พ่อแฟนแอบอมไอติมเเล้วป้อนใส่ปากลูกเรา

คือเรา พาลูก มาเที่ยวบ้านแฟน ลูกเราอายุ 4 เดือนก่อนจะมาบ้านแฟนเราก็เคยพูดกับแฟนไว้แล้วว่าลูกยังกินอะไรไม่ได้นอกจากนมแม่ หมอย้ำว่าห้ามกินน้ำหรือกินอย่างอื่นนอกจากนมแม่เท่านั้นก่อน 6 เดือน เราก็บอกให้แฟนบอกทางฝ่ายครอบครัวแฟนให้เข้าใจด้วย วันหนึ่ง พ่อของแฟนอุ้มหลาน แล้วทีนี้เราก็กำลังทำอย่างอื่นอยู่เราก็บังเอิญมาเห็นว่าพ่อของแฟนกินไอติมแล้วก็เอาไปป้อนหลานโดยใช้ปากตัวเอง ป้อนใส่ปากหลาน แต่ป้อนครั้งเดียว เพราะว่าเราเดินเข้าไปก่อน พ่อของแฟนก็หยุดทำ ที่นี้เรามาคุยกับแฟน ว่าพ่อแฟนทำแบบนี้นะคือบอกแกด้วยว่าห้ามทำแบบนี้ เราก็ให้แฟนเราบอกพ่อเขาเอง แต่เท่าที่ดูแฟนเราก็ไม่สนใจพูดเรื่องนี้ พอเราเอาเรื่องนี้มาบอกก็เงียบไป ไม่เห็นจะสนใจห้ามสนใจเตือนทางฝ่ายครอบครัวตัวเองเลย เราไม่อยากพาลูกไปบ้านแฟนเลย พาไปทีไรพ่อแฟนชอบดื้อ จูบปากหลานบ้าง ถ้าเราไม่ไปอยู่ด้วยตลอดเวลาก็จะแอบหาอะไรมาใส่ปากหลานเราก็ไม่รู้ ทำยังไงดีทุกคนเราไม่กล้าบอกเตือนแกเองเพราะว่าเราไม่ได้สนิทกับแกนานๆทีไปบ้านเเฟน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ทำแบบนี้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ยิ่งเด็กอ่อนด้วย  ตอนลูกเราเพิ่งคลอด ความที่ตัวโตแก้มเยอะ น่าฟัดมาก ใครมาก็อดหอมแก้มไม่ได้ ผลคือ เดือนที่สาม ต้องหอบลูกไป รพ เพราะปอดอักเสบ  หมอห้ามเด็ดขาดไม่ให้ใครหอมแก้มอีก

จขกท อธิบายให้สามีฟัง เชื้อโรคจากน้ำลายร้ายกว่าหอมแก้มหลายเท่า  ถ้าสามีเกรงใจพ่อแม่ ไม่กล้าห้ามปราม หนูก็พูดเอง ถ้าเขาไม่พอใจก็ไม่ต้องพาหลานไปเจอ  อย่าลืมว่าคนเล่นกับเด็กประเดี๋ยวประด๋าว ไม่รู้หรอกว่า เวลาเด็กป่วย คนดูแลเหนื่อยแค่ไหน ไหนจะงานประจำ ไหนจะงานบ้าน ไหนจะสามีที่ไม่เอาไหน
ความคิดเห็นที่ 3
สยองขวัญค่ะ ไม่ต้องพาไปแล้วค่ะถ้าทั้งแฟนและพ่อแฟนเป็นแบบนี้
แต่ก็ไม่รู้จะหลบได้ถึงเมื่อไหร่นะ ถ้าวันดีคืนดี ต้องให้เขาช่วยเลี้ยง ฝากเลี้ยงไว้ ก็คงห้ามไม่ได้

การจุ๊บปากเด็ก การอมอาหารมาป้อนให้เด็ก แม้แต่การเป่าอาหารเดี๋ยวนี้ก็ไม่แนะนำแล้วนะ
ความเสี่ยง เผื่อเอาไปพูดให้แฟนฟัง
1.ติดเชื้อเริม ที่เชื้ออาจจะแฝงอยู่แล้วโดยไม่มีอาการแต่แพร่ได้ เริมสามารถเข้าสู่สมองได้
2.เชื้ออื่นๆ ทุกชนิดแหละ (หวัด โควิด วัณโรค) แต่เริมคือรุนแรงและเคยมีข่าวเด็กเสียชีวิตแล้วด้วย
3.แบคทีเรียสาเหตุฟันผุ ถ่ายทอดทางน้ำลาย
4.ถ้าเด็กแพ้ถั่ว แล้วผู้ใหญ่กินถั่วมา เด็กก็แพ้ อันนี้เคยมีกรณีเสียชีวิตจากการจูบด้วยนะคะ

(เคยสงสัยนะว่าทำไปทำไม ได้คำตอบว่า บางคนเคี้ยวข้าวให้ละเอียด บางคนอมรสเผ็ดออก สยองค่ะไม่รู้คิดได้ไง)

เคยมีญาติๆกัน พ่อสามีสูบบุหรี่ ลูกสะใภ้เลยบอกว่า ให้เปลี่ยนเสื้อก่อนอุ้มหลานและอย่าหอมแก้มหลานเพราะมีกลิ่น สรุป คนแก่งอนค่ะ
ไม่ไปหาหลาน นานเลยค่ะ จริงๆก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะ แต่คือรับรู้ได้ว่างอนค่ะ
สิ่งที่ควรจะเป็นคือ เลิกบุหรี่ต่างหาก รองลงมาอีกก็คือ เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างมือให้สะอาดก่อนไปหาหลานและหลีกเลี่ยงการกอดหอม
ความคิดเห็นที่ 9
คุณคงต้องพูดกับพ่อสามีค่ะ  เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พาลูกไปบ้านพ่อสามีเลบจนกว่าลูกจะโต

พูดอธิบายดีๆว่า เด็ก4เดือนทานเฉพาะนม ป้อนอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเด็กจะลำไส้อักเสบ  และห้ามเอาของที่เข้าปากผู้ใหญ่แล้วไปป้อนให้เด็ก เพราะอาจทำให้เกิดโรคได้

(ถ้าเป็นเราจะต่อท้ายด้วยว่า ถ้าพ่อทำอีก  หนูจะอมไอติมแล้วให้พ่อกินต่อบ้างกล้ากินมั้ยล่ะ)

โดนพ่อสามีไม่ชอบก็ต้องยอมค่ะ  เน้นว่าพูดอธิบายดีๆนะคะ

สมัยลูกเล็กเรานี่เป็นหน่วยปราบปรามเลยค่ะ  ลูกโยกเก้าอี้เล่นแล้วล้ม  ปู่วิ่งมาตีเก้าอี้ เราพูดเลยว่า เก้าอี้ก็อยู่ของมันดีๆมีลูกน่ะไปโยก เก้าอี้ไม่ผิดนะ  กับ  ย่าพูดว่าเดี๋ยวตำรวจจับนะ  เราก็พูดลอยๆว่า  ไม่ได้ทำผิดเป็นโจร จะไปกลัวทำไม  ทวดบอกให้เคี้ยวข้าวแล้วคายต่อให้ลูกกิน (ลูกยังฟันไม่ขึ้น)เราบอกสมัยนี้มีเครื่องปั่นแล้ว ไว้ทวดเคี้ยวไม่ไหวจะเคี้ยวป้อนทวเแล้วกัน 555

โดนเค้าเกลียดไปทั่วค่ะ แต่ดีตรงทำตามที่เราบอก ไม่ค่อนกล้ามาอะไรกับลูกเราเพราะกลัวปากอิแม่นี่ล่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่