กว่า 1 สัปดาห์ครึ่งแล้วที่กรณีพิพาทภายใน SM Entertainment ได้ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (6 กุมภาพันธ์)
ล่าสุด สมาคมผู้ผลิตความบันเทิงเกาหลี (Korea Entertainment Producers Association, KEPA) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้
โดยในวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ทาง KEPA ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและประกาศจุดยืนต่อกรณีที่เกิดขึ้น
โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้กันเพื่อสิทธิ์ในการบริหารจัดการ SM Entertainment
ระหว่าง HYBE กับ Kakao ในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับ 1 และอันดับ 2 ของ SM Entertainment
โดย KEPA ได้กล่าวถึงอีซูมานในช่วงต้นของแถลงการณ์นี้ว่า
"อีซูมาน ผู้ก่อตั้ง SM Entertainment นั้นเปรียบเสมือนผู้ที่ช่วยให้กำเนิดวงการเพลง K-Pop และ Korean Wave
และเป็นโปรดิวเซอร์ระดับตำนานของวงการเพลงเกาหลีที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจิตวิญญาณความเป็นผู้บุกเบิกของอีซูมานในฐานะโปรดิวเซอร์นั้นได้ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมอันแห้งแล้งของเรา"
หลังจากนั้นทาง KEPA จึงได้กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นในขณะนี้ของ SM ว่า
"เหล่าโปรดิวเซอร์ของพวกเรานั้นได้แสดงความประหลาดใจและโกรธเคืองต่อแผนการตื้นๆของผู้บริหารปัจจุบันของ SM
บริษัทไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่ และกองทุนต่อต้านสังคมที่แสร้งทำตัวเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลง
แต่แท้จริงแล้วมีเป้าหมายเพื่อผลกำไรโดยมีเป้าหมายเพื่อ M&A ที่ไม่เป็นมิตร"
ถ้อยคำดังกล่าวนั้นดูจะเห็นได้ชัดทีเดียวว่า KEPA กำลังโจมตีอีซองซูและทักยองจุน CEO ปัจจุบันของ SM
รวมไปถึง Kakao และ Align Partner ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทใน SM ครั้งนี้ในฐานะพันธมิตรของอีซองซูและทักยองจุน
ไม่เพียงแค่นั้น ทาง KEPA ยังได้กล่าวโจมตี Align Partner ด้วยว่า
"พวกเขา (Align Partner) ไม่ได้มีความเข้าใจถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางวัฒนธรรมหรือระบบการผลิตเลยแม้เพียงนิด
แต่กลับเอาแต่พูดซ้ำๆซากๆเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และมีส่วนร่วมในการกระทำที่สวนทางกับกลุ่มวัฒนธรรมอย่างเห็นแก่ตัว
โดยใช้ดาราและผู้มีชื่อเสียงเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการแสวงหาผลกำไร"
นอกจากนี้ KEPA ยังได้วิพากษ์วิจารณ์แนวคิด SM 3.0 ของอีซองซูและทักยองจุนที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อันมีเนื้อหาใจความว่าจะยกเลิกระบบ One-Man Production ของอีซูมาน และนำระบบ Multi Production
จากทั้งทีมงานภายในและภายนอก SM มาใช้ในการทำงานแทน
"แม้ว่าจะมีปัญหาภายในระหว่างกระบวนการสร้างบริษัทด้วยเลือดและหยาดเหงื่อเป็นเวลาหลายทศวรรษ
ข้อเท็จจริงที่ว่าโปรดิวเซอร์อีซูมานคือผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SM นั้นก็เป็นข้อเท็จจริงที่เห็นได้ชัด
ดังนั้นการที่ฝ่ายบริหารปัจจุบันของ SM เสนอเหตุผลที่หลอกลวงในการจัดตั้งระบบการผลิตที่หลากหลาย
และเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้นโดยไม่รวมผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แล้วสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อแย่งชิงบริษัท
โดยการออกหุ้นใหม่และหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับบริษัทไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่นั้นถือป็นการทรยศที่ไม่อาจยอมรับได้
และเป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรม ผิดจรรยาบรรณ และไม่มีน้ำใจนักกีฬาที่ทำลายระบบนิเวศของวงการบันเทิง"
ในขณะเดียวกัน KEPA ยังกล่าวด้วยอีกว่า
"การบริหารจัดการในขณะนี้ของ SM นับเป็นการกระทำอย่างทรยศซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจกันแม้เพียงในระดับเล็กน้อย
ดังนั้น นี่จึงเป็นการกระทำที่ทางเรา KEPA ไม่สามารถให้อภัยได้ และหากการสมรู้ร่วมคิดระหว่างบริษัทไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่ที่แสวงหาการขยายตัว
โดยใช้การเคลื่อนไหวแบบปลาหมึกยักษ์ด้วยทุนที่ไม่ยุติธรรมและผู้บริหารปัจจุบันยังคงดำเนินงานต่อไป และหากการแย่งชิงสิทธิ์
ในการบริหารจัดการที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยังคงดำเนินต่อไปนั้น ทางสมาคมจะไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน"
[K-POP] Korea Entertainment Producers Association ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความกังวลต่อวิกฤตของ SM Entertainment