[SR] ขุนด่าน-นางรองความเร็วสูง เมื่อความอยากไปถ่ายรูปกำเริบเสิบสานสูงสุด

นี่คือทริปทางไกลทริปแรกของผมในปีนี้ แม้จะเป็นทริปวันเดียวกับจุดหมายที่ไม่ไกลมาก แต่ความประทับใจที่ได้รับก็ไม่แพ้ทริปก่อนหน้าเช่นกัน ทั้งเรื่องสมหวังทั้งเรื่องผิดหวัง ซึ่งแน่นอน เดี๋ยวผมโม้ให้ฟังเหมือนเดิม



    สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเอง หลังจากไม่ได้ไปเที่ยวขุนด่าน-นางรองซะนาน ยิ่งบวกกับตอนนี้กำลังเห่อวิชาถ่ายรูปที่ได้จากการเล่นกล้องฟิล์มอีก จึงบังเกิดเป็นที่มาของทริปนี้ จะเป็นยังไง ไปชมกันครับ



    หลังกลับมาจากทริปเพชรบุรี ผมก็คิดทริปต่อไปทันที ต้นปีนี้จะไปไหนดีเรา ทริปต้นปีเนี่ย ผมยังไม่ค่อยอยากไปค้างอยากไปเช้าเย็นกลับมากกว่า ว่าจะไปเขาใหญ่ ก็คิดว่าไม่เหมาะเพราะวันเดียวไปได้ไม่ทั่ว จะลงชะอำ ก็ยังเต็มอิ่มอยู่เพราะเพิ่งกลับมา หรือจะไปชลบุรี ก็น่าสนใจ แต่ยังไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ คิดไปคิดมา เอ้อ... เราไม่ได้ไปนั่งเล่นริมน้ำตกนานแล้วนี่หว่า นั่นแหละครับที่มาของทริปนี้ หลังจากนั้นก็นับวันรอเวลาออกลุย

    เด้งขึ้นจากเตียงตี 4 ครึ่ง ออกจากบ้านมาก็ขับมอไซค์เลาะมาเรื่อย ๆ จำได้ว่าทริปเขาใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน เส้นหมายเลข 9 แถว ๆ บางไทรกำลังทำถนนอยู่ ป่านนี้คคงเสร็จแล้วมั้ง... สงสัยผมจะมองโลกแง่ดีเกินไปมาาาาากกกกกกกกกกกกก เพราะสิ่งที่ผมเจอคือสุด ๆ ถนนกำลังสร้าง ผิวถนนหาความเรียบไม่เจอเลย มืดตึ้บ ไฟทางบนเกาะกลางก็ไม่เปิด ไฟข้างถนนก็ไม่มี ยิ่งบวกกับการที่ผมทำงานเข้าเช้ามืดต่อกันมา 4 วัน ง่วงสะเด็ดหยาดเลยทีเดียว ไม่ไหวแล้ว แวะหากาแฟกระแทกตาที่ป.ต.ท.แถว ๆ สามโคกก่อนเลย นี่ดีกว่าวันนี้มีรถพ่วงรถบรรทุกน้อย แล้วด้วยความที่ถนนเป็นแบบนี้รถคันอื่นก็ต้องวิ่งช้าลง



    บิดมาเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ที่บ้านผมอากาศร้อนเต็มที่แล้ว แต่เมื่อผมมาถึงหินกองและเลี้ยววนเข้านครนายก อากาศเย็นฉ่ำก็ปะทะหน้า ผมละอยากให้ที่บ้านเย็นแบบนี้บ้างจัง

    เลี้ยวเข้าเส้น 3239 เส้นนี้จะเข้าเขื่อนจากขวาสุด และก็เป็นทางที่ยังคงมีความโลคคอลจริง ผมชอบ แต่เมื่อบิดมาเรื่อย ๆ ผมก็เห็นว่า ตอนนี้เขากำลังขยายถนนอยู่ จาก 2 เลนซ์ เป็น 4 เลนซ์ (ไป 2 กลับ 2) บ่งบอกว่า หลาย ๆ อย่างกำลังเปลี่ยนไป หลายสิ่งหลายอย่างกำลังเข้ามาที่นี่ ทั้งที่ดีและไม่ดี มันทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยได้เจอครับ บ้านผมเมื่อราว ๆ 8-9 ปีก่อน สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าความเจริญกำลังมาคือ เซเว่นที่ผุดขึ้นแทบทุกแยก หลังจากนั้นไม่นานที่ทางต่าง ๆ ก็เริ่มถูกขาย กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรร ตอนนั้นผมจำได้แม่นเลย ทุก ๆ สุดสัปดาห์จะต้องได้ยินหม้อแปลงระเบิดเพราะจ่ายไฟฟ้าเกินกำลังจากการใช้ไฟฟ้าของคนที่เข้ามาอยู่มากขึ้น ข้อดีก็คือการไฟฟ้าก็ต้องมาเปลี่ยนหม้อแปลงและยกระดับเลเวลไฟฟ้าในพื้นที่ ทำให้บ้านผมตอนนี้ไฟฟ้าแทบไม่ดับเลย ต่างจากก่อนหน้านั้นที่ฝนตกหนักเมื่อไหร่ รู้เรื่อง แต่ถึงแบบนั้น มันก็มีราคาที่ต้องแลก จากถนนในซอยที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังพอดีรถไม่ติดมาก กลายมาเป็นว่า ถ้าออกผิดเวลาเมื่อไหร่ เป็นอันต้องนั่งแหง่วอยู่ในรถกันยาว ๆ หรือหน้าบ้านผม ที่เมื่อก่อนหิ่งห้อยเคยเยอะมาก เยอะเพราะบริเวณหน้าบ้านเคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ และหิ่งห้อยก็เป็นแมลงกินเนื้อ ตัวอ่อนหิ่งห้อยกินหอยทากน้ำเป็นอาหาร แต่มาทุกวันนี้ไม่เหลือแล้ว เพราะหน้าบ้านผมทุกวันนี้กลายมาเป็นโรงงานเพาะพันธุ์ไม้ซะแล้ว พอ ๆ เข้าเรื่องทริปวันนี้กันต่อ แล้วผมก็เลี้ยวเข้าเส้นเรียบด้านข้าง เป็นถนนเล็ก ๆ ที่ลัดไปตามต้นแม่น้ำนครนายก บรรยากาศดี้ดี



    เห็นทางแบบนี้แล้วมันอดไม่ได้ เช็คอินซะหน่อย



    มองไปเห็นดอกหญ้าข้างทางล้อเล่นแสงแดด กดซักรูป



    มีความตะมุตะมิ



    มาโครซะหน่อย



    บิดไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร็วมาก เผื่อเจออะไรน่าสนใจจะได้แวะทัน



    เช้นฝายนี้เป็นต้น



    แดดกำลังสวย มุมกำลังได้ กดซักรูป



    แล้วผมก็มาถึงแก่งน้ำซับ



    เช็กอินซะหน่อย



    มาไปด้านหน้า เห็นเขาทะมึนมาแต่ไกล เอาฟีลแบบโลนลี่เมาท์เท่นหน่อยละกัน เผื่อจะได้เจอทอริน โอเคนชิล... สงสัยดูฮอบบิทเยอะไปหน่อย



    ข้างหินมีมอสขึ้นบวกกับมีฝูงจิงโจ้น้ำ ดูชุ่มชื่นดี



    สาหร่ายในน้ำ



    รูปจากกล้องฟิล์ม 120 ทริปนี้ผมเองกล้องมา 3 ตัว มี Fujifilm X300 เป็นตัวหลัก โดยผมตั้งฟิล์มซิมูเลชันไว้ ภาพมันเลยจะดูแบน ๆ หน่อยนะครับโดยเฉพาะรูปกลางแจ้งแดดเปรี้ยง ๆ ผมเองก็เพิ่งมาเห็นที่บ้านตอนเอาลงคอม เซ็งเลย อีกตัวคือ Ricohflex Model VII กล้องทวินเลนซ์ 120 ใช้เก็บมุมพิเศษ ๆ และ Canon Ixus 185 เป็นตัวสแนป

เผื่อใครอยากอ่านรีวิวตัวกล้อง Ricohflex Model VII

จิ้มโลด



    ออกจากแก่งมาไม่นาน เราก็มาถึงกำแพงมาเรียกันแล้ว ระวังไททันด้วย



    ผมเข้ามาจากทางขวาสุดของเขื่อน พื้นที่รอบ ๆ เป็นเหมือนสวนสาธารณะ



    แวะถ่ายรูปซักหน่อย



    ฝักดอกตะแบก



    มาดูรูปจากฟิล์ม 120 กันหน่อย



    โฟกัสที่ตัวรถ แต่ตัวผมที่นั่งอยู่ดั้นเบลอ เอ้อขนาดถัดจากจุดโฟกัสไปแค่นิดเดียวเองนะ



    มาดูสิ่งที่ผมแบกมากันหน่อย ตัวไม่ใหญ่ แต่หนักใช้ได้เลยเจ้าโมเดล 7 แฟลชแคโนไลท์ที่ติดบนเอ็กซ์ 30 ไม่ได้ตรงรุ่นกันก็จริง แต่ก็ใช้ด้วยกันได้ และที่สำคัญ ใส่แล้วกล้องดูหล่อขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะไม่ได้ยิงแฟลชซักช็อตเลยก็เถอะ



    ตัดมาที่มุมยอดนิยม สงสัยผมต้องหาฮู้ดมาใส่ซะละ



    มาดูหน้าเขื่อนกันหน่อย



    เช็กอินซะหน่อย



    มองซ้ายมองขวา ขยะเยอะจังวุ้ย เมื่อวานวันอทิตย์บวกกับมีงานด้วย ขยะก็เลยเยอะ ฉนั้น อย่าลืมครับ ทิ้งขยะให้ลงถัง



    ชมวิวกันต่อ



    น้ำใสกิ้ก มีบัวด้วย ไม้รู้ขึ้นตามธรรมชาติหรือว่ามีคนเอามาลง



    อีกซักรูปก่อนขึ้นสันเขื่อน



    ตอนขาขึ้น มีรอบน้ำอยู่บนทางยังไม่แห้งดี ผมเลยไม่กล้าเทอะไรมาก อาศัยดุ่ย ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึง



     อีกซักรูป



    จากตัวกล้องฟิล์ม 



    ดันหน้าชัดหลังเบลอกันหน่อย



    เดินย่ำต๊อกมาจนถึงตัวสันเขื่อนกับวิวมุมหน้าเขื่อน นี่แหละครับ ผลจากการเซ็ทฟิล์มซิมูเลชันมากเกินไปของผม ดัน ISO สูงเกิน เม็ดน้อยซ์ผุดเต็มเลย โฟกัสใกล้สวย แต่พอโฟกัสมุมกว้าง แอบเบลอ เศร้าเลย



    อะไรน่าสนใจผมกดรูปหมด



    มุมหลังเขื่อน ย้อนแสงจัด ๆ 



    แต่พอเป็นขาวดำ ดั้นดูชัดกว่าซะงั้น



    และกับฟิล์มจริง ๆ ก็ยังดูชัดกว่า ไม่รู้เกี่ยวกับขนาด 120 ของฟิล์มด้วยหรือเปล่า



    โฟกัสไม่เข้าจ้า



    เช็กอินซะหน่อย



    แดดเปรี้ยงเลย จะละลายแล้ว



    ขอกาแฟอีกซักแก้ว เดี๋ยวจะง่วงซะก่อน



    ก่อนไปต่อ โฟกัสเหมือนจะเข้า แต่ดูดี ๆ ไม่เข้าอีกแล้วววว



    และแล้วเราก็มาถึงหัวใจของทริปนี้ น้ำตกนางรอง ตอนมาถึง ดอกนี้สวยดี กดซักรูป



    นึกว่าจะได้เจอกับดงเฟิร์นบนสะพาน แต่ไม่มี สงสัยตอนนี้น้ำเริ่มแห้งแล้ว ความชุ่มชื่นน้อยลง เฟิร์นเลยตายหมด หรือเปล่า



     นี่ครับ ผมนึกว่าจะได้เห็นแบบนี้ รูปนี้จากทริปนางรองครั้งล่าสุดก่อนครั้งนี้ 4 ปีที่แล้ว



    เดินด็อกแด้ก ๆ ไต่หินมาเรื่อย ๆ ก็มาหยุดอยู่ที่ริมน้ำ



    กดรูปไปเรื่อย



    ด้านหลัง



    เช็กอินซะหน่อย 



    ถอดเสื้อคลุมละผม ร้อนตับแลบ เดี๋ยวขากลับ เอาขยะที่เจอขึ้นไปทิ้งด้วย
    


    ลงเล่นน้ำไม่ได้ ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ขอวักน้ำล้างหน้าล้างตาหน่อยละกัน เหงื่อท่วมตัวเลย น้ำเย็นฉ่ำ



    เสียงน้ำไหล 



    ธรรมชาติบำบัด
ชื่อสินค้า:   เขาหล่นผจญภัย
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่