วิเคราะห์ ว่าทำไม Avatar บทงั้น ๆ แต่ทำเงิน

ขออนุญาตวิเคราะห์ด้วยเหตุผลส่วนตัวนะครับ

ทำไมหนังเรื่อง Avatar 2 ทำเงินมาก แม้บทหนังจะไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งหนังเรื่องนี้เสียงค่อนข้างแตกมาก ฝั่งแรกคือสนุก ฝั่งที่สองคือบทห่วย แต่มาดูตัวเลขรายได้ของหนังทำไปถึง 2,176,229,105 ล้านเหรียญ (ในเมกา 636,955,746 นอกเมกา 1,539,273,359) แสดงว่าหนังของป๋าเจมส์แกมีของ แม้บทจะเดินเป็นเส้นตรง งั้นอะไรที่ทำให้หนังแกทำเงินได้ขนาดนี้?
(รายได้ ณ ปัจจุบัน วันที่ 7 ก.พ. 66)


ย้อนไปดูหนังตั้งแต่สมัยเป็นม้วนวีดีโอบทหนังเก่า ๆ ในยุค 80 - 90 มักจะไม่มีอะไรซับซ้อน เดินเป็นเส้นตรง มีฝั่งดีฝั่งร้ายแบ่งแยกชัดเจน มีภารกิจที่ต้องทำ และฉากไคลแม็กซ์ตอนจบแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม ไม่ว่าจะเป็น Rambo, Terminator, Robocop, Die Hard หรือหนังแอคชั่นเรื่องอื่น ๆ บทก็จะไม่หนีกันไปเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าหนังจะมีภาคต่อมันก็จะเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่เล่าแบบเดิม ๆ ละก็จบไปแบบไตรภาค ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ค่อนข้างจะตายตัวสำหรับหนังยุค 80 - 90 (และไล่มาจน 2000 ก็ยังมีให้เห็นอยู่)


ซึ่งหนัง Avartar ทั้งภาค 1 และ 2 ก็ทำแบบนั้นเป็นบทหนังรุ่นเก่า ที่มีฝั่งดีฝั่งร้ายชัดเจน มีภารกิจระหว่างทาง และก็จบด้วยท่อนฮุคด้วยฉากแอคชั่น หากไล่ไปดูหนังเก่า ๆ ของป๋า เจมส์ คาเมรอน เช่น คนเหล็ก, Aleins 2, True Lies และ Titanic จะพบว่าหนังแกนั้นจะไม่เน้นอะไรที่มันซับซ้อน บทจะดูง่าย ย่อยง่าย ไม่อืดท้อง แต่ป๋าจะเน้นมาทางด้านเทคนิคการถ่ายทำพิเศษที่ยาก ๆ จนกลายเป็นต้นแบบของหนังในรุ่นต่อ ๆ ไปเลย แม้บทหนังจะไม่เต็มร้อย แต่เรื่องเทคนิคป๋าแกเกินร้อยแน่นอน เห็นได้ชัดจากหุ่นหลอมเหลวในเรื่องคนเหล็ก แค่แนวคิดให้หุ่นหลอมเหลวเดินทะลุลูกกรงก็ทำให้ทีมเอฟเฟคกุมขมับกันแล้ว ส่วนใน Avatar คงไม่ต้องบอกเลยว่าป๋าแกพาเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ กับการถ่ายทำ 3D มาไกลแค่ไหน ถึงแม้ป๋าจะไม่ได้เริ่มต้นแต่ก็ต่อยอดได้อย่างดี


ในยุคที่คนดูฉลาด จับทางหนังได้ เดาตอนจบออก งั้นป๋าก็เขียนบทให้มันง่าย ๆ ตามสไตล์เดิมไปเลย คือไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเดา เพราะยังไงป๋าก็จะพาหนังไปทางนั้นอยู่แล้ว เมื่อคนดูจับทางหนังได้งั้นลองมาจับผิดเทคนิคการสร้างโลกใบใหม่ดู ป๋าเลยจับเรามานั่งในดาวแพนดอร่าด้วยเทคนิคที่สมจริง ป่าคือป่า น้ำคือน้ำ สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย รวมถึงชาวนาวีตัวสีฟ้า จากอากาศลงมาใต้น้ำป๋าแกเอาอยู่หมัด ราวกับว่าดาวแพนดอร่าดวงนี้มันมีอยู่ในจักรวาลนี้จริง ๆ จนคนดูหลุดโฟกัสจากบทและลงไปเที่ยวในดาวแพนดอร่าแทน ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะป๋าเล่นกับความอยากรู้ของคน อยากรู้ว่าในดาวนี้มันมีอะไรบ้าง


และตัวเลขรายได้ของหนังมันก็บอกชัดเจนแล้วว่าป๋าคิดถูก ถึงแม้ตอนไปดูผมจะนั่งหาวกับหนังไปหลายรอบ แต่ที่ไม่ยอมหลับเพราะอยากดูธรรมชาติของดาวแพนดอร่าซึ่งมันสวยจริง ๆ 555 และ ซีจีของหนังเรื่องนี้คือพระเอกตัวจริง ในอนาคตภาค 3 - 5 ที่กำลังจะออกมาผมก็ต้องไปดูแน่นอน ถึงแม้จะไม่ได้อินกับบทหนังมากเท่าไหร่ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการซื้อตั๋วไปเที่ยวดาวแพนดอร่าให้มันเห็นภาพแบบเต็ม ๆ ตา

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่