า


ตอนนี้เรามาอยู่ที่ห้างเวียงจันทร์เซ็นเตอร์ครับ มาหาซื้อซิมเน็ท
ค่าซิม 20000 กีบ เติมเงินไปอีก 10000 กีบ ก็ตกประมาณ 50+25 = 75 บาท


ส่วนนี่คือราคา Package โปรโมชั่นต่างๆ ครับ


ณ เวลานี้พวกเราก็ยังไม่ได้จองโรงแรมนะครับ แต่ว่าหลังจากที่โทรศัพท์เข้าเน็ตได้แล้ว เราก็เจอเป้าหมายของโรงแรมที่จะไปแล้วครับ
เดินต่อครับ ที่เห็นไกลๆ นู่นคือประตูไซครับ


ในที่สุดก็มาถึงโรงแรมครับ พวกเราพักกันอยู่ที่ V Hotel
ราคาที่พักรวมอาหารเช้า 400000 กีบ ตกเป็นเงินไทยประมาณ 988 บาท นอนสองคนตกคนละ 494 บาทครับ


ห้องน้ำของโรงแรม


ห้องที่อยู่บรรยากาศดีมาก วิวมองออกไปทางนอกหน้าต่างติดแม่น้ำโขงเลย


ที่เห็นอยู่ตรงนู้นคือ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคายครับ


กรุณาอย่ารบกวน


กิจกรรมของวันนี้ไม่มีอะไรเพิ่มเติม หลักๆคือเราจะนอนพักเพื่อตื่นนอนไปขึ้นรถไฟพรุ่งนี้ตอนเช้า
และมีความโชคดีอย่างหนึ่ง พี่ที่รู้จักกันบ้านอยู่เวียงจันทร์ ทักมาหา เราเลยใช้โอกาสนี้ ให้พี่เขาเป้นไกด์หาของกินซะเลย 555


ตะลอนเลาะหาของกินในเวียงจันทร์ครับ อาหารก็สไตล์เดี่ยวกันกับบ้านเราเลย
แต่เครื่องดื่มราคาไม่แพงแฮะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่